การซื้อหรือมีหุ้นในบริษัทจำกัดเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด

ข่าวกฏหมายและประกาศ Monday April 17, 2000 11:53 —ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

                                                        4 เมษายน 2543
เรียน ผู้จัดการ
บริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ทุกบริษัท
ที่ ธปท.สนส.(11)ว. 776/2543 เรื่อง การซื้อหรือมีหุ้นในบริษัทจำกัดเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
เพื่อเป็นการส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ระหว่างสถาบันการเงินและลูกหนี้ อันจะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของสถาบันการเงิน และเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ธนาคารแห่งประเทศไทยอาศัยอำนาจตามมาตรา 20 (4) มาตรา 34 (1) และมาตรา 54 (6) ของกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ขยายระยะเวลาการอนุญาตเป็นการทั่วไป จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2544 ตามนัยของหนังสือที่ ธปท.ง.(ว) 4589/2541 เรื่อง การซื้อหรือมีหุ้นในบริษัทจำกัดเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2541 ดังนี้
1. ให้บริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ มีหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ์ในบริษัทจำกัดซึ่งเป็นลูกหนี้ได้เกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทจำกัดซึ่งเป็นลูกหนี้ดังกล่าวนั้น ทั้งนี้ เฉพาะในกรณีการได้หุ้นนั้นเป็นการได้มาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย
2. ให้บริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ มีเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อกรรมสิทธิ์ของบริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เองทั้งหมดมูลค่ารวมกันเกินร้อยละ 60 ของเงินกองทุนของบริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์นั้น เฉพาะในกรณีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ส่วนที่เกินนั้นเป็นหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ์ ในสำคัญแสดงสิทธิ์ในหุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้น หรือใบสำคัญแสดงการเข้าซื้อหุ้น ที่ได้มาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้บริษัทเครดิตฟองซิเอร์มีหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ์ หรือหุ้นกู้ทั้งหมดมูลค่ารวมกันเกินร้อยละ 20 ของเงินกองทุนของบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เฉพาะในกรณีหุ้นส่วนที่เกินนั้นเป็นหุ้นที่ได้มาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย
3. บริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ที่มีหุ้นเกินจำนวนดังกล่าวต้องลดสัดส่วนการมีหุ้นดังกล่าวให้มีหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ์ในบริษัทจำกัดซึ่งเป็นลูกหนี้ได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทจำกัดซึ่งเป็นลูกหนี้และให้บริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ มีเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เองทั้งหมดมูลค่ารวมกันไม่เกินร้อยละ 60 ของเงินกองทุนของบริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และให้บริษัทเครดิตฟองซิเอร์เองมีหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ์ หรือหุ้นกู้ทั้งหมดมูลค่ารวมกันไม่เกินร้อยละ 20 ของเงินกองทุนของบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เอง ในทันทีที่สามารถทำได้โดยไม่ก่อให้เกิดผลขาดทุนแก่สถาบันการเงินเองแต่ต้องไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2547
ทั้งนี้ ให้บริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ รายงานการซื้อหรือมีหุ้นในบริษัทจำกัดอันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยต่อธนาคารแห่งประเทศไทย ในรูปแบบของตาราง บ.ง. 3/5 ที่แนบมา เป็นรายเดือน โดยให้รายงานแยกต่างหากจากรายงานเงินลงทุนในหุ้นตามมาตรา 20 (4) และมาตรา 34 (1) หรือตาราง บ.ง. 3/5 ที่ต้องรายงานอยู่แล้วในปัจจุบัน สำหรับบริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์
สำหรับบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ให้ทำหนังสือแจ้งมายังธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อซื้อหรือมีหุ้นในบริษัทจำกัดตามการผ่อนผันนี้
จึงเรียนมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติ
ขอแสดงความนับถือ
(ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล)
ผู้ว่าการ
สิ่งที่ส่งมาด้วย ตาราง บ.ง. 3/5 (รายละเอียดเงินลงทุนในหลักทรัพย์)
ฝ่ายนโยบายสถาบันการเงิน
โทร. 283-5878, 283-6877
หมายเหตุ [
] ธนาคารจะจัดให้มีการประชุมชี้แจงในวันที่………..ณ………..
[ X
] ไม่มีการจัดประชุมชี้แจง
สนสว30-กส15106-25430405ด
-ยก-

แท็ก เครดิต   ธปท.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ