นำส่งประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ตราสารที่ให้นับเข้าเป็นเงินกองทุนสำหรับบริษัทเงินทุน

ข่าวกฏหมายและประกาศ Wednesday August 23, 2000 10:58 —ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

23 สิงหาคม 2543เรียน ผู้จัดการ บริษัทเงินทุนทุกบริษัท ที่ ธปท.สนส.(11) ว. 2190/2543 เรื่อง นำส่งประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ตราสารที่ให้นับเข้าเป็นเงินกองทุนสำหรับบริษัทเงินทุน ธนาคารแห่งประเทศไทยขอนำส่งประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ตราสารที่ให้นับเข้าเป็นเงินกองทุนสำหรับบริษัทเงินทุน ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2543 สาระสำคัญของประกาศดังกล่าวมีดังนี้ 1. ยกเลิกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ตราสารที่ให้นับเข้าเป็นเงินกองทุน ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2536 และเรื่อง ตราสารที่ให้นับเข้าเป็นเงินกองทุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2539 ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2539 2. เพิ่มเติมรายละเอียดคุณสมบัติของตราสารที่มีลักษณะคล้ายทุนที่ให้นับเข้าเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ดังนี้ 2.1 กำหนดให้ตราสารที่มีลักษณะคล้ายทุนมีอายุไม่ต่ำกว่า 10 ปี และในช่วง 5 ปีสุดท้ายก่อนครบกำหนดให้บริษัทเงินทุนต้องลดการนับเงินที่ได้รับเนื่องจากการออกตราสารที่มีลักษณะคล้ายทุนเข้าเป็นเงินกองทุนลงร้อยละ 20 ต่อปี 2.2 บริษัทเงินทุนมีสิทธิเลื่อนการชำระดอกเบี้ยตามตราสารออกไปได้ ในกรณีที่บริษัทเงินทุนนั้นไม่มีกำไรจากการดำเนินงาน และไม่จ่ายเงินปันผลสำหรับหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ์ แต่จะต้องเลื่อนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในกรณีที่การชำระดังกล่าวทำให้บริษัทเงินทุนมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำกว่าร้อยละ 0 หรือเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยแทรกแซงโดยมีคำสั่งลดทุนและเพิ่มทุน อนึ่ง ในกรณีที่บริษัทเงินทุนเลื่อนการชำระดอกเบี้ยของตราสารที่มีลักษณะคล้ายทุนนี้ออกไป หากบริษัทเงินทุนประสงค์จะจ่ายดอกเบี้ยสำหรับจำนวนดอกเบี้ยที่เลื่อนออกไปนั้น ก็สามารถกระทำได้ในอัตราไม่เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยเดิมที่ระบุไว้ตามหน้าตราสาร (Original Coupon Rate) ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย จึงเรียนมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติ ขอแสดงความนับถือ (นางธาริษา วัฒนเกส) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ผู้ว่าการแทนฝ่ายนโยบายสถาบันการเงินโทร. 283-5939 283-5307สนสว31-กส22102-25430823ด ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ตราสารที่ให้นับเข้าเป็นเงินกองทุนสำหรับบริษัทเงินทุน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535 ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดชนิด ประเภท และการคำนวณเงินที่บริษัทเงินทุนได้รับเนื่องจากการออกตราสารแสดงสิทธิในหนี้ระยะยาวเกินห้าปีที่มีสิทธิด้อยกว่าเจ้าหนี้สามัญเพื่อถือเป็นเงินกองทุน ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ตราสารที่ให้นับเข้าเป็นเงินกองทุน ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2536 และเรื่อง ตราสารที่ให้นับเข้าเป็นเงินกองทุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2539 ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2539 ข้อ 2 ให้บริษัทเงินทุนนับเงินที่ได้รับเนื่องจากการออกตราสารที่มีลักษณะคล้ายทุน (Hybrid Debt Capital Instruments) หรือตราสารหนี้ด้อยสิทธิระยะยาว (Subordinated Debt) ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อ 3 ถึงข้อ 5 ข้อ 3 ให้บริษัทเงินทุนยื่นคำขอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อขออนุมัตินับเงินที่ได้รับเนื่องจากการออกตราสารดังกล่าวเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 และให้นับรวมเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ได้ เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว ข้อ 4 ตราสารที่มีลักษณะคล้ายทุน (Hybrid Debt Capital Instruments) ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้ (1) เป็นตราสารที่ออกโดยไม่มีบุคคลใดค้ำประกัน และไม่มีทรัพย์สินใดจำนำหรือจำนองเป็นหลักประกัน (2) เป็นตราสารที่มีกำหนดเวลาในการชำระหนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ปี และในช่วง 5 ปีสุดท้ายก่อนครบกำหนดให้บริษัทเงินทุนต้องลดการนับเงินที่ได้รับเนื่องจากการออกตราสารที่มีลักษณะคล้ายทุนเข้าเป็นเงินกองทุนลงร้อยละ 20 ต่อปี (3) เป็นตราสารที่ไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย (4) สิทธิได้รับชำระหนี้ตามตราสารของผู้ทรงต้องอยู่ในลำดับหลังผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้อื่น (5) บริษัทเงินทุนมีสิทธิเลื่อนกำหนดเวลาในการชำระดอกเบี้ยตามตราสารออกไปได้ ในกรณีที่บริษัทเงินทุนนั้นไม่มีกำไรจากการดำเนินงาน และไม่จ่ายเงินปันผลสำหรับหุ้นสามัญ และหุ้นบุริมสิทธิ์ (6) เป็นตราสารที่มีการบังคับเลื่อนการจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยในกรณีที่การชำระดังกล่าวทำให้บริษัทเงินทุนมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำกว่าร้อยละ 0 หรือเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าแทรกแซงโดยมีคำสั่งลดทุนและเพิ่มทุน ทั้งนี้ ให้ถือเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ได้ตามจำนวนเงินที่ได้รับชำระเต็มมูลค่าแล้ว ข้อ 5 ตราสารหนี้ด้อยสิทธิระยะยาว (Subordinated Debt) ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้ (1) เป็นตราสารที่ออกโดยไม่มีบุคคลใดค้ำประกัน และไม่มีทรัพย์สินใดจำนำหรือจำนองเป็นประกัน (2) เป็นตราสารที่มีกำหนดเวลาในการชำระหนี้เกินกว่า 5 ปี และในช่วง 5 ปีสุดท้ายให้บริษัทเงินทุนต้องลดการนับเงินที่ได้รับเนื่องจากการออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิระยะยาวเข้าเป็นเงินกองทุนลงร้อยละ 20 ต่อปี (3) เป็นตราสารที่ไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย (4) สิทธิได้รับชำระหนี้ตามตราสารของผู้ทรง ต้องอยู่ในลำดับหลังผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้อื่น แต่ในลำดับก่อนเจ้าหนี้ตามตราสารที่มีลักษณะคล้ายทุน ตามข้อ 4 ทั้งนี้ ให้ถือเป็นเงินกองทุนได้ตามจำนวนเงินที่ได้รับชำระแล้ว แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 50 ของเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของบริษัทเงินทุนนั้น ข้อ 6 ประกาศนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2543 (ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล) ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทยสนสป31-กส22102-25430823ด-ยก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ