12 มกราคม 2550 เรียน ผู้จัดการ ธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ที่ ฝกช.(02)ว.18/2550 เรื่อง การออกประกาศกระทรวงการคลังและประกาศเจ้าพนักงานควมคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ด้วยกระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลังจำนวน 2 ฉบับตามแนบ และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินจำนวน 3 ฉบับตามแนบเพื่อผ่อนคลายระเบียบการส่งเงินไปลงทุนโดยตรงหรือให้กู้ยืมในต่างประเทศ บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ และการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ดังนี้ 1.ผ่อนผันให้บุคคลไทยส่งเงินไปลงทุนหรือให้กู้ยืมแก่กิจการในต่างประเทศที่บุคคลไทยถือหุ้นหรือมีส่วนเป็นเจ้าของไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ในวงเงินที่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดต่อรายต่อปี เป็นไม่เกิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดต่อรายปี 2.ผ่อนผันให้บุคคลไทยส่งเงินไปลงทุนหรือให้กู้ยืมแก่กิจการในต่างประเทศที่ถือหุ้นหรือมีส่วนเป็นเจ้าของกิจการของบุคคลไทยดังกล่าวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ในวงเงินไม่เกิน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าอัตราตลาดต่อรายปี 3.ผ่อนผันให้บุคคลไทยฝากเงินตราต่างประเทศเข้าบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศในกรณีที่ไม่สามารถแสดงภาระผูกพันได้โดยต้องเปิดเป็นบัญชีเฉพาะและต้องมียอดคงเหลือในบัญชีดังกล่าวไม่เกิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดสำหรับผู้ฝากที่เป็นนิติบุคคล และไม่เกิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดสำหรับผู้ฝากที่เป็นบุคคลธรรมดา 4.ผ่อนผันให้ผู้ลงทุนประเภทสถาบันตามที่กำหนดส่งเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยมียอดคงค้างการลงทุนไม่เกิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดตามเงื่อนไขที่กำหนด จึงขอประกาศกระทรวงการคลังและประกาศเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตามที่กล่าวข้างต้นเพื่อทราบและโปรดแจ้งให้ลูกค้าของท่านได้ทราบโดยทั่วกัน ขอแสดงความนับถือ (นางสาวนิตยา พิบูลย์รัตนกิจ) เจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน สิ่งที่ส่งมาด้วย 1.ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง คำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาต(ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 10 มกราคม 2550 2.ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง คำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาติ(ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 11 มกราคม 2550 3.ประกาศเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 8) ลงวันที่ 12 มกราคม 2550 4.ประกาศเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 9) ลงวันที่ 12 มกราคม 2550 5.ประกาศเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการลงทุนใน หลักทรัพย์ต่างประเทศ ลงวันที่ 12 มกราคม 2550 ฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อสายตลาดการเงินโทรศัพท์ 0-2356-7345-6โทรสาร 0-2356-7945หมายเหตุ: ไม่มีการจัดประชุมชี้แจง ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง คำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาต (ฉบับที่ 3) ____________________________________ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 3 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 13(พ.ศ.2497) ออกตาความในพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พุทธศักราช 2485 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศข้อกำหนดเป็นคำสั่งซึ่งตัวแทนรับอนุญาตจะต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในข้อ 12(1) ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง คำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาต ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 และให้ใช้ความดังต่อไปนี้แทน "(1) เพื่อลงทุนในกิจการที่ต่างประเทศหรือให้กู้ยืมแก่กิจการในเครือที่ต่างประเทศ ต้องปฏิบัติดังนี้ (ก) การส่งเงินไปลงทุนในกิจการที่ต่างประเทศโดยจัดตั้งกิจการในต่างประเทศหรือเข้าร่วมลงทุนกับบุคคลหรือนิติบุคคลในต่างประเทศ และมีสัดส่วนการถือหุ้นหรือมีส่วนเป็นเจ้าของกิจการที่ต่างประเทศดังกล่าวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของทุนทั้งหมดของกิจการนั้น หรือการส่งเงินไปให้กู้ยืมแก่กิจการในเครือที่ต่างประเทศที่เป็นสำนักงานสาขาหรือตัวแทนที่อยู่นอกประเทศของนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ห้างหุ้นส่วนในต่างประเทศที่ผู้ให้กู้เป็นหุ้นส่วนรวมกันไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของทุนทั้งหมดของห้างนั้น บริษัทจำกัดในต่างประเทศที่ผู้ให้กู้ถือหุ้นรวมกัน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของทุนทั้งหมดของบริษัทจำกัดนั้น และกิจการในต่างประเทศที่ผู้ให้กู้มีส่วนเป็นเจ้าของไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของทุนทั้งหมดของกิจการนั้น ในวงเงินไม่เกินปีละ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาด ทั้งนี้ กิจการที่ต่างประเทศและกิจการในเครือที่ต่างประเทศจะต้องไม่ได้ประกอบธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ และสัดส่วนการถือหุ้นให้นับต่อหนึ่งราย (ข) การส่งเงินไปลงทุนในกิจการที่ต่างประเทศโดยจัดตั้งกิจการในต่างประเทศหรือเข้าร่วมลงทุนกับนิติบุคคลในต่างประเทศ โดยกิจการที่ต่างประเทศหรือนิติบุคคลในต่างประเทศดังกล่าวมีสัดส่วนการถือหุ้นหรือมีส่วนเป็นเจ้าของในกิจการของผู้ลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของทุนทั้งหมด หรือการส่งเงินไปให้กู้ยืมแก่กิจการในเครือที่ต่างประเทศที่เป็นห้างหุ้นส่วนในต่างประเทศ บริษัทจำกัดในต่างประเทศ และกิจการในต่างประเทศ ที่เป็นหุ้นส่วน ถือหุ้น หรือมีส่วนเป็นเจ้าของในกิจการของผู้ให้กู้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของทุนทั้งหมด ในวงเงินไม่เกินปีละ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาด ทั้งนี้ กิจการที่ต่างประเทศและกิจการในเครือที่ต่างประเทศจะต้องไม่ได้ประกอบธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ และสัดส่วนการถือหุ้นให้นับต่อหนึ่งราย" ข้อ 2 ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2550 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2550 (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง คำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาต (ฉบับที่ 4) __________________ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 3 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 13(พ.ศ.2497) ออกตาความในพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พุทธศักราช 2485 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศข้อกำหนดเป็นคำสั่งซึ่งตัวแทนรับอนุญาตจะต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในข้อ 13 ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง คำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาต ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 และให้ใช้ความดังต่อไปนี้แทน "ข้อ 13 ในการขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศหรือเพื่อวัตถุประสงค์ตามข้อ 12(1) ถึง (5) แต่มีจำนวนเกินกว่าที่ระบุไว้ หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่เจ้าพนักงานกำหนดให้ต้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงาน ตัวแทนรับอนุญาตต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้ (1) จัดให้ผู้ขอยื่นคำขอพร้อมทั้งเอกสารหลักฐานตามที่เจ้าพนักงานกำหนดและส่งไปให้เจ้าพนักงานพิจารณาอนุญาต (2) เมื่อเจ้าพนักงานอนุญาตแล้ว จัดให้ผู้ขอยื่นแบบตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่เจ้าพนักงานกำหนด (3) ขายหรือแลกเปลี่ยนได้ไม่เกินจำนวนที่เจ้าพนักงานอนุญาต (4) เมื่อตัวแทนรับอนุญาตขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแล้ว ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เจ้าพนักงานกำหนด" ข้อ 2 ให้เพิ่มข้อความดังต่อไปนี้เป็นข้อ 13 ทวิ ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง คำสั่งรัฐมนตรี ให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาต ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 "ข้อ 13 ทวิในการขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อลงทุนในหลักทรัพย์ไทยในต่างประเทศได้โดยไม่จำกัดจำนวน ในกรณีเพื่อลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศให้ทำได้โดยมียอดคงค้างการลงทุนตามราคาทุน ณ ขณะใดขณะหนึ่งไม่เกินห้าสิบล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดต่อราย แต่ต้องไม่เกินวงเงินที่หน่วยงานที่กำกับดูแลผู้ลงทุนและคณะกรรมการหรือผู้มีอำนาจบริหารของผู้ลงทุนกำหนด ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามที่เจ้าพนักงานกำหนด ในการขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศ แต่มีจำนวนเงินเกินกว่าที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่งหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่เจ้าพนักงานกำหนด ให้นำความในข้อ 13 มาบังคับใช้โดยอนุโลม" ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 14 ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง คำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาต ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 และให้ใช้ความดังต่อไปนี้แทน "ข้อ 14 นอกจากกรณีที่เจ้าพนักงานมีคำสั่งยกเว้นไว้ ตัวแทนรับอนุญาตจะต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการรับเงินตราต่างประเทศเข้าบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศดังต่อไปนี้ (1) ตรวจสอบจนเป็นที่พอใจว่าเงินตราต่างประเทศที่จะรับเข้าบัญชีนั้นเป็นเงินที่ได้รับมาจากต่างประเทศและเรียกให้ผู้ฝากเงินตราต่างประเทศยื่นเอกสารที่แสดงภาระผูกพันที่จะต้องชำระเงินตราต่างประเทศให้แก่บุคคลในต่างประเทศภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่รับฝากเงินตราต่างประเทศนั้น โดยตัวแทนรับอนุญาตจะรับฝากได้ไม่เกินจำนวนที่ผู้ฝากมีภาระผูกพันที่ต้องชำระเป็นเงินตราต่างประเทศภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ ยอดเงินฝากเงินตราต่างประเทศรวมทุกบัญชีและทุกสกุลของผู้ฝากรายนั้นต้องมีจำนวนไม่เกินห้าแสนดอลลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดสำหรับผู้ฝากซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา และไม่เกินห้าสิบล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดสำหรับผู้ฝากซึ่งเป็นนิติบุคคล (2) รับฝากเงินตราต่างประเทศที่ผู้ฝากไม่สามารถแสดงภาระผูกพัน โดยยอดเงินฝากรวมทุกบัญชีและทุกสกุลของผู้ฝากต้องมีจำนวนไม่เกินห้าหมื่นดอลลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดสำหรับผู้ฝากซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา และไม่เกินจำนวนที่เจ้าพนักงานกำหนด แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินห้าล้านดอลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดสำหรับผู้ฝากซึ่งเป็นนิติบุคคล การรับฝากเงินตราต่างประเทศตาม (1) และ (2) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามที่เจ้าพนักงานกำหนด" ข้อ 4 ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2550 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 11 มกราคม พ.ศ.2550 (หม่อมราชวงศปรีดิยาธร เทวกุล) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 8) ______________________________________ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 12 และข้อ 13 แห่งประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องคำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาต ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 เจ้าพนักงานออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกคำจำกัดความของคำว่า "ลงทุนในกิจการที่ต่างประเทศ" และ "กิจการในเครือที่ต่างประเทศ" ในข้อ 2 ของประกาศเจ้าพนักงานควบคมการแลกเปลี่ยนเงิน เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัตเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงิน ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 14 (1) ของประกาศเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงิน ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 18 (1) ของประกาศเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงิน ลงวันที่ 31 มีนาคม2547 และให้ใช้ความดังต่อไปนี้ "(1) การส่งเงินไปลงทุนในกิจการที่ต่างประเทศหรือให้กู้ยืมแก่กิจการในเครือที่ต่างประเทศเป็นจำนวนเกินกว่าวงเงินที่กำหนดตามข้อ 12 (1) แห่งประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องคำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนุญาต (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 10 มกราคม 2550 รวมทั้งการส่งเงินไปลงทุนในกิจการที่ต่างประเทศหรือให้กู้ยืมแก่กิจการในเครือที่ต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ ให้เรียกเอกสารหลักฐานดังนี้ (ก) คำขออนุญาตพร้อมชี้แจงเหตุผลความจำเป็น รายละเอียดการลงทุนหรือให้กู้แหล่งที่มาของเงินทุน และประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงทุนหรือให้กู้ (ข) งบการเงินล่าสุดของผู้ลงทุนหรือผู้ให้กู้ที่ผู้สอบบัญชีรับรองแล้ว (ค) หลักฐานแสดงการลงทุน เช่น สัญญาร่วมทน หรือสัญญาซื้อขายห้น (เฉพาะกรณีการส่งเงินไปลงทุน) (ง) หลักฐานแสดงโครงสร้างการถือหุ้นระหว่างผู้ลงทุนหรือให้กู้และผู้รับการลงทุนหรือผู้กู้ และ (จ) หลักฐานแสดงตัวของผู้ขอ กรณีเป็นบุคคลธรรมดา เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน กรณีเป็นนิติบุคคล เช่น หนังสือบริคณห์สนธิ หนังสือรับรองทุนจดทะเบียน บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วน ที่กระทรวงพาณิชย์รับรอง" ข้อ 4 ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2550 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 12 มกราคม 2550 (นางสาวนิตยา พิบูลย์รัตนกิจ) เจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ประกาศเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 9) __________________________________ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 13 และ 14 แห่งประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง คำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแท่นรับอนุญาต ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 เจ้าพนักงานออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในข้อ 18 (3) ของประกาศเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน เรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงิน ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 23 ของประกาศเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินเรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงิน ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 และ ให้ใช้ความดังต่อไปนี้แทน "ข้อ 23 บุคคลใดขอฝากเงินตราต่างประเทศกับนิติบุคคลรับอนญาต ให้นิติบุคคลรับอนุญาตเรียกให้บุคคลนั้นยื่นแบบตามที่กำหนดในข้อ 44 และปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และวงเงิน ดังต่อไปนี้ (1) เงินตราต่างประเทศที่ฝากต้องเป็นเงินอันเกิดจากแหล่งเงินได้ในต่างประเทศ (2) ผู้ฝากเงินตราต่างประเทศต้องยื่อเอกสารแสดงภาระผูกพันที่จะต้องชำระเงินตราต่างประเทศให้แก่บุคคลในต่างประเทศหรือนิติบุคคลรับอนุญาตภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ฝากเงินตราต่างประเทศนั้น และให้ฝากได้ไม่เกินจำนวนตามภาระผูกพันที่ต้องชำระเป็นเงินตราต่างประเทศภายในกำหนดเวลาดังกล่าว โดยภาระผูกพันที่กล่าวให้หมายรวมถึงภาระผูกพันของตนและของธุรกิจในเครือ และยื่นหลักฐานการเป็นธุรกิจในเครือด้วยในกรณีที่เป็นภาระผูกพันของธุรกิจในเครือ ทั้งนี้เงินฝากเงินตราต่างประเทศ ณสิ้นวันรวมทุกสกุลและทุกบัญชีของผู้ฝากรายนั้นต้องมียอดคงเหลือไม่เกิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาด สำหรับบุคคลธรรมดาหรือ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาด สำหรับนิติบุคคล ในกรณีที่ผู้ฝากไม่สามารถยื่นเอกสารที่แสดงภาระผูกพันที่จะต้องชำระเงินตราต่างประเทศตามวรรคแรก ให้ตัวแทนรับอนุญาตรับฝากเงินตราต่างประเทศจากบุคคลดังกล่าวได้โดยต้องจัดให้แยกเปิดเป็นบัญชีเฉพาะ และยอดเงินฝากเงินตราต่างประเทศในบัญชีดังกล่าว ณ สิ้นวันรวมทุกสกุลและทุกบัญชีของผู้ฝากรายนั้นต้องมีจำนวนไม่เกิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาด สำหรับบุคคลธรรมดา หรือ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดสำหรับนิติบุคคล (3) ให้ผู้ฝากแต่ละรายฝากเงินสดได้ไม่เกินวันละ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาด เว้นแต่ผู้ฝากนั้นจะได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเงินตราต่างประเทศ ทั้งนี้ ให้องค์การของรัฐ องค์การของรัฐบาล และรัฐวิสาหกิจของประเทศไทยรวมทั้งข้าราชการที่ปฏิบัติงานในต่างประเทศได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขใน (2) และ (3) ข้อ 2 ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2550 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 12 มกราคม 2550 (นางสาวนิตยา พิบูลย์รัตนกิจ) เจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ประกาศเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยน เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัตเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ในต่างประเทศ ______________________________ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 7 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2497) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พุทธศักราช 2485 และ ข้อ 13 ทวิ แห่งประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องคำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรัฐอนุญาต ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 เจ้าพนักงานออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ในประกาศนี้ "ผู้ลงทุน" หมายความว่า ผู้ลงทุนประเภทสถาบัน ได้แก่ (1) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (2) กองทุนประกันสังคม (3) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (4) กองทุนรวม (ไม่รวมกองทุนส่วนบุคคลป (5) บริษัทหลักทรัพย์ (6) บริษัทประกันภัย (7) สถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้ง "หลักทรัพย์ต่างประเทศ" หมายความว่า หลักทรัพย์ที่ออกโดยรัฐบาลต่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ หรือนิติบุคคลในต่างประเทศเป็นเงินตราต่างประเทศและจำหน่ายในต่างประเทศ "หลักทรัพย์ไทยในต่างประเทศ" หมายความว่า หลักทรัพย์ที่ออกโดยรัฐบาลไทย หรือนิติบุคลลไทยเป็นเงินตราต่างประเทศและจำหน่ายในต่างประเทศ "นิติบุคคลรับอนุญาต" หมายความว่า ตัวแทนรับอนุญาตตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องคำสั่งรัฐมนตรีให้ไว้แก่ตัวแทนรับอนญาต ลงวันที่ 31 มีนาคม 2547 และนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น และได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศ ข้อ 2 เจ้าพนักงานอนุญาตให้ผู้ลงทุนซื้อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อลงทุนในหลักทรัพย์ไทยในต่างประเทศได้โดยไม่จำกัดจำนวน่ ในกรณีเพื่อลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศให้ทำได้โดยมียอดคงค้างการลงทุนตามราคาทุน ณ ขณะใดขณะหนึ่งไม่เกิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือเทียบเท่าตามอัตราตลาดต่อราย แต่ต้องไม่เกินวงเงินที่หน่วยงานที่กำกับดูแลผู้ลงทุนและคณะกรรมการหรือผู้มีอำนาจบริหารของผู้ลงทุนกำหนด