ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2547 ให้เร่งรัดการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ได้หารือเรื่องนี้ร่วมกับ นายรุ่ง แก้วแดง (ผู้ช่วยรัฐมนตรี) ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ อธิบดีกรมบัญชีกลาง รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ - สัตว์ป่าและพันธ์พืช ผู้บัญชาการสำนักงานแผนงานและงบประมาณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2547 แล้วที่ประชุมเห็นพ้องให้ใช้แนวทางแก้ไขดังต่อไปนี้
1. โดยที่กรมบัญชีกลางได้เบิกเงินคงคลังไปตั้งไว้ที่ กอ.สสส.จชต. จังหวัดปัตตานีแล้วจำนวน 200 ล้านบาท เดิมให้ใช้เพื่อ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาความมั่นคง แต่ได้แจ้งแล้วว่าให้ใช้จ่ายทดรองเป็นค่าตอบแทนพิเศษเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากการเบิกจ่ายช้าหรือส่วนราชการต้นสังกัดไม่ยอมเบิกจ่ายให้ด้วย
2. ขณะเดียวกันให้สำนักงบประมาณเรียกเงินเหลือจ่ายจากที่เคยจัดสรรให้ตามโครงการเกษียณก่อนกำหนดกลับคืนจากทุกส่วนราชการ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 800 - 1,000 ล้านบาท แล้วจัดตรงไปที่ กอ.สสส.จชต. เป็นเงินทดรองค่าตอบแทนพิเศษอีกยอดหนึ่ง (นอกเหนือจากเงิน 200 ล้านบาท)
3. ให้ทุกส่วนราชการเบิกเงินค่าตอบแทนพิเศษจาก กอ.สสส.จชต. ซึ่งมีอยู่สองยอด (200 + 800 - 1,000 ล้านบาท) แทนที่จะเบิกจากต้นสังกัด
4. ในกรณีที่ส่วนราชการใดไม่มีสำนักงานอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สำนักงานจังหวัดนั้น ๆ ซึ่งขึ้นตรงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบเบิกจ่ายแทนต้นสังกัด
5. เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ของ กอ.สสส.จชต. ต้องมาทำหน้าที่เบิกจ่ายเงินจึงให้สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางมอบหมายข้าราชการระดับ 8 - 9 ลงไปร่วมกันเป็นเจ้าหน้าที่งบประมาณและดูแลการเบิกจ่ายเงินเพื่อรายการนี้เป็นการถาวรที่ กอ.สสส.จชต. ขณะที่ กรมบัญชีกลางมอบหมาย นายจรัญ ประภัทรางกูล ข้าราชการระดับ 9 ตำแหน่งคลังเขต 9 สุราษฎร์ธานี และสำนักงบประมาณมอบหมาย นายประยุทธ บัวชื่น และนายเอื้อมบุญ ไกรฤกษ์ ข้าราชการระดับ 8 ให้ไปทำหน้าที่ช่วยราชการ กอ.สสส.จชต. แล้ว ส่วนการสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ในอนาคตให้เป็นอำนาจของเจ้าสังกัดพิจารณาเอง
6. ให้มีคณะทำงานส่วนกลางคอยติดตามและตรวจสอบดูแลการแก้ปัญหาทุกประเภทในเรื่องนี้ ประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายรุ่ง แก้วแดง) ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้แทนสำนักงาน GFMIS (นายนิพนธ์ พุกกะณะสุต) และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ) เป็นเลขานุการ
7. เมื่อกำหนดแนวทางแก้ปัญหาเช่นนี้แล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบดูแลและเร่งรัดอย่าให้มีปัญหาและอุปสรรคใด ๆ หากปรากฎว่ามีผู้ร้องเรียนอีกและตรวจสอบพบว่าเป็นความบกพร่องของส่วนราชการใด ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชาระดับหัวหน้าส่วนราชการนั้น มีความผิดทางวินัยตามมาตรา 85 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 และให้คณะทำงานตาม (6) หรือผู้บังคับบัญชาเสนอลงโทษหรือเสอนนายกรัฐมนตรีให้มีคำสั่งให้มาช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 พฤศจิกายน 2547--จบ--
-กภ-
1. โดยที่กรมบัญชีกลางได้เบิกเงินคงคลังไปตั้งไว้ที่ กอ.สสส.จชต. จังหวัดปัตตานีแล้วจำนวน 200 ล้านบาท เดิมให้ใช้เพื่อ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาความมั่นคง แต่ได้แจ้งแล้วว่าให้ใช้จ่ายทดรองเป็นค่าตอบแทนพิเศษเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากการเบิกจ่ายช้าหรือส่วนราชการต้นสังกัดไม่ยอมเบิกจ่ายให้ด้วย
2. ขณะเดียวกันให้สำนักงบประมาณเรียกเงินเหลือจ่ายจากที่เคยจัดสรรให้ตามโครงการเกษียณก่อนกำหนดกลับคืนจากทุกส่วนราชการ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 800 - 1,000 ล้านบาท แล้วจัดตรงไปที่ กอ.สสส.จชต. เป็นเงินทดรองค่าตอบแทนพิเศษอีกยอดหนึ่ง (นอกเหนือจากเงิน 200 ล้านบาท)
3. ให้ทุกส่วนราชการเบิกเงินค่าตอบแทนพิเศษจาก กอ.สสส.จชต. ซึ่งมีอยู่สองยอด (200 + 800 - 1,000 ล้านบาท) แทนที่จะเบิกจากต้นสังกัด
4. ในกรณีที่ส่วนราชการใดไม่มีสำนักงานอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สำนักงานจังหวัดนั้น ๆ ซึ่งขึ้นตรงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบเบิกจ่ายแทนต้นสังกัด
5. เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ของ กอ.สสส.จชต. ต้องมาทำหน้าที่เบิกจ่ายเงินจึงให้สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางมอบหมายข้าราชการระดับ 8 - 9 ลงไปร่วมกันเป็นเจ้าหน้าที่งบประมาณและดูแลการเบิกจ่ายเงินเพื่อรายการนี้เป็นการถาวรที่ กอ.สสส.จชต. ขณะที่ กรมบัญชีกลางมอบหมาย นายจรัญ ประภัทรางกูล ข้าราชการระดับ 9 ตำแหน่งคลังเขต 9 สุราษฎร์ธานี และสำนักงบประมาณมอบหมาย นายประยุทธ บัวชื่น และนายเอื้อมบุญ ไกรฤกษ์ ข้าราชการระดับ 8 ให้ไปทำหน้าที่ช่วยราชการ กอ.สสส.จชต. แล้ว ส่วนการสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ในอนาคตให้เป็นอำนาจของเจ้าสังกัดพิจารณาเอง
6. ให้มีคณะทำงานส่วนกลางคอยติดตามและตรวจสอบดูแลการแก้ปัญหาทุกประเภทในเรื่องนี้ ประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายรุ่ง แก้วแดง) ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้แทนสำนักงาน GFMIS (นายนิพนธ์ พุกกะณะสุต) และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ) เป็นเลขานุการ
7. เมื่อกำหนดแนวทางแก้ปัญหาเช่นนี้แล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบดูแลและเร่งรัดอย่าให้มีปัญหาและอุปสรรคใด ๆ หากปรากฎว่ามีผู้ร้องเรียนอีกและตรวจสอบพบว่าเป็นความบกพร่องของส่วนราชการใด ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชาระดับหัวหน้าส่วนราชการนั้น มีความผิดทางวินัยตามมาตรา 85 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 และให้คณะทำงานตาม (6) หรือผู้บังคับบัญชาเสนอลงโทษหรือเสอนนายกรัฐมนตรีให้มีคำสั่งให้มาช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 พฤศจิกายน 2547--จบ--
-กภ-