ขออนุมัติลงนามและให้สัตยาบันสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 26, 2011 22:21 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ขออนุมัติลงนามและให้สัตยาบันสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐเกาหลีว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาและความร่วมมือ

ในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญา (สนธิสัญญาโอนตัวนักโทษ)

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบร่างสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐเกาหลีว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญา

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามสนธิสัญญาฯ

3. อนุมัติให้ กต. ให้สัตยาบันสนธิสัญญาฯ และแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารในโอกาสอันเหมาะสมตามที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันต่อไป

4. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างสนธิสัญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญก่อนมีการลงนาม ให้ กต. สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง

สาระสำคัญของเรื่อง

ร่างสนธิสัญญาฯ มีเนื้อหาสาระเช่นเดียวกับสนธิสัญญาประเภทนี้ที่ประเทศไทยจัดทำกับประเทศต่าง ๆ และสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการดำเนินการตามคำพิพากษาคดีอาญา พ.ศ. 2527 (แก้ไข พ.ศ. 2530) ทุกประการ โดยกำหนดเงื่อนไขและขั้นตอนในการขอโอนและการรับโอนตัวผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาระหว่างรัฐภาคี สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

1. ผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาที่ถูกพิพากษาลงโทษในดินแดนของภาคีฝ่ายหนึ่งอาจถูกโอนตัวไปยังดินแดนของภาคีอีกฝ่ายหนึ่งได้เพื่อรับโทษที่เหลืออยู่ซึ่งตนถูกพิพากษา

2. ผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาอาจถูกโอนตัวได้ถ้าถูกพิพากษาลงโทษจำคุก กักขังหรือทำให้ปราศจากอิสรภาพในรูปแบบอื่นใด

3. การกระทำหรือการงดเว้นการกระทำอันเป็นมูลเหตุของการมีคำพิพากษาให้ลงโทษเป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมายของรัฐผู้รับ

4. ผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาที่อาจถูกโอนตัวต้องเป็นคนชาติของรัฐผู้รับ

5. รัฐผู้โอนและรัฐผู้รับตกลงกันที่จะให้มีการโอนตัวได้ และผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาให้ความยินยอมต่อการโอนตัวเป็นลายลักษณ์อักษร

6. ผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาซึ่งกระทำความผิดต่อความมั่นคงภายในและภายนอกของรัฐ ต่อประมุขของรัฐ หรือสมาชิกในครอบครัวของประมุขของรัฐ หรือต่อกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสมบัติที่มีค่าทางศิลปะของชาติ จะไม่ได้รับการโอนตัว

7. หากผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาที่อาจถูกโอนตัวได้รับโทษในรัฐผู้โอนมาแล้วเป็นเวลาขั้นต่ำสำหรับความผิดนั้น ในกรณีที่มีกฎหมายของรัฐผู้โอนกำหนดไว้

8. ผู้ต้องโทษตามคำพิพากษายังคงเหลือระยะเวลาในการรับโทษตามคำพิพากษาอีกอย่างน้อย 1 ปี ในขณะที่ได้รับคำร้องขอให้โอนตัวหรือหากเป็นบุคคลซึ่งถูกลงโทษโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาไว้ ก็ให้ถือว่ายังคงเหลือระยะเวลาในการรับโทษตามคำพิพากษาอีกอย่างน้อย 1 ปี

9. รัฐผู้โอนยังคงไว้ซึ่งเขตอำนาจแต่ผู้เดียวเกี่ยวกับคำพิพากษาของรัฐผู้โอน รวมทั้งโทษตามคำพิพากษาที่กำหนดโดยศาลของรัฐผู้โอนในการที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกคำพิพากษาของศาลตน

10.การบังคับโทษตามคำพิพากษาต่อภายหลังการโอนตัวให้เป็นไปตามกฎหมายและขั้นตอนของรัฐผู้รับ

11.สนธิสัญญาฉบับนี้จะเริ่มมีผลใช้บังคับในวันที่มีการแลกเปลี่ยนสัตยาบันสาร

ทั้งนี้ ผู้แทนจากสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมราชทัณฑ์ และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ได้เข้าร่วมเป็นคณะผู้แทนไทยในการเจรจาจัดทำสนธิสัญญาฯ และได้เห็นชอบร่างสนธิสัญญาฯ ร่วมกันแล้ว

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 ตุลาคม 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ