ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก (Export Business Index) ประจำเดือนเมษายน (April 2017)
ภาพรวมดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกเดือนเมษายน 2560 เท่ากับ51.7 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนที่อยู่ในระดับ 57.1 ซึ่งผู้ส่งออกมีมุมมองว่าภาวะการส่งออกยังมีแนวโน้มดีขึ้น และจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 250 ราย มีรายละเอียดผลการสำรวจดังนี้
ดัชนีมูลค่าส่งออก เดือนเมษายน 2560 มีค่าเท่ากับ 54.8 แสดงว่า มูลค่าการส่งออกมีทิศทางดีขึ้น อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ทำให้ความต้องการสินค้าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มยุโรป ตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา และแอฟริกา
สินค้าสำคัญที่มีมูลค่า เพิ่มขึ้นได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ข้าว อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน
ขณะที่สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก ลดลงได้แก่เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เดือนเมษายน 2560 มีค่าเท่ากับ 55.0 แสดงว่า คำสั่งซื้อใหม่มีแนวโน้มสูงขึ้น สาเหตุหลักมาจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการส่งเสริมทางการตลาดในกลุ่มอาเซียน รวมถึงการขยายตลาดใหม่ที่เพิ่มขึ้น
สินค้าที่มีมูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้นได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ข้าว ยางพาราอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน และอาหารสำเร็จรูป
ขณะที่สินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ ลดลงได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
ดัชนีการจ้างงาน เดือนเมษายน 2560 มีค่าเท่ากับ 52.2 แสดงให้เห็นว่าทิศทางการจ้างงานของภาคการส่งออกยังคงมีทิศทางที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอผลิตภัณฑ์ยาง ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป
ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนเมษายน 2560 มีค่าเท่ากับ 44.6 แสดงว่าสินค้าคงคลังมีแนวโน้มลดลง สาเหตุหลักมาจากกำลังการผลิตสินค้าลดลง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาว สินค้าคงคลังที่ ลดลงได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ยางพารา ไก่แช่เยือกแข็งและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์
ขณะที่สินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้นได้แก่ รองเท้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ยาง ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป
ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ
- อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
- ขาดแคลนแรงงานทีมีฝีมือและไร้ฝีมือ
- ต้นทุนวัตถุดิบ ค่าขนส่ง และค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้น
- การแข่งขันทางด้านราคาและคุณภาพสินค้าจากประเทศคู่แข่ง
- การกีดกันทางการค้าของประเทศคู่ค้า
ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้
- รักษาค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
- พัฒนาแรงงานให้มีแรงงานที่มีฝีมือเพิ่มมากขึ้น
- เร่งแก้ไขกฎระเบียบและขั้นตอนในการส่งออกเพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า
1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจมีจำนวน86กลุ่มสินค้า
2. การคำนวณดัชนีเป็นดัชนีการกระจาย(DiffusionIndex)ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ(leadingindicator)และแสดงทิศทางการเติบโต(growth)ของภาวะธุรกิจจากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ(qualitative)ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ(quantitative)โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถามคือเพิ่มขึ้นให้คะแนนเท่ากับ1เท่าเดิมให้คะแนนเท่ากับ0.5และลดลงให้คะแนนเท่ากับ0จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกันหารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมดแล้วคูณด้วย100จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลาดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ100และค่าต่ำสุดเท่ากับ0
3. การนำไปใช้ประโยชน์เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออกใช้เส้นค่า50(breakevenpoint)เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้นถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลงและถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น50แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง
ทั้งนี้ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัวหากดัชนีตัดแนวเส้น50ลงมาหมายถึงภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัวสำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวถ้าดัชนีตัดแนวเส้น50ขึ้นไปแสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว
สำนักสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์
โทร.0 2507 5799-80 โทรสาร 0 2507 5806, 0 2507 5825
www.price.moc.go.th Email: neworders@moc.go.th