แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไตรมาสที่ 2 ปี 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 6, 2012 14:28 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 16/2555

ภาวะเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2555 ทรงตัวจากไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 โดยการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัว ตามรายได้จากภาคเกษตรที่ได้รับการสนับสนุนตามโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร รวมทั้งมาตรการสนับสนุนอื่นๆ ของภาครัฐทำให้การซื้อรถยนต์ขยายตัวประกอบกับบริษัทจำหน่ายรถยนต์ก็สามารถส่งมอบรถยนต์ได้เพิ่มขึ้น ทำให้ภาคการค้าเร่งตัวในทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะหมวดยานยนต์ที่เร่งตัวสูงมาก อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคเอกชน ชะลอลงจากไตรมาสก่อนแต่ก็ยังมีนักลงทุนที่ยังให้ความสนใจลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า อุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณทรงตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อน สำหรับด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 1.89 ชะลอลงตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งอาหารสำเร็จรูป ผักสดและราคาน้ำมัน

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีดังนี้

การบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 2.6 สะท้อนจากภาคการค้าส่งและค้าปลีกที่ขยายตัวดีโดยเฉพาะยานยนต์ เนื่องจากรายได้ของเกษตรกรยังอยู่ในเกณฑ์ดีตามมาตรการสนับสนุนของโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรทำให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปรับตัวดีขึ้น (แต่ราคามันสำปะหลังยังคงลดลงเนื่องจากจีนซึ่งเป็นตลาดหลักชะลอการนำเข้าและมีคำสั่งซื้อเป็นช่วงสั้น ๆ ประกอบกับมีการนำเข้ามันเส้นจากเวียดนามแทน ส่วนราคายางพาราลดลงจากการชะลอลงของความต้องการในตลาดต่างประเทศ เนื่องจากยังเผชิญกับความผันผวนจากปัญหาเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป) รวมถึงนโยบายของภาครัฐที่กระตุ้นการซื้อของประชาชน และบริษัทผู้จำหน่ายรถยนต์ มีการส่งมอบรถยนต์เพิ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงต้นไตรมาสเป็นต้นมา สอดคล้องกับภาคการค้า ที่เร่งตัวจากไตรมาสก่อน โดยดัชนีการค้าเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14.5 ตามการขยายตัวของการค้าส่งและค้าปลีกโดยเฉพาะการค้าในหมวดยานยนต์ที่ขยายตัวถึงร้อยละ 20.5 ขณะที่ ด้านการลงทุนในภาคชะลอลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน โดยดัชนีการลงทุนภาคเอกชน ไตรมาสนี้ชะลอลง สะท้อนจากพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลเมืองที่ชะลอลงโดยเฉพาะการก่อสร้างเพื่อที่อยู่อาศัย (แต่การลงทุนก่อสร้างนอกเขตเทศบาลยังคงขยายตัวดี ตามการเติบโตของเขตเมืองในจังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่นและอุดรธานี) สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม ที่ชะลอลง โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.4 ตามการชะลอลงตัวของการผลิตในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ขณะที่อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังขยายตัว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังให้ความสนใจที่จะลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม รวมถึงอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป เห็นได้จากเงินทุนในโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนกว่าเท่าตัว ส่วนการใช้จ่ายของภาครัฐ ทรงตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรัฐบาลต้องใช้งบประมาณบางส่วนเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วม

เงินฝากธนาคารพาณิชย์ มียอดคงค้าง 543.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.4 จากระยะเดียวกันของปีก่อน จากการแข่งขันกันระดมเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ สำหรับสินเชื่อคงค้าง 583.1 พันล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.7 จากระยะเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล สินเชื่อขายปลีกขายส่ง สินเชื่อตัวกลางทางการเงิน สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อเพื่อการก่อสร้างเป็นสำคัญ ในด้านเงินฝากสถาบันการเงินเฉพาะกิจ มียอดคงค้าง 300.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 จากระยะเดียวกันของปีก่อน และสินเชื่อคงค้าง 820.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.6 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล รองลงมาเป็นสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อธุรกิจขนาดกลาง

เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 1.89 ชะลอจากไตรมาสก่อนที่ร้อยละ 2.93 ตามราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ผักสด และหมวดน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.00 ชะลอจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.44 ธนาคารแห่งประเทศไทย

สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ข้อมูลเพิ่มเติม: ส่วนเศรษฐกิจภาค

โทร: 0 4333 3000 ต่อ 3410

E-mail: Rotelakp@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ