ดัชนีราคาส่งออก-นำเข้าของประเทศเดือนมิถุนายน 2565 และระยะ 6 เดือนแรกของปี 2565

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 25, 2022 14:34 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีราคาส่งออก เดือนมิถุนายน 2565เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19 ติดต่อกัน ที่ร้อยละ 5.3(YoY) หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 65.0 โดยเฉพาะราคาน้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ตามความกังวลของตลาดน้ำมันโลกที่มีความตึงตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเพิ่มอุปทานในระยะสั้นมีข้อจำกัด จากผู้ผลิตน้ำมันบางประเทศประสบปัญหาการผลิต หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร สูงขึ้นร้อยละ 7.3 ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลจากต้นทุนและเหล็กแผ่นสำหรับผลิตกระป๋องที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาหารสัตว์เลี้ยง ตามต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงความต้องการบริโภคที่มีอย่างต่อเนื่องปาล์มน้ำมันราคาสูงกว่าปีก่อนหน้า ผลจากการได้รับอานิสงส์ความต้องการใช้พืชพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นมาก สำหรับน้ำตาลทรายเพิ่มขึ้นตามความต้องการผลิตเอทานอลซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้า หมวดสินค้าเกษตรกรรม สูงขึ้นร้อยละ 4.2 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เนื่องจากใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ทดแทนข้าวสาลีและข้าวโพดที่มีราคาสูง และไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและไก่แปรรูป ตามความต้องการนำเข้าเพื่อการบริโภค ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้นและหมวดสินค้าอุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 2.5 จากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ จากต้นทุนที่สูงขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก

ดัชนีราคานำเข้า เดือนมิถุนายน 2565 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19 ติดต่อกัน อยู่ที่ร้อยละ 13.7(YoY) หมวดสินค้าที่ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวสูงขึ้น ประกอบด้วยหมวดสินค้าเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 66.8 ได้แก่ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติปิโตรเลียม และน้ำมันสำเร็จรูป ผลจากสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมทั้งมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค สูงขึ้นร้อยละ 7.0 ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน โดยเฉพาะเครื่องมือสื่อสาร ผลจากต้นทุนของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สูงขึ้น ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม โดยเฉพาะยารักษาโรค จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สูงขึ้นร้อยละ 5.3 ได้แก่ สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์ ตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับปุ๋ย ราคายังทรงตัวสูงกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก แม้ว่าราคาปัจจุบันจะลดลงจากจุดสูงสุด ในช่วงเดือนมีนาคม 2565 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของความขัดแย้งในยูเครน และหมวดสินค้าทุน สูงขึ้นร้อยละ 4.4 ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ จากต้นทุนการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ประกอบกับภาวะขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ขณะที่หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ลดลงร้อยละ 4.3 ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์แนวโน้มดัชนีราคาส่งออกและนำเข้าในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปี 2565 (ก.ค.-ธ.ค.) คาดว่าแรงกดดันจากดัชนีที่อยู่ระดับสูงมีแนวโน้มลดลง เป็นผลมาจาก (1) เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่ำกว่าคาดการณ์ จากผลกระทบของเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก การดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีความไม่แน่นอน (2) ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีทิศทางชะลอตัวลงจากไตรมาสที่ 2สอดคล้องกับความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว (3) สินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญมีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากผลผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้บางประเทศยกเลิกนโยบายจำกัดการส่งออก และรัสเซียและยูเครนได้ลงนามในข้อตกลงส่งออกธัญพืช และ (4) ต้นทุนค่าระวางเรือมีแนวโน้มลดลง อัตราการค้า (Term of Trade)เดือนมิถุนายน 2565

อัตราการค้าของไทย ในเดือนมิถุนายน 2565 เท่ากับ 94.9 (เดือนพฤษภาคม 2565 เท่ากับ 95.2) ต่ำกว่า 100 เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน สะท้อนถึง ไทยมีความเสียเปรียบทางโครงสร้างราคาระหว่างประเทศ เนื่องจากระดับราคานำเข้าสูงกว่าราคาส่งออก โดยมีปัจจัยหลักจากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคานำเข้าน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน (ซึ่งมีสัดส่วนน้ำมันนำเข้าสูงกว่าส่งออก) สูงขึ้นในอัตราที่มากกว่าการสูงขึ้นของราคาส่งออก อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาน้ำมันที่เริ่มลดลงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงก่อนหน้า น่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้อัตราการค้าของไทยในระยะต่อไปปรับตัวดีขึ้น

1. เทียบกับเดือนพฤษภาคม 2565 (MoM)สูงขึ้นร้อยละ 0.5โดยมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้หมวดสินค้าที่ดัชนีราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้น ประกอบด้วย หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 4.9 ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป น้ำมันดิบ และก๊าซปิโตรเลียมเหลวเนื่องจากอุปทานน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มตึงตัวต่อเนื่อง หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันตามข้อตกลง เพราะบางประเทศประสบปัญหาการผลิต ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันดิบของรัสเซียเข้าสู่ตลาดโลกลดลง จากผลกระทบที่ยุโรปมีมติยกเลิกการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร สูงขึ้นร้อยละ 0.3 ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป และอาหารสัตว์เลี้ยง จากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ ประกอบกับความต้องการในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น สำหรับน้ำตาลทราย ผู้ประกอบการไทยยังคงราคาสูงต่อเนื่อง แม้ว่าราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับลดลง 2 เดือนติดต่อกัน และหมวดสินค้าอุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 0.3 จากผลของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ตามการใช้ชิ้นส่วนที่มีเทคโนโลยีที่สูงขึ้น สำหรับเคมีภัณฑ์ เนื่องจากเป็นสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ขณะที่หมวดสินค้าเกษตรกรรม ลดลงร้อยละ 0.5 ได้แก่ ข้าว ราคาปรับลดลงเนื่องจากผลผลิตของประเทศสำคัญออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งความต้องการชะลอตัวลง หลังจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตได้ต่ำกว่าคาดการณ์เดิม ขณะที่ยางพาราปรับตัวลดลงจากราคาถุงมือยางที่ต้องใช้น้ำยางในการผลิตปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังราคาปรับตัวสูงขึ้นผลจากสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมทั้งมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร ดันความต้องการเพิ่มสูงขึ้น โดยมีบางประเทศมีการนำเข้ามันสำปะหลังจากไทยทดแทนธัญพืชอื่น ๆ ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น

2.เทียบกับเดือนมิถุนายน 2564 (YoY)สูงขึ้นร้อยละ 5.3โดยมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ดัชนีราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้นทุกหมวดสินค้า ประกอบด้วย หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 65.0 โดยเฉพาะราคาน้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ตามความกังวลของตลาดน้ำมันโลกที่มีความตึงตัวมากขึ้น อันเป็นผลมาจากปริมาณการผลิตลดลง และความต้องการใช้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร สูงขึ้นร้อยละ 7.3 ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลจากต้นทุนและเหล็กแผ่นสำหรับผลิตกระป๋องที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาหารสัตว์เลี้ยง ตามต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงความต้องการบริโภคที่มีอย่างต่อเนื่องปาล์มน้ำมันราคาสูงกว่าปีก่อนหน้า ผลจากการได้รับอานิสงส์ความต้องการใช้พืชพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นแม้ว่าราคาในตลาดโลกจะลดลงจากเดือนก่อนหน้า หลังจากอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกสำคัญยกเลิกนโยบายการจำกัดการส่งออกปาล์มน้ำมันชั่วคราว ส่งผลให้ปริมาณปาล์มน้ำมันเข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้น สำหรับน้ำตาลทรายเพิ่มขึ้นตามความต้องการผลิตเอทานอลซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้าหมวดสินค้าเกษตรกรรม สูงขึ้นร้อยละ 4.2 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เนื่องจากใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ทดแทนข้าวสาลีและข้าวโพดที่มีราคาสูง ยางพารา ผลจากสภาพอากาศที่ยังคงมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้ผลผลิตยางออกสู่ตลาดน้อยลง และไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง และไก่แปรรูป ตามความต้องการนำเข้าเพื่อการบริโภค ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้น และหมวดสินค้าอุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 2.5 จากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ จากต้นทุนที่สูงขึ้นส่วนผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก

3. เฉลี่ยม.ค.-มิ.ย. ปี 2565 เทียบกับปี 2564 (AoA)สูงขึ้นร้อยละ 4.6โดยมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ดัชนีราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้นทุกหมวดสินค้า ประกอบด้วย หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 55.7 ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป และน้ำมันดิบ ตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่เร่งตัวสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่ยืดเยื้อ และมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร รวมทั้งประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันตามข้อตกลง เพราะบางประเทศประสบปัญหาการผลิต หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร สูงขึ้นร้อยละ 6.3 ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ อาหารสัตว์เลี้ยง ปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบ รวมถึงความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและน้ำตาลทราย เนื่องจากความต้องการนำอ้อยไปผลิตเป็นเอทานอลเพื่อทดแทนน้ำมันที่ราคาสูงขึ้น หมวดสินค้าอุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 2.5 ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ จากการใช้ชิ้นส่วนและอุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่และต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ เป็นผลจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และหมวดสินค้าเกษตรกรรม สูงขึ้นร้อยละ 1.9 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เนื่องจากความต้องการใช้เป็นพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ยางพารา ความต้องการเพิ่มขึ้น ประกอบกับฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า สำหรับผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าและต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้น

4. ไตรมาสที่ 2 ปี 2565 เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY)สูงขึ้นร้อยละ 5.0โดยมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ดัชนีราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้นทุกหมวดสินค้า ประกอบด้วย หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 19.8 ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป และน้ำมันดิบ จากผลของความต้องการใช้น้ำมันและสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมทั้งมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร สูงขึ้นร้อยละ 7.1 โดยเฉพาะน้ำตาลทราย จากความต้องการใช้ที่เพิ่มสูงขึ้น และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ตามต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงความต้องการบริโภคที่มีอย่างต่อเนื่อง หมวดสินค้าเกษตรกรรม สูงขึ้นร้อยละ 3.4 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ฝ้าย พืชน้ำมัน ผักสดแช่เย็น แช่แข็งและแห้งไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป ตามความต้องการบริโภคของตลาดที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ข้าว ราคาปรับลดลง เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก และกุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป ราคาลดลงเนื่องจากการเผชิญกับการแข่งขันทางด้านราคาและหมวดสินค้าอุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 2.6 ได้แก่ผลิตภัณฑ์พลาสติก เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ เนื่องจากเป็นสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน สำหรับเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นผลมาจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นผลจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งการใช้ชิ้นส่วนที่มีเทคโนโลยีที่สูงขึ้น ประกอบกับการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์เป็นช่วงระยะเวลายาวนาน ทำให้ราคาเซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวสูงขึ้น

5. ไตรมาสที่ 2 ปี 2565 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) สูงขึ้นร้อยละ 1.8โดยมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ดัชนีราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้นทุกหมวดสินค้า ประกอบด้วย หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 55.2 ได้แก่น้ำมันสำเร็จรูป และน้ำมันดิบ ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมทั้งมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร ทำให้อุปทานน้ำมันดิบตึงตัวต่อเนื่อง หมวดสินค้าเกษตรกรรม สูงขึ้นร้อยละ 2.7 ได้แก่ ข้าว ตามความต้องการสินค้าข้าวเพิ่มขึ้นของประเทศผู้นำเข้าสำคัญ ยางพารา ตามปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลงสำหรับผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักสดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูปขยายตัวตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทั้งการนำเข้าเพื่อบริโภค หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร สูงขึ้นร้อยละ 2.5 ได้แก่อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ตามต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนการขนส่งระหว่างประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวสาลีแนวโน้มราคาปรับสูงขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่ยืดเยื้อ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกสินค้าประเภทธัญพืชและข้าวสาลีเป็นหลักในตลาดโลก และหมวดสินค้าอุตสาหกรรมสูงขึ้นร้อยละ 0.6 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง สิ่งทอ และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ตามคำสั่งซื้อสินค้าจากตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น สำหรับเม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และทองคำ ผลจากความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

6. แนวโน้มดัชนีราคาส่งออกในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปี 2565 แนวโน้มดัชนีราคาส่งออกในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปี 2565 (ก.ค. -ธ.ค.) คาดว่าดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวชะลอตัวลง เป็นผลมาจาก (1) ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีทิศทางชะลอตัวลงจากไตรมาสที่ 2 สอดคล้องกับความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว (2) ราคาพืชพลังงานทดแทนมีแนวโน้มลดลง ตามราคาน้ำมันที่ลดลง (3) ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มลดลง ทั้งอุปสงค์ที่คาดว่าจะชะลอตัว ตามเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวได้ต่ำกว่าคาดการณ์เดิม รวมทั้งต้นทุนการผลิตจะปรับตัวลดลง โดยเฉพาะราคาปุ๋ยที่ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดแล้ว และ (4) ต้นทุนปัจจัยการผลิตสินค้าขั้นกลางจากต่างประเทศมีแนวโน้มลดลง จากค่าระวางเรือปรับตัวลดลง

1. เทียบกับเดือนพฤษภาคม 2565 (MoM) สูงขึ้นร้อยละ 0.8โดยมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้หมวดสินค้าที่ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวสูงขึ้น ประกอบด้วย หมวดสินค้าเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 3.9 ได้แก่ น้ำมันดิบ ผลจากสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมทั้งมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร และการผลิตน้ำมันของกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ต่ำกว่าส่วนแบ่งที่ได้รับจัดสรร หมวดสินค้าทุน สูงขึ้นร้อยละ 0.2 ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ จากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค สูงขึ้นร้อยละ 0.2 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม โดยเฉพาะยารักษาโรค สำหรับกาแฟ ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผลผลิตและสต๊อกปรับลดลง ขณะที่ความต้องการบริโภคยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ลดลงร้อยละ 0.6 ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และหมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ลดลงร้อยละ 0.1 ได้แก่ ปุ๋ย และยากำจัดสัตรูพืชและสัตว์ ราคาลดลงตามตลาดโลก เครื่องเพชรพลอย อัญมณีเงินแท่งและทองคำ จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์2. เทียบกับเดือนมิถุนายน 2564 (YoY)สูงขึ้นร้อยละ 13.7โดยมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้หมวดสินค้าที่ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวสูงขึ้น ประกอบด้วย หมวดสินค้าเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 66.8 ได้แก่ น้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติปิโตรเลียมและน้ำมันสำเร็จรูป ผลจากสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมทั้งมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค สูงขึ้นร้อยละ 7.0 ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน โดยเฉพาะเครื่องมือสื่อสาร ผลจากต้นทุนของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สูงขึ้น ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรมโดยเฉพาะยารักษาโรค จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ที่มีความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สูงขึ้นร้อยละ 5.3 ได้แก่ สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์ ตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับปุ๋ย ราคายังทรงตัวสูงกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก แม้ว่าราคาปัจจุบันจะลดลงจากจุดสูงสุด ในช่วงเดือนมีนาคม 2565 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของความขัดแย้งในยูเครน และหมวดสินค้าทุน สูงขึ้นร้อยละ 4.4 ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ จากต้นทุนการผลิตและความต้องการในการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ จากต้นทุนการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ประกอบกับภาวะขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ขณะที่หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ลดลงร้อยละ 4.3 ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์3. เฉลี่ยม.ค.-มิ.ย. ปี 2565 เทียบกับปี 2564 (AoA)สูงขึ้นร้อยละ 13.4โดยมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้หมวดสินค้าที่ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวสูงขึ้น ประกอบด้วย หมวดสินค้าเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 63.8 ได้แก่ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติปิโตรเลียม และน้ำมันสำเร็จรูป ผลจากสถานการณ์ความขัดแย้ง ในยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมทั้งมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สูงขึ้นร้อยละ 6.8 ได้แก่ สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก ปุ๋ย เนื่องจากรัสเซียจำกัดการส่งออก และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ตามความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค สูงขึ้นร้อยละ 5.9 ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน โดยเฉพาะเครื่องมือสื่อสารมีการใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม ผลจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น นมและผลิตภัณฑ์นม ผลจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น และหมวดสินค้าทุน สูงขึ้นร้อยละ 4.0 ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูง และเป็นสินค้าเทคโนโลยีสมัยใหม่ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์โลหะ มีความต้องการเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศขณะที่หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ลดลงร้อยละ 3.4 ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และรถยนต์นั่ง
4. ไตรมาสที่ 2 ปี 2565 เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า (YoY) สูงขึ้นร้อยละ 14.2 โดยมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้หมวดสินค้าที่ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวสูงขึ้น ประกอบด้วย หมวดสินค้าเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 67.4 ได้แก่ก๊าซธรรมชาติปิโตรเลียม น้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูป     ตามราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมทั้งมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค สูงขึ้นร้อยละ 7.0 ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด ผลจากการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม จากมาตรการป้องกันรักษาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ทำให้บุคลากรทางการแพทย์จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคอย่างต่อเนื่อง ส่วนผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ จากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น     หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สูงขึ้นร้อยละ 6.4 ได้แก่ ปุ๋ย เนื่องจากการจำกัดการส่งออกของรัสเซีย ประกอบกับต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบและค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นส่วนสินแร่โลหะอื่น ๆเศษโลหะและผลิตภัณฑ์ราคาปรับตัวสูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้น สำหรับพืชและผลิตภัณฑ์จากพืช ราคาปรับตัวสูงขึ้น จากค่าขนส่งระหว่างประเทศ นอกจากนี้ เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ทำจากพลาสติก ราคาสูงขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมัน และความต้องการใช้เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หมวดสินค้าทุน สูงขึ้นร้อยละ 4.3 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องมือ เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์การทดสอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ     ผลจากต้นทุนวัตถุดิบและความต้องการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ลดลงร้อยละ 3.5 ได้แก่ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และรถยนต์นั่ง  เป็นผลจากชิ้นส่วนบางรุ่นที่ราคาปรับลดลง5. ไตรมาสที่ 2 ปี 2565 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) สูงขึ้นร้อยละ 3.6โดยมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้หมวดสินค้าที่ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวสูงขึ้น  ประกอบด้วย หมวดสินค้าเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 15.6 ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติปิโตรเลียม น้ำมันสำเร็จรูป และน้ำมันดิบ ตามราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมทั้งมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค สูงขึ้น    ร้อยละ 2.8 ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง  สำหรับเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด และผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ ผลจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สูงขึ้นร้อยละ 1.1 ได้แก่ ปุ๋ย ผลจากต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตที่ปรับสูงขึ้น ส่วนสินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและและผลิตภัณฑ์จากพืช และสัตว์น้ำสด แช่เย็นแช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป ได้รับผลกระทบจากต้นทุนการขนส่งที่ปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เคมีภัณฑ์ ราคาเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก สำหรับหมวดสินค้าทุน สูงขึ้นร้อยละ 0.6 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบราคายังคงสูงขึ้นตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาเครื่องมือ เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์และการทดสอบ ปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นขณะที่หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ลดลงร้อยละ 1.2 โดยเฉพาะส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์
6. แนวโน้มดัชนีราคานำเข้าในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปี 2565 แนวโน้มดัชนีราคานำเข้าในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปี 2565 (ก.ค. -ธ.ค.) คาดว่าแรงกดดันจากดัชนีที่อยู่ระดับสูงมีแนวโน้มลดลง เป็นผลมาจาก (1) เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่ำกว่าคาดการณ์ จากผลกระทบของเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก การดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด และการแพร่ระบาดของโควิด-19ยังมีความไม่แน่นอน (2) ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีทิศทางชะลอตัวลงจากไตรมาสที่ 2 สอดคล้องกับความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว (3) สินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญมีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากผลผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้บางประเทศยกเลิกจำกัดการส่งออก และรัสเซียและยูเครนได้ลงนามในข้อตกลงส่งออกธัญพืช และ (4) ต้นทุนค่าระวางเรือมีแนวโน้มลดลง

อัตราการค้าของไทย ในเดือนมิถุนายน 2565 เท่ากับ 94.9(เดือนพฤษภาคม 2565 เท่ากับ 95.2) ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันแสดงถึง อัตราการค้าของไทยมีความเสียเปรียบเชิงโครงสร้างราคาระหว่างประเทศ เนื่องจากราคาส่งออกที่เสนอขายต่ำกว่าราคานำเข้าที่ซื้อเข้ามา

อัตราการค้าของไทย ในเดือนมิถุนายน 2565 เท่ากับ 94.9 (เดือนพฤษภาคม 2565 เท่ากับ 95.2) ต่ำกว่า 100 เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน สะท้อนถึง ไทยมีความเสียเปรียบทางโครงสร้างราคาระหว่างประเทศ เนื่องจากระดับราคานำเข้าสูงกว่าราคาส่งออก โดยมีปัจจัยหลักจากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคานำเข้าน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน (ซึ่งมีสัดส่วนน้ำมันนำเข้าสูงกว่าส่งออก) สูงขึ้นในอัตราที่มากกว่าการสูงขึ้นของราคาส่งออก

สำหรับกลุ่มสินค้าที่ราคาส่งออกยังคงเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าราคานำเข้า (ได้เปรียบในอัตราการค้า) ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าที่ใช้วัตถุดิบขั้นกลางจากต่างประเทศในการผลิตเช่น เครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิว เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบและกลุ่มสินค้าขั้นกลางที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศในการผลิตเช่น ผลไม้ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป และของปรุงแต่งทำจากผลไม้ ผัก ผักกระป๋องและแปรรูป และของปรุงแต่งทำจากผัก และผลิตภัณฑ์ทำจากข้าวและแป้ง เป็นต้น

ขณะที่กลุ่มสินค้าที่ราคานำเข้าสูงกว่าราคาส่งออก (เสียเปรียบในอัตราการค้า) ได้แก่ น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป นมและผลิตภัณฑ์นม ทองคำ และทองแดงและผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอื่น ๆ ที่ราคานำเข้าสูงกว่าราคาส่งออก อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ แผงวงจรไฟฟ้า สิ่งทอและเสื้อผ้า เป็นต้นแนวโน้มอัตราการค้าไทยในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปี 2565 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้า ตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญมีแนวโน้มปรับลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ดัชนีราคานำเข้าชะลอตัวลงในอัตราที่มากกว่าการชะลอตัวลงของดัชนีราคาส่งออก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอัตราการค้าไทยอยู่ระดับต่ำกว่า 100ติดต่อกัน 6เดือน และอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ดังนั้น อัตราการค้าไทยจะกลับมาอยู่ในระดับสูงกว่า 100อาจต้องใช้เวลาต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ