นำส่งประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

ข่าวกฏหมายและประกาศ Friday June 30, 2000 10:54 —ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

26 มิถุนายน 2543เรียน ผู้จัดการ บริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ทุกบริษัท ที่ ธปท.สนส.(12)ว.1436/2543 เรื่อง นำส่งประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การกำหนดอัตราส่วนการให้กู้ยืมเงิน หรือลงทุน หรือก่อภาระผูกพันหรือจ่ายเงินตามภาระผูกพันเพื่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดกับเงินกองทุนของบริษัทเงินทุน ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การกำหนดอัตราส่วนการให้กู้ยืมเงิน หรือลงทุน หรือก่อภาระผูกพัน หรือจ่ายเงินตามภาระผูกพันเพื่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดกับเงินกองทุนของบริษัทเงินทุน ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2543 ซึ่งจะได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 4 กรกฎาคม 2543 และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สาระสำคัญของประกาศฉบับดังกล่าว มีดังนี้ 1. ปรับปรุงวิธีการนับลูกหนี้รายใหญ่ในการให้กู้ยืมด้วยการรับซื้อ ซื้อลด หรือรับช่วงซื้อลดตั๋วเงินโดยแยกประเภทของตั๋วเงินออกเป็นตั๋วเงินที่มีคุณภาพและตั๋วเงินที่ไม่เข้าข่ายเป็นตั๋วเงินที่มีคุณภาพ ดังนี้ 1.1 กรณีที่ สง. ให้กู้ยืมด้วยการรับซื้อ ซื้อลด หรือรับช่วงซื้อลดตั๋วเงินที่ไม่เข้าข่ายตั๋วเงินที่มีคุณภาพ ให้นับบุคคลที่ต้องรับผิดในตั๋วเงินดังกล่าวทุกคน ได้แก่ ผู้ทรงซึ่งนำตั๋วเงินมาขาย ผู้ออกตั๋วเงิน ผู้สลักหลังตั๋วเงิน แบบผู้ซื้อมีสิทธิไล่เบี้ย เป็นต้น เป็นลูกหนี้ 1.2 กรณีที่เป็นตั๋วเงิน 1.3 ที่มีคุณภาพประเภทที่มีธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทเงินทุนอื่นรับรอง หรือรับอาวัลให้นับธนาคารพาณิชย์ และบริษัทเงินทุนอื่นทุกรายที่รับรองและรับอาวัลนั้นเป็นลูกหนี้ 1.4 กรณีที่เป็นตั๋วเงิน 1.5 ที่มีคุณภาพประเภทอื่นให้นับผู้สั่ง 1.6 จ่ายหรือผู้ออกตั๋วเป็นลูกหนี้ 2. กำหนดนิยามของตั๋วเงินที่มีคุณภาพ หมายความว่า (1) ตั๋วแลกเงินที่ธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทเงินทุนอื่นรับรอง หรือรับอาวัล (2) ตั๋วแลกเงินที่บริษัทเงินทุนอื่นเป็นผู้สั่งจ่ายเพื่อจัดหาเงินทุนจากประชาชน (3) ตั๋วแลกเงินหรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่สั่งจ่ายหรือออกโดยบริษัทจำกัด ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ตั้งแต่ระดับ AA ขึ้นไป หรือตั๋วแลกเงินที่ได้รับการจัดอันดับความ น่าเชื่อถือ ตั้งแต่ระดับ AA ขึ้นไป ทั้งนี้ โดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 3. ขยายนิยามของภาระผูกพันให้หมายรวมถึง การรับประกันการจำหน่ายตราสารแสดงสิทธิในหนี้ และตราสารทุนแบบรับประกันทั้งจำนวน (Firm Underwrite) จึงเรียนมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติ ขอแสดงความนับถือ (นางธาริษา วัฒนเกส) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ผู้ว่าการ แทน สิ่งที่ส่งมาด้วย ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การกำหนดอัตราส่วนการให้กู้ยืมเงินหรือลงทุน หรือก่อภาระผูกพัน หรือจ่ายเงินตามภาระผูกพันเพื่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดกับเงินกองทุนของบริษัทเงินทุน ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2543 ฝ่ายนโยบายสถาบันการเงิน โทร. 2835868, 2835843, 2836829 หมายเหตุ [ ] ธนาคารจะจัดให้มีการประชุมชี้แจง ในวันที่……….เวลา……..ณ ……… [ X ] ไม่มีการจัดประชุมชี้แจง สนสว32-กส33201-25430626ด ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การกำหนดอัตราส่วนการให้กู้ยืมเงิน หรือลงทุน หรือก่อภาระผูกพันหรือจ่ายเงินตามภาระผูกพันเพื่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดกับเงินกองทุนของบริษัทเงินทุน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตเครดิตฟองซิเอร์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535 และมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ธนาคารแห่งประเทศไทยออกข้อกำหนดด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การกำหนดอัตราส่วนการให้กู้ยืมเงินหรือลงทุน หรือก่อภาระผูกพันหรือจ่ายเงินตามภาระผูกพันเพื่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดกับเงินกองทุนของบริษัทเงินทุน ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2536 และประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การกำหนดอัตราส่วนการให้กู้ยืมเงินหรือลงทุน หรือก่อภาระผูกพันหรือจ่ายเงินตามภาระผูกพันเพื่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด กับเงินกองทุนของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2539 ลงวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2539 ข้อ 2 ในประกาศนี้ “เงินกองทุน” หมายความว่า เงินกองทุนตาม (1) (2) (3) (4) (5) และ (6) ของบทนิยามคำว่า “เงินกองทุน” ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ ให้หักเงินตามตราสารใน (6)ของธนาคารพาณิชย์และบริษัทเงินทุนอื่นที่บริษัทเงินทุนนั้นถือไว้และสินทรัพย์อื่นใดตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด เงินกองทุนตาม (1) (2) (3) และ (4) ไม่รวมถึงเงินที่บริษัทเงินทุนได้รับ เนื่องจากการออกหุ้นบุริมสิทธิชนิดสะสมเงินปันผล และให้หักผลขาดทุนที่เกิดขึ้นในทุกงวดการบัญชีออกก่อน และหักค่าแห่งกู๊ดวิลล์ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ทั้งนี้ ให้รวมเรียกว่าเงินกองทุนชั้นที่ 1 “ก่อภาระผูกพัน” หมายความว่า รับรอง รับอาวัล หรือสอดเข้าแก้หน้าในตั๋วเงิน สลักหลังตั๋วเงินที่ผู้รับสลักหลังมีสิทธิไล่เบี้ย ค้ำประกัน หรือก่อภาระผูกพันอื่นใด “ตั๋วเงินที่มีคุณภาพ” หมายความว่า (1) ตั๋วแลกเงินที่ธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทเงินทุนอื่นรับรอง หรือรับอาวัล (2) ตั๋วแลกเงินที่บริษัทเงินทุนอื่นเป็นผู้สั่งจ่ายเพื่อจัดหาเงินทุนจากประชาชน (3) ตั๋วแลกเงินหรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่สั่งจ่ายหรือออกโดยบริษัทจำกัด ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ตั้งแต่ระดับ AA ขึ้นไปหรือตั๋วแลกเงินที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ระดับ AA ขึ้นไป ทั้งนี้ โดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อ 3 ในการให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนในกิจการของผู้อื่นหรือก่อภาระผูกพันหรือจ่ายเงินตามภาระผูกพันเพื่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดของบริษัทเงินทุนต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดหรืออัตราส่วนดังต่อไปนี้ แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า (1) จำนวนเงินที่บริษัทเงินทุนให้กู้ยืมเงินแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือลงทุนในกิจการของบุคคลนั้นรวมกันเมื่อสิ้นวันหนึ่ง ๆ ต้องไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของบริษัทเงินทุนนั้น (2) จำนวนเงินที่บริษัทเงินทุนก่อภาระผูกพันหรือจ่ายไปตามภาระผูกพันเพื่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดรวมกันเมื่อสิ้นวันหนึ่ง ๆ ต้องไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของบริษัทเงินทุนนั้น (3) จำนวนเงินที่บริษัทเงินทุนให้กู้ยืมเงินแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือลงทุนในกิจการของบุคคลนั้นตาม (1) และก่อภาระผูกพัน หรือจ่ายไปตามภาระผูกพันเพื่อบุคคลนั้น ตาม (2) รวมกันเมื่อสิ้นวันหนึ่ง ๆ ต้องไม่เกินร้อยละ 35 ของเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของบริษัทเงินทุนนั้น ข้อ 4 การให้กู้ยืมเงินโดยวิธีการรับซื้อ ซื้อลด หรือรับช่วงซื้อลดตั๋วเงินให้ถือเป็นการให้กู้ยืมเงินแก่บุคคลดังกล่าวต่อไปนี้ ซึ่งเมื่อรวมกับการให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนกรณีอื่นๆ แล้วต้องไม่เกินอัตราส่วนตามที่กำหนดไว้ในข้อ 3 ด้วย (1) ธนาคารพาณิชย์และบริษัทเงินทุนอื่นทุกรายที่รับรองและรับอาวัลตั๋วเงินที่มีคุณภาพ กรณีที่เป็นตั๋วแลกเงินที่มีธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทเงินทุนอื่นนั้นรับรอง หรือรับอาวัล (2) ผู้สั่งจ่ายหรือผู้ออกตั๋วเงินที่มีคุณภาพ กรณีเป็นตั๋วเงินที่มีคุณภาพที่ไม่มีธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทเงินทุนอื่นรับรอง หรือรับอาวัล (3) ผู้ทรงซึ่งขายตั๋วเงินและบุคคลซึ่งต้องรับผิดตามตั๋วเงิน กรณีตั๋วเงินนั้นไม่ใช่ ตั๋วเงินที่มีคุณภาพ ข้อ 5 ความในข้อ 3 ไม่ใช้บังคับแก่กรณีที่บริษัทเงินทุน (1) ให้กู้ยืมหรือลงทุนโดยการซื้อหลักทรัพย์หรือตราสารหนี้ดังต่อไปนี้ (ก) หลักทรัพย์รัฐบาลไทย (ข) หุ้นกู้ พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กระทรวงการคลัง ค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ย (ค) หุ้นกู้ พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยองค์การ ของรัฐหรือนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น (ง) หุ้น หุ้นกู้ หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (2) ให้กู้ยืมเงิน รับรองตั๋วเงิน รับอาวัลตั๋วเงิน ค้ำประกัน หรือก่อภาระผูกพันอื่นใด โดยมีหลักทรัพย์หรือตราสารดังต่อไปนี้มาจำนำเป็นประกัน (ก) หลักทรัพย์รัฐบาลไทย (ข) หุ้นกู้ พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ย (ค) หุ้นกู้ พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยองค์การของรัฐหรือนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้นการคำนวณราคาของหลักประกันตามวรรคหนึ่ง (2) ให้ถือตามราคาดังนี้ (1) กรณีหลักทรัพย์รัฐบาลไทยต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ตราไว้ (2) กรณีหุ้นกู้ พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ประเภทระบุอัตราดอกเบี้ย ต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ตราไว้ (3) กรณีหุ้นกู้ พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ประเภทไม่ระบุอัตราดอกเบี้ย ต้องไม่เกินร้อยละ 60 ของจำนวนเงินที่ตราไว้ ข้อ 6 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2543 (ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล) ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย สนสป32-กส33201-25430526ด-ยก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ