คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องการปราบปรามการร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพตามที่สำนักงานคณะกรรมการผู้บริโภคเสนอ แล้วมีมติเห็นชอบตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอดังนี้
1. ให้คณะกรรมการว่าด้วยฉลากตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 กำหนดให้สินค้าประเภทที่ดินอนเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยให้มีการระบุวัสดุที่ใช้ในการผลิต เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้บริโภคได้รับทราบ อันเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตามกฎหมาย
2. ให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณากำหนดให้ที่นอนเป็น สินค้าที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน โดยระบุประเภทวัสดุที่ใช้ผลิต การยุบตัวของที่นอนและอายุการใช้งาน เป็นต้น
3. ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมพิจารณากำหนดให้สถานประกอบการผลิตที่นอนต้องอยู่ในความควบคุมตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535
4. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด พิจารณาให้การคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับการแสดงข้อความฉลากสินค้า และตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 271,341 หรือ 343 โดยให้ติดตามตรวจสอบโรงงานผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าประเภทที่นอนที่ใช้วัสดุไม่มีคุณภาพ หากพบผู้กระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดตามนัยดังกล่าว และให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังการซื้อสินค้าดังกล่าว และแจ้งเบาะแสแหล่งผลิตและผู้จำหน่ายแก่ทางจังหวัดด้วย
สำนักงานคณะกรรมการผู้บริโภค (สคบ.) รายงานว่า
1. สคบ. ได้รับการร้องเรียนจากอาสาสมัครคุ้มครองผู้บริโภค (อสคบ.) แจ้งให้ทราบว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดต่างๆ รวม 16 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี นครปฐม ปราจีนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี อุบลราชธานี นครราชสีมา ขอนแก่น สุรินทร์ อุดรธานี สมุทรปราการ แพร่ ตรัง อำนาจเจริญ และนนทบุรี ได้ซื้อที่นอนจากรถเร่ขายสินค้าภายในหมู่บ้านในราคาหลังละ 2,000 — 3,000 บาท หลังจากนำมาใช้งานได้ประมาณ 1 เดือน ที่นอนได้ยุบตัวเป็นหลุมไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป เมื่อตรวจสอบวัสดุภายในพบว่า เป็นแผ่นโฟมขึ้นรูปและกระดาษแข็งลูกฟูก ใช้แทนฟองน้ำหรือนุ่นที่ใช้กันตามปกติ กรณีดังกล่าวจึงน่าจะเป็นการหลอกลวงขายสินค้า โดยนำสินค้าที่ไม่มีคุณภาพมาจำหน่ายทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย นอกจากนั้นแล้วยังแจ้งว่ามีการผลิตสินค้าในจังหวัดชลบุรี นครปฐม ปราจีนบุรี นนทบุรี สระบุรี สมุทรปราการ ราชบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร
2. สคบ. ได้ประสานไปยังกองบังคับการสืบสวนคดีเศรษฐกิจเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2547 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ ได้ตรวจสอบสถานที่ผลิตที่นอน จังหวัดชลบุรี ปรากฏว่า มีการผลิตที่นอนที่ไม่มีคุณภาพตามที่ผู้ร้องเรียนให้ข้อเท็จจริง
3. รองนายกรัฐมนตรี ( นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้มีบัญชาว่า เพื่อเป็นการปราบปรามต้นตอการผลิตสินค้าดังกล่าวให้หมดไป และเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคทั่วไปได้ทราบ จึงได้มอบหมายให้ สคบ. ร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสระบุรี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการปราบปรามการผลิตที่นอนที่ไม่มีคุณภาพพร้อมกัน จำนวน 6 แห่ง ในวันที่ 9 ธันวาคม 2547 ดังนี้
3.1 กรุงเทพมหานคร เขตบางขุนเทียน จำนวน 4 แห่ง
3.2 จังหวัดปทุมธานี อำเภอลาดหลุมแก้ว จำนวน 1 แห่ง
3.3 จังหวัดสระบุรี จำนวน 1 แห่ง
ผลการตรวจสอบปรากฏว่า ผู้ประกอบการมีการผลิตและจำหน่ายที่นอนที่ทำด้วยโฟม ซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่มีการจำหน่ายจากร้านค้า หรือห้างสรรพสินค้าโดยทั่วไป แต่เป็นการจำหน่ายด้วยวิธีการใช้รถเร่ขายไปตามหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งที่นอนดังกล่าวมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าปกติ คือ ประมาณ 1 เดือนเท่านั้น
4. การดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ประกอบการ ได้แก่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 มาตรา 52 บัญญัติเกี่ยวกับการแสดงฉลากสินค้า โดยไม่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับฉลากสินค้าให้ครบถ้วนตามกฎหมาย ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่ง สคบ. จะได้ดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้แก่ พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ประมวลรัษฎากร เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 ธันวาคม 2547--จบ--
1. ให้คณะกรรมการว่าด้วยฉลากตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 กำหนดให้สินค้าประเภทที่ดินอนเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยให้มีการระบุวัสดุที่ใช้ในการผลิต เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้บริโภคได้รับทราบ อันเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตามกฎหมาย
2. ให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณากำหนดให้ที่นอนเป็น สินค้าที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน โดยระบุประเภทวัสดุที่ใช้ผลิต การยุบตัวของที่นอนและอายุการใช้งาน เป็นต้น
3. ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมพิจารณากำหนดให้สถานประกอบการผลิตที่นอนต้องอยู่ในความควบคุมตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535
4. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด พิจารณาให้การคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับการแสดงข้อความฉลากสินค้า และตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 271,341 หรือ 343 โดยให้ติดตามตรวจสอบโรงงานผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าประเภทที่นอนที่ใช้วัสดุไม่มีคุณภาพ หากพบผู้กระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดตามนัยดังกล่าว และให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังการซื้อสินค้าดังกล่าว และแจ้งเบาะแสแหล่งผลิตและผู้จำหน่ายแก่ทางจังหวัดด้วย
สำนักงานคณะกรรมการผู้บริโภค (สคบ.) รายงานว่า
1. สคบ. ได้รับการร้องเรียนจากอาสาสมัครคุ้มครองผู้บริโภค (อสคบ.) แจ้งให้ทราบว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดต่างๆ รวม 16 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี นครปฐม ปราจีนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี อุบลราชธานี นครราชสีมา ขอนแก่น สุรินทร์ อุดรธานี สมุทรปราการ แพร่ ตรัง อำนาจเจริญ และนนทบุรี ได้ซื้อที่นอนจากรถเร่ขายสินค้าภายในหมู่บ้านในราคาหลังละ 2,000 — 3,000 บาท หลังจากนำมาใช้งานได้ประมาณ 1 เดือน ที่นอนได้ยุบตัวเป็นหลุมไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป เมื่อตรวจสอบวัสดุภายในพบว่า เป็นแผ่นโฟมขึ้นรูปและกระดาษแข็งลูกฟูก ใช้แทนฟองน้ำหรือนุ่นที่ใช้กันตามปกติ กรณีดังกล่าวจึงน่าจะเป็นการหลอกลวงขายสินค้า โดยนำสินค้าที่ไม่มีคุณภาพมาจำหน่ายทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย นอกจากนั้นแล้วยังแจ้งว่ามีการผลิตสินค้าในจังหวัดชลบุรี นครปฐม ปราจีนบุรี นนทบุรี สระบุรี สมุทรปราการ ราชบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร
2. สคบ. ได้ประสานไปยังกองบังคับการสืบสวนคดีเศรษฐกิจเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2547 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ ได้ตรวจสอบสถานที่ผลิตที่นอน จังหวัดชลบุรี ปรากฏว่า มีการผลิตที่นอนที่ไม่มีคุณภาพตามที่ผู้ร้องเรียนให้ข้อเท็จจริง
3. รองนายกรัฐมนตรี ( นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้มีบัญชาว่า เพื่อเป็นการปราบปรามต้นตอการผลิตสินค้าดังกล่าวให้หมดไป และเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคทั่วไปได้ทราบ จึงได้มอบหมายให้ สคบ. ร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสระบุรี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการปราบปรามการผลิตที่นอนที่ไม่มีคุณภาพพร้อมกัน จำนวน 6 แห่ง ในวันที่ 9 ธันวาคม 2547 ดังนี้
3.1 กรุงเทพมหานคร เขตบางขุนเทียน จำนวน 4 แห่ง
3.2 จังหวัดปทุมธานี อำเภอลาดหลุมแก้ว จำนวน 1 แห่ง
3.3 จังหวัดสระบุรี จำนวน 1 แห่ง
ผลการตรวจสอบปรากฏว่า ผู้ประกอบการมีการผลิตและจำหน่ายที่นอนที่ทำด้วยโฟม ซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่มีการจำหน่ายจากร้านค้า หรือห้างสรรพสินค้าโดยทั่วไป แต่เป็นการจำหน่ายด้วยวิธีการใช้รถเร่ขายไปตามหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งที่นอนดังกล่าวมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าปกติ คือ ประมาณ 1 เดือนเท่านั้น
4. การดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ประกอบการ ได้แก่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 มาตรา 52 บัญญัติเกี่ยวกับการแสดงฉลากสินค้า โดยไม่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับฉลากสินค้าให้ครบถ้วนตามกฎหมาย ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่ง สคบ. จะได้ดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้แก่ พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ประมวลรัษฎากร เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 ธันวาคม 2547--จบ--