29 กุมภาพันธ์ 2551เรียน ผู้จัดการ ธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ที่ ธปท.ฝกช.(22)ว.374/2551 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล(แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 1) 1.เหตุผลในการออกหนังสือเวียน ด้วยธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นควรขยายระยะเวลาให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจกรรมในจังหวัดสงขลาและสตูลที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ออกไปจนถึงสิ้นปี 2553 พร้อมทั้งขยายการช่วยเหลือให้ครอบคลุมผู้ประกอบกิจการที่ได้รับความเดือดร้อนได้กว้างขวางมากขึ้น จึงเห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือที่ ธปท.ฝกช.(22) ว.2477/2548 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ลงวันที่ 30 ธันวาคม 25482.อำนาจตามกฎหมาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5(2) และมาตรา 12(3)(4) แห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดกิจการธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ.2485 และที่แก้ไขเพิ่มเติม3.แก้ไขเพิ่มเติม หนังสือที่ ธปท.ฝกช.(22)ว.2477/2548 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ลงวันที่ 30 ธันวาคม 25484.ขอบเขตการบังคับใช้ ธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน5.เนื้อหา ข้อ 1.ให้ยกเลิกนิยามคำว่า "กิจการ" ในข้อ 1.ของหนังสือที่ ธปท.ฝกช.(22)ว.2477/2548 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2548 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "กิจการ" หมายความว่า ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและหมายความรวมถึง ธุรกิจต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้" ข้อ 2.ให้ยกเลิกความในข้อ 4. และ ข้อ 5. ของหนังสือที่ ธปท.ฝกช.(22) ว.2477/2548 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2548 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 4.ธนาคารแห่งประเทศไทยจะให้ความอนุเคราะห์แก่ผู้ประกอบกิจการที่ยื่นหนังสือขอความเห็นชอบให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการที่พึงเชื่อถือได้นับแต่วันที่หนังสือฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ภายในวงเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นสมควรแต่ไม่เกินรายละ 3 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบกิจการที่ได้รับความอนุเคราะห์ก่อนวันที่หนังสือฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ให้ได้รับความอนุเคราะห์ต่อไปไม่เกินวงเงินเดิมที่เคยได้รับ แต่หากวงเงินเดิมที่เคยได้รับนั้นต่ำกว่า 3 ล้านบาท ให้สามารถยื่นขอความอนุเคราะห์เพิ่มเติมได้อีก แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 3 ล้านบาท ข้อ 5.ธนาคารแห่งประเทศไทยจะให้ความอนุเคราะห์แก่ผู้ประกอบกิจการแต่ละรายนับแต่วันที่ผู้ประกอบกิจการรายนั้นได้รับความเห็นชอบให้ได้รับความอนุเคราะห์ทางการเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยจนถึงสิ้นปี 2553 โดยตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับสุดท้ายต้องถึงกำหนดใช้เงินไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2553"6.วันเริ่มต้นใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 ขอแสดงความนับถือ (นางธาริษา วัฒนเกส) ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทยส่วนสินเชื่อฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อโทร.02-283-5414-6, 02-283-5148หมายเหตุ ไม่จัดประชุมชี้แจง