เรื่อง รายงานผลการประชุมองค์กรระดับชาติและหน่วยงานหลักภาครัฐที่ทำงานด้านเด็กในภูมิภาคเอเชีย
แปซิฟิก ครั้งที่ 1 และขอความเห็นชอบการเข้าเป็นสมาชิกเครือข่ายฯ และเป็นเจ้าภาพจัดประชุม
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายระดับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเรื่องเด็ก (Childnet) และเห็นชอบการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมองค์กรระดับชาติและหน่วยงานหลักภาครัฐด้านเด็กในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2550 ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รายงานว่า ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2535 และอนุสัญญามีผลบังคับใช้ในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2535 เป็นต้นมา ประเทศไทยได้มีการดำเนินงานตามอนุสัญญาและได้เสนอรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานของประเทศ ตามข้อ 44 ของอนุสัญญาต่อคณะกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ รวม 2 ฉบับ ฉบับที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2539 และ ฉบับที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2547 ซึ่งการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย ฯ และการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมองค์กรระดับชาติ ฯ ด้านเด็ก ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2550 จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทย คือ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนและเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ในการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และเป็นการสร้างโอกาสในการเป็นผู้นำในการส่งเสริมความร่วมมือและการประสานการทำงานด้านเด็กในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 5 กรกฎาคม 2548--จบ--
แปซิฟิก ครั้งที่ 1 และขอความเห็นชอบการเข้าเป็นสมาชิกเครือข่ายฯ และเป็นเจ้าภาพจัดประชุม
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายระดับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเรื่องเด็ก (Childnet) และเห็นชอบการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมองค์กรระดับชาติและหน่วยงานหลักภาครัฐด้านเด็กในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2550 ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รายงานว่า ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2535 และอนุสัญญามีผลบังคับใช้ในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2535 เป็นต้นมา ประเทศไทยได้มีการดำเนินงานตามอนุสัญญาและได้เสนอรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานของประเทศ ตามข้อ 44 ของอนุสัญญาต่อคณะกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ รวม 2 ฉบับ ฉบับที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2539 และ ฉบับที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2547 ซึ่งการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย ฯ และการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมองค์กรระดับชาติ ฯ ด้านเด็ก ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2550 จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทย คือ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนและเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ในการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และเป็นการสร้างโอกาสในการเป็นผู้นำในการส่งเสริมความร่วมมือและการประสานการทำงานด้านเด็กในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 5 กรกฎาคม 2548--จบ--