ธนาคารแห่งประเทศไทย
28 เมษายน 2524
เรียน ผู้จัดการ
บริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ทุกบริษัท
ที่ ธปท.งพ.(ว) 496/2524 เรื่อง การให้กู้ยืมหรืออาวัลตั๋วเงินแก่ธุรกิจที่กรรมการพนักงานชั้นบริหาร และผู้ถือหุ้นของบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้อง
ตามนัยมาตรา 20(7) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 ได้บัญญัติห้ามมิให้บริษัทเงินทุนให้กู้ยืมแก่กรรมการ ทั้งนี้โดยให้รวมถึงธุรกิจที่กรรมการบริษัท คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของกรรมการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด หรือเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดรวมกันเกินร้อยละสามสิบของทุนทั้งหมดของห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือเป็นผู้ถือหุ้นในอัตราเกินร้อยละสามสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทจำกัด นั้น
จากการตรวจสอบปรากฎว่า บริษัทเงินทุนบางบริษัทยังให้กู้ยืมและอาวัลตั๋วเงินแก่ธุรกิจที่กรรมการบริษัท และผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ถือหุ้นอยู่อีกเป็นจำนวนมาก แม้การถือหุ้นในธุรกิจดังกล่าวจะมีอัตราต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดห้ามไว้ตามมาตรา 20(7) วรรคสองก็ตาม แต่การให้กู้ยืมหรืออาวัลตั๋วเงิน ไม่ได้เป็นไปอย่างเหมาะสมรัดกุมตามหลักเกณฑ์ที่ดีและการให้กู้ยืมหรืออาวัลตั๋วเงินดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติที่มุ่งจะเลี่ยงเจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าว นอกจากนั้น ยังมีการให้กู้ยืมหรืออาวัลตั๋วเงินแก่ธุรกิจ ที่พนักงานชั้นบริหาร หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องอีกรวมกันเป็นจำนวนเงินสูงเมื่อเทียบกับเงินกองทุนของบริษัทเอง
ในการให้กู้ยืมแก่ธุรกิจดังกล่าว บางบริษัทมักจะเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราต่ำกว่าอัตราทั่วไปในท้องตลาด นอกจากนี้ยังปรากฎว่าวงเงินให้กู้ยืมหรืออาวัลตั๋วเงินมีจำนวนสูงเกินกว่าฐานะและความสามารถในการชำระหนี้ของธุรกิจนั้น โดยไม่ได้มีการพิจารณาตามหลักเกณฑ์หรือระเบียบปฏิบัติที่ดีก่อนให้กู้ยืม หรืออาวัลตั๋วเงิน และไม่ได้มีการเรียกหลักทรัพย์วางประกันตามควร ธุรกิจที่กล่าวหลายรายมีฐานะไม่มั่นคง และไม่สามารถชำระหนี้คืนแก่บริษัท ทำให้ฐานะของบริษัทอ่อนลง
การที่บริษัทเงินทุนให้กู้ยืมหรืออาวัลตั๋วเงินแก่ธุรกิจในลักษณะดังกล่าวนี้ พิจารณาได้ว่าเป็นการอำนวยประโยชน์ให้แก่กรรมการ พนักงานชั้นบริหาร หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทในทางที่ไม่ชอบไม่ควร ทำให้รายได้ของบริษัทต่ำกว่าที่จะพึงมี และอาจก่อให้เกิดภาระหนี้สูญเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบกระเทือนถึงฐานะและการดำเนินงานของบริษัทได้อย่างมาก
ธนาคารมีเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมให้บริษัทเงินทุนทุกบริษัทมีความมั่นคง และเจริญเติบโตไปตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น จึงใคร่ขอความร่วมมือจากทุกบริษัทให้เข้มงวดกวดขันในการให้กู้ยืม หรือาวัลตั๋วเงินแก่ธุรกิจที่กรรม พนักงานชั้นบริหาร และผู้ถือหุ้นของบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องให้มากยิ่งขึ้น โดยพิจารณาถึงฐานะความสามารถในการชำระหนี้ของธุรกิจนั้น และกำหนดวงเงินตามความเหมาะสม ตลอดจนจัดให้มีหลักประกันตามควร คิดดอกเบี้ยตามอัตราปกติทั่วไป และไม่อำนวยประโยชน์ในทางอื่นใดให้เป็นพิเศษ
อนึ่ง สำหรับภาระหนี้สินและการอาวัลตั๋วเงินของธุรกิจที่กล่าว ที่มีอยู่แล้วตามนัยข้อสังเกตข้างต้น ให้ทุกบริษัทปรับปรุงแก้ไขหรือระงับการต่ออายุสัญญา และเร่งรัดให้ลดภาระหนี้สินดังกล่าวลงโดยเร็วด้วย
ขอแสดงความนับถือ
นุกูล ประจวบเหมาะ
ผู้ว่าการ
ส่วนกำกับและพัฒนาสถาบันการเงิน
ฝ่ายกำกับและตรวจสอบสถาบันการเงิน
โทร. 2826530