เรื่อง บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการจ้างงานและแรงงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลี
ว่าด้วยการจัดส่งแรงงานไทยไปสาธารณรัฐเกาหลีภายใต้ระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอดังนี้
1. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการจ้างงานและแรงงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลีว่าด้วยการจัดส่งแรงงานไทยไปสาธารณรัฐเกาหลี ภายใต้ระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ตามข้อ 1.
3. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) มีหนังสือแจ้งทางการสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อให้บันทึกความเข้าใจฯ ตามข้อ 1 มีผลบังคับใช้ และออกหนังสือมอบอำนาจเต็มให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงแรงงาน (รง.) รายงานว่า
1. รง. ทำหน้าที่รับผิดชอบการส่งแรงงานไทยเพื่อไปทำงานกับนายจ้างต่างประเทศ ตลาดแรงงานที่สำคัญประเทศหนึ่ง คือ สาธารณรัฐเกาหลี รง. ร่วมกับกระทรวงการจ้างงานและแรงงานสาธารณรัฐเกาหลีได้ดำเนินการในลักษณะรัฐต่อรัฐตามพันธะในบันทึกความเข้าใจ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (22 มิถุนายน 2547, 22 สิงหาคม 2549 และ 21 ตุลาคม 2551) และได้ลงนามครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2547 ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2549 และครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2552 ในแต่ละครั้งมีผลบังคับใช้ 2 ปี โดยสามารถยกเลิกได้เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจฯ และสามารถขยายระยะเวลาบังคับใช้ได้โดยความเห็นชอบร่วมกัน ทั้ง 2 ฝ่าย การลงนามบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดส่งแรงงานไปทำงานตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาตินี้ กระทรวงการจ้างงานและแรงงานสาธารณรัฐเกาหลีได้ลงนามกับรัฐบาลประเทศผู้จัดส่งแรงงานไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีอีก 14 ประเทศ ซึ่งสาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจฯ ของทุกประเทศมีแนวปฏิบัติคล้ายคลึงกัน และมีระบบการดำเนินการจัดส่งแรงงานไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีเหมือนกันทุกประเทศ ซึ่งในแต่ละปีแต่ละประเทศจะได้รับการจัดสรรโควตาในการจัดส่งแรงงานไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีในจำนวนที่มากน้อยแตกต่างกันไปตามความต้องการของนายจ้าง ประเทศไทยได้จัดส่งแรงงานไทยไปสาธารณรัฐเกาหลีภายใต้ระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ ตามพันธะบันทึกความเข้าใจตั้งแต่ ปี 2547 จนถึงปัจจุบันรวมจำนวน 31,421 คน ปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ยังคงทำงานในสาธารณรัฐเกาหลี ภายใต้ระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ จำนวน 23,760 คน ซึ่งแรงงานไทยมีจำนวนมากเป็นอันดับสองรองจากเวียดนาม โดยแรงงานไทยจะได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายแรงงานของสาธารณรัฐเกาหลี และได้รับเงินเดือนตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเดือนละ 902,880 วอน (ประมาณ 24,500 บาท) ประมาณการรายได้ส่งกลับประเทศของแรงงานไทยโดยรวมเดือนละ 350 ล้านบาท หรือปี 4,200 ล้านบาท
2. บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการจ้างงานและแรงงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลีว่าด้วยการจัดส่งแรงงานไทยไปสาธารณรัฐเกาหลี ภายใต้ระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ ฉบับลงนามวันที่ 12 เมษายน 2552 ซึ่งมีกำหนด 2 ปี ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2554 แต่เนื่องจากกระทรวงการจ้างงานและแรงงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลีได้ปรับแก้ร่างบันทึกความเข้าใจฯ ซึ่งการพิจารณายังไม่ได้ข้อสรุปจึงได้มีการขยายเวลาบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 11 ธันวาคม 2554 ในส่วนของประเทศไทย รง. ได้มอบหมายให้คณะทำงานพิจารณาและจัดทำร่างข้อตกลงที่เกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจการจัดส่งแรงงานไทยไปสาธารณรัฐเกาหลี ภายใต้ระบบการจ้างแรงงานต่างชาติเป็นผู้พิจารณาสาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการจ้างงานและแรงงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลีว่าด้วยการจัดส่งแรงงานไทยไปสาธารณรัฐเกาหลี ภายใต้ระบบการจ้างแรงงานต่างชาติฉบับใหม่เพื่อให้เกิดความชัดเจนสอดคล้องกับกฎหมายบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานฝ่ายไทย รวมทั้งเกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนหางาน ซึ่งร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญโดยสรุปดังนี้
2.1 กำหนดให้กรมการจัดหางานในฐานะหน่วยงานผู้ส่งมีอำนาจในการสรรหาและจัดส่งคนงาน และกำหนดให้สถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เกาหลี (HRD Korea) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการจ้างงานและแรงงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลี ในฐานะหน่วยงานผู้รับมีอำนาจในการจัดการบัญชีรายชื่อคนหางานและรับคนงาน
2.2 กำหนดให้มีการจัดสอบความสามารถภาษาเกาหลี เพื่อวัตถุประสงค์ในการคัดเลือกคนหางานตามกฎหมายการทำงานของแรงงานต่างชาติ ในกรณีที่จำเป็นอาจจะดำเนินการทดสอบทักษะฝีมือ เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่นายจ้าง
2.3 กำหนดให้กรมการจัดหางานดำเนินการให้ความรู้เบื้องต้นแก่คนงานที่ได้ลงนามสัญญาการจ้างงานแล้ว โดยอาจให้ความรู้เบื้องต้นด้วยตนเองหรือจะให้องค์กรสาธารณะที่มีภารกิจดังกล่าวดำเนินการในการให้ความรู้โดยต้องมีการหารือเป็นการล่วงหน้ากับกระทรวงการจ้างงานและแรงงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลี ในกรณีที่จำเป็นสามารถคัดเลือกองค์กร ซึ่งไม่ใช่หน่วยงานของรัฐในการดำเนินการให้ความรู้เบื้องต้นโดยมีเงื่อนไขว่า องค์กรที่ได้รับการคัดเลือกต้องมีความโปร่งใสและมีความยุติธรรม
2.4 กระทรวงการจ้างงานและแรงงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลีจะดำเนินการฝึกอบรมเพื่อการทำงานและการตรวจสุขภาพให้แก่คนงานก่อนเริ่มต้นการทำงานที่เกาหลี โดยกระทรวงการจ้างงานและแรงงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลีจะเป็นผู้กำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดำเนินการจัดฝึกอบรมเพื่อการทำงานและการตรวจสุขภาพ คนงานจะได้รับอนุญาตให้ทำงานในเกาหลีเป็นระยะเวลาไม่เกิน 3 ปีนับจากวันที่เดินทางเข้าประเทศ และคนงานสามารถขยายระยะเวลาการทำงานออกไปได้อีกไม่เกิน 2 ปี
2.5 กำหนดให้ทั้งสองฝ่ายดำเนินการเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและประสิทธิภาพในกระบวนการจัดส่งและรับ และทั้งสองฝ่ายอาจจะตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ณ จุดที่อาจจะมีการรายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง
2.6 กำหนดให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันช่วยเหลือคนงานให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากการประกันการเดินทางกลับและการประกันค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับไปประเทศไทยก่อนเดินทางออกจากสาธารณรัฐเกาหลี
2.7 บันทึกความเข้าใจ ฯ ฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ลงนามของทั้งสองฝ่าย และจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 2 ปี บันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้อาจจะมีการพักใช้หรือยกเลิกได้โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหากมีเหตุอันสมควร เช่น การละเมิด บันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้ จะยังคงมีผลบังคับระหว่างที่มีการดำเนินการเพื่อต่ออายุ เว้นแต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะร้องขอให้มีการสิ้นสุดการมีผลบังคับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 ธันวาคม 2554--จบ--