กรุงเทพโพลล์: นักเรียนคิดอย่างไรกับการสอบแอดมิสชั่นส์ระบบใหม่

ข่าวผลสำรวจ Thursday July 9, 2009 10:39 —กรุงเทพโพลล์

เนื่องจากการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบกลาง หรือ แอดมิสชั่นส์ ได้มีการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ใหม่โดย จะเริ่มใช้สำหรับการสอบคัดเลือกในปีการศึกษา 2553 ที่จะถึงนี้เป็นปีแรก และในช่วงวันที่ 11-19 กรกฎาคมนี้ จะมีการจัดทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) และการทดสอบความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ (PAT) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบแอดมิสชั่นส์ระบบใหม่ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) จึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “นักเรียนคิดอย่างไรกับการสอบแอดมิสชั่นส์ระบบใหม่” ขึ้น โดยเก็บข้อมูลจากนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนรัฐและเอกชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งสิ้น 1,549 คน เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน - 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา สรุปผลได้ดังนี้

1. การได้รับทราบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบแอดมิสชั่นส์ระบบใหม่ของนักเรียนชั้น ม.6
          - ได้รับทราบข้อมูลเพียงพอแล้ว                    ร้อยละ 34.2
          - ยังได้รับทราบข้อมูลรายละเอียดไม่เพียงพอ          ร้อยละ 65.8

2. ความเหมาะสมของหลักเกณฑ์การสอบแอดมิสชั่นส์ระบบใหม่
(สอบถามเฉพาะผู้ที่ระบุว่าได้รับทราบข้อมูลเพียงพอแล้ว)
         - เห็นว่าเหมาะสมดีแล้ว                          ร้อยละ  16.4
         - เห็นว่าไม่เหมาะสม                            ร้อยละ  51.8

(โดยให้เหตุผลว่า ข้อสอบยากเกินไป หลักเกณฑ์เงื่อนไขยุ่งยากวุ่นวาย อ่านหนังสือไม่ทัน ยังเรียนไม่ครบหลักสูตร เป็นต้น)

         - ไม่แน่ใจ                                    ร้อยละ 31.8

3. ความคิดเห็นต่อความเหมาะสมเกี่ยวกับการจัดสอบความถนัดทั่วไป(GAT) และการทดสอบความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ (PAT) พบว่าส่วนใหญ่
เห็นว่าเรื่องที่ดำเนินการได้เหมาะสมดีแล้วได้แก่ การกำหนดช่วงเวลาในการสอบ การเปิดโอกาสให้สอบได้ตั้งแต่ชั้น ม.5  การใช้ช่องทางสมัครสอบ
ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต การกำหนดสถานที่สอบ และการประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวเกี่ยวกับการสอบ ส่วนที่ไม่เหมาะสมคือ เรื่องเนื้อหาของข้อสอบ และค่า
สมัครสอบที่แพงเกินไป    โดยมีรายละเอียดดังตารางต่อไปนี้

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
            ประเด็น                               เหมาะสม  |                       ไม่เหมาะสม
                                                 (ร้อยละ)  |                        (ร้อยละ)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
                                                   73.1   |                         26.9
 การกำหนดช่วงเวลาในการสอบ (จัดสอบปีละ 3 ครั้ง ในเดือน-          |   โดยให้เหตุผลว่า ช่วงเวลาสอบติดกันเกินไปอ่านหนังสือไม่ทัน ยังเรียนไม่ครบหลักสูตร
 มี.ค. ก.ค. และ ต.ค.)โดยสามารถเลือกคะแนนครั้งที่ดีที่สุดมาใช้        |   จำนวนครั้งในการจัดสอบมากเกินไปสร้างความเครียดและกดดัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

|

 การเปิดโอกาสให้สอบได้ตั้งแต่ชั้น ม.5                        71   |                           29

| โดยให้เหตุผลว่า ยังเตรียมตัวไม่พร้อม และเนื้อหาที่ใช้ในการสอบเป็นของ ม . 6 -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 เนื้อหาของข้อสอบ                                     41.9   |                          58.1

| โดยให้เหตุผลว่า ยากและสับสน เนื้อหาบางเรื่อง

| ยังไม่เคยเรียน -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ช่องทางการสมัคร (ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต)                   71.2   |                          28.8

| โดยให้เหตุผลว่า บางคนไม่มีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เนตใช้ เว็บไซต์ล่มบ่อย

| และทำให้เด็กต่างจังหวัดเสียเปรียบ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ค่าสมัครสอบ (วิชาละ200)                               30.1   |                          69.9

| โดยให้เหตุผลว่า ค่าสมัครสอบแพงเกินไป -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 การกำหนดสถานที่สำหรับเป็นสนามสอบ                      67.2   |                          32.8

| โดยให้เหตุผลว่า สนามสอบไกล เดินทางไม่สะดวก ร้อนส่งผลให้ทำข้อสอบได้ไม่เต็มที่ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

การประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวเกี่ยวกับการสอบ                    52.4   |                          47.6

| โดยให้เหตุผลว่าไม่ค่อยได้ยินข่าว ช่องทางในการนำเสนอข่าวน้อยทำให้รู้ข่าวช้า ไม่ทั่วถึง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

4. ความมั่นใจว่าจะสามารถทำข้อสอบ GAT และ PAT ได้โดยไม่ต้องไปเรียนพิเศษเพิ่มเติม
          - มั่นใจ                                ร้อยละ 11.4
             (โดยแบ่งเป็น          มั่นใจมากร้อยละ 2.9 และค่อนข้างมั่นใจร้อยละ 8.5)
          - ไม่มั่นใจ                              ร้อยละ 88.6

(โดยแบ่งเป็นไม่มั่นใจเลยร้อยละ 38.3 และไม่ค่อยมั่นใจร้อยละ 50.3)

5. เรื่องที่นักเรียนเห็นว่าควรปรับปรุงแก้ไขในการสอบ GAT และ PAT มากที่สุด 5 อันดับแรก คือ
(เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
  • ข้อสอบยากเกินไป เนื้อหาไม่ตรงกับที่เรียน ยังเรียนไม่ครบหลักสูตร.................ร้อยละ 26.3
  • ข้อสอบ GAT เข้าใจยากต้องใช้เวลาทำความเข้าใจนานไม่เหมาะกับ

การวัดผลในช่วงเวลาจำกัด และไม่มีเนื้อหาให้อ่านเพื่อเตรียมตัวล่วงหน้า.............ร้อยละ 23.2

  • ค่าสมัครสอบ แพงเกินไป ตัดโอกาสคนที่มีฐานะยากจน...........................ร้อยละ 11.2
  • ช่วงเวลาในการจัดสอบไม่ควรใกล้กับช่วงที่โรงเรียนจัดสอบตามปกติ

ทำให้อ่านหนังสือไม่ทัน..................................................ร้อยละ 8.1

  • สนามสอบไกล เดินทางไม่สะดวก และอยากสอบที่โรงเรียนตัวเองมากกว่า............ร้อยละ 8.0

รายละเอียดในการสำรวจ

วัตถุประสงค์ในการสำรวจ

เพื่อสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 สังกัดรัฐบาลและเอกชน ในกรุงเทพหานครและปริมณฑลในประเด็นต่อไปนี้

1. ความเพียงพอในการได้รับข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อใน

สถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบกลาง หรือ แอดมิสชั่นส์

2. ความเห็นต่อหลักเกณฑ์การสอบแอดมิสชั่นส์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

3. ความเหมาะสมในการจัดสอบความถนัดทั่วไป(GAT) และการทดสอบความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ

(PAT) ตามหลักเกณฑ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในประเด็นต่างๆ

4. ความมั่นใจว่าจะสามารถทำข้อสอบ GAT และ PAT ได้โดยไม่ต้องไปเรียนพิเศษเพิ่มเติม

5. เรื่องที่เห็นว่าควรปรับปรุงแก้ไขในการสอบ GAT และ PAT มากที่สุด 5 อันดับแรก

ระเบียบวิธีการสำรวจ

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สังกัดรัฐบาล และเอกชน ในกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล จำนวน 46 แห่ง ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) จากนั้นจึงสุ่มประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์อย่าง เป็นระบบ และใช้วิธีเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์แบบพบตัว ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,549 คน เป็นเพศชายร้อยละ 43.6 และเพศหญิงร้อยละ 56.4

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิด (Open Form) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและ ประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล            :  29 มิถุนายน — 1 กรกฎาคม 2552

วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ                :  9 กรกฎาคม  2552

ข้อมูลประชากรศาสตร์

                              จำนวน        ร้อยละ
เพศ
            ชาย               676          43.6
            หญิง               873          56.4
รวม                         1,549         100.0

สังกัดโรงเรียน
            รัฐบาล            1088          70.2
            เอกชน             461          29.8
รวม                         1,549         100.0

--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ