ทำเนียบรัฐบาล--11 ส.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ที่จะต้องใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาผลกระทบต่องบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2541 ที่ต้องใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องนักเรียนทุนของรัฐบาลในข้อ2.1 ไปดำเนินการต่อไปด้วย สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาผลกระทบต่องบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2541 ที่จะต้องใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศแล้ว
2. คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย 4 ประการ คือ 1) เรื่องหน่วยราชการไทยในต่างประเทศ2) เรื่องรายจ่ายชำระคืนต้นและดอกเบี้ยเงินกู้จากต่างประเทศ 3) เรื่องการจัดหาครุภัณฑ์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ 4) เรื่องที่เกี่ยวกับนักเรียนทุนของรัฐบาล สรุปได้ดังนี้
2.1 เรื่องนักเรียนทุนของรัฐบาลที่ศึกษาต่อในต่างประเทศ ได้ดำเนินการคงจำนวนเป้าหมายของนักเรียนทุนรัฐบาลตามที่กำหนดในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ทั้งที่กำลังศึกษาอยู่ และที่ได้รับทุนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 โดยส่วนราชการที่มีนักเรียนทุนรัฐบาลได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2541 เนื่องจากผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น รวมทั้งสิ้น 522.21 ล้านบาท ซึ่งวงเงินที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวน้อยกว่าวงเงินเดิมที่เคยคาดการว่าต้องใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 1,595.7 ล้านบาท
อนึ่ง คณะกรรมการฯ ได้มีข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องนักเรียนทุนของรัฐบาลว่าแม้ว่าพ้นภาวะวิกฤติแล้ว ขอให้พิจารณาให้ผู้ปกครองของนักเรียนทุนรัฐบาลมีส่วนรับผิดชอบกับภาระค่าใช้จ่ายของนักเรียนทุนต่อไปด้วย โดยให้มีการปรับเงื่อนไขสัญญารับทุนให้เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ทำให้สามารถส่งนักเรียนทุนได้เพิ่มขึ้นด้วย
2.2 เรื่องหน่วยราชการไทยในต่างประเทศ กระทรวงการคลังได้นำมติคณะกรรมการฯ เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องการปรับลดบุคลากร และปิดสำนักงานในต่างประเทศ ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2541 ตามมติในข้อ 4 แล้ว
2.3 เรื่องรายจ่ายชำระคืนต้นและดอกเบี้ยเงินกู้จากต่างประเทศ กระทรวงการคลังสามารถบริหารหนี้ต่างประเทศภายในวงเงินงบประมาณที่ได้รับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 โดยได้ขอขยายเวลาชำระหนี้เงินกู้ในประเทศ ด้วยการขยายอายุตั๋วสัญญาใช้เงินของธนาคารออมสินที่ครบกำหนดชำระในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 จำนวน 12,000 ล้านบาท ออกไป และนำเงินจำนวนดังกล่าว มาชำระหนี้เงินกู้ต่างประเทศที่ขาดอยู่ ทำให้วงเงินที่คาดว่าจะต้องใช้จ่ายเพิ่มขึ้นลดลงทั้งจำนวนคือ 5,097.6 ล้านบาท
2.4 เรื่องการจัดหาครุภัณฑ์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แยกเป็น
1) ครุภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศโดยตรง ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ สามารถใช้จ่ายภายในวงเงินงบประมาณทีได้รับ สำหรับกระทรวงกลาโหมแม้จะดำเนินการยืดระยะเวลาชำระหนี้ไปบางส่วนแล้ว ยังมีผลกระทบจากการปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราอยู่ ซึ่งในชั้นนี้ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2541 เพิ่มขึ้น 1,613.55 ล้านบาท และหากยังมีงบประมาณส่วนที่ขาดอยู่ขอให้พยายามเจียดจ่ายจากงบประมาณที่ได้รับก่อน เมื่อดำเนินการถึงที่สุดแล้วมีผลกระทบอยู่ให้จัดทำรายละเอียดเสนอสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณา
จากการใช้วัสดุและครุภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศหรือชะลอหรือยกเลิกรายการหรือลดจำนวนรายการครุภัณฑ์ลงทำให้วงเงินงบประมาณที่ต้องใช้จ่ายเพิ่มขึ้นลงจากเดิมที่เคยคาดว่าต้องใช้วงเงินเพิ่มขึ้นถึง 13,548.2 ล้านบาท ลดลง
2) การก่อสร้างและการจัดหาครุภัณฑ์ซึ่งมีส่วนประกอบที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เดิมคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ทำให้วงเงินที่ต้องใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 25,020.1 ล้านบาท แต่ยังไม่เป็นที่ยุติ เนื่องจากอยู่ในระหว่างดำเนินการของคณะกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างและผู้ประกอบอาชีพงานอื่นกับทางราชการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
3. จากผลการดำเนินการทั้งหมด ยกเว้นข้อ 2) มีวงเงินงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ที่ต้องใช้จ่ายเนื่องจากผลกระทบจากการปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเพิ่มขึ้น รวมทั้งสิ้น 2,451.76 ล้าบาท ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยคาดว่าต้องใช้วงเงินงบประมาณเพิ่มขึ้น รวมทั้งสิ้น 23,391.8 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 สิงหาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ที่จะต้องใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาผลกระทบต่องบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2541 ที่ต้องใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องนักเรียนทุนของรัฐบาลในข้อ2.1 ไปดำเนินการต่อไปด้วย สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาผลกระทบต่องบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2541 ที่จะต้องใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศแล้ว
2. คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย 4 ประการ คือ 1) เรื่องหน่วยราชการไทยในต่างประเทศ2) เรื่องรายจ่ายชำระคืนต้นและดอกเบี้ยเงินกู้จากต่างประเทศ 3) เรื่องการจัดหาครุภัณฑ์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ 4) เรื่องที่เกี่ยวกับนักเรียนทุนของรัฐบาล สรุปได้ดังนี้
2.1 เรื่องนักเรียนทุนของรัฐบาลที่ศึกษาต่อในต่างประเทศ ได้ดำเนินการคงจำนวนเป้าหมายของนักเรียนทุนรัฐบาลตามที่กำหนดในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ทั้งที่กำลังศึกษาอยู่ และที่ได้รับทุนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 โดยส่วนราชการที่มีนักเรียนทุนรัฐบาลได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2541 เนื่องจากผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น รวมทั้งสิ้น 522.21 ล้านบาท ซึ่งวงเงินที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวน้อยกว่าวงเงินเดิมที่เคยคาดการว่าต้องใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 1,595.7 ล้านบาท
อนึ่ง คณะกรรมการฯ ได้มีข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องนักเรียนทุนของรัฐบาลว่าแม้ว่าพ้นภาวะวิกฤติแล้ว ขอให้พิจารณาให้ผู้ปกครองของนักเรียนทุนรัฐบาลมีส่วนรับผิดชอบกับภาระค่าใช้จ่ายของนักเรียนทุนต่อไปด้วย โดยให้มีการปรับเงื่อนไขสัญญารับทุนให้เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ทำให้สามารถส่งนักเรียนทุนได้เพิ่มขึ้นด้วย
2.2 เรื่องหน่วยราชการไทยในต่างประเทศ กระทรวงการคลังได้นำมติคณะกรรมการฯ เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องการปรับลดบุคลากร และปิดสำนักงานในต่างประเทศ ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2541 ตามมติในข้อ 4 แล้ว
2.3 เรื่องรายจ่ายชำระคืนต้นและดอกเบี้ยเงินกู้จากต่างประเทศ กระทรวงการคลังสามารถบริหารหนี้ต่างประเทศภายในวงเงินงบประมาณที่ได้รับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 โดยได้ขอขยายเวลาชำระหนี้เงินกู้ในประเทศ ด้วยการขยายอายุตั๋วสัญญาใช้เงินของธนาคารออมสินที่ครบกำหนดชำระในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 จำนวน 12,000 ล้านบาท ออกไป และนำเงินจำนวนดังกล่าว มาชำระหนี้เงินกู้ต่างประเทศที่ขาดอยู่ ทำให้วงเงินที่คาดว่าจะต้องใช้จ่ายเพิ่มขึ้นลดลงทั้งจำนวนคือ 5,097.6 ล้านบาท
2.4 เรื่องการจัดหาครุภัณฑ์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แยกเป็น
1) ครุภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศโดยตรง ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ สามารถใช้จ่ายภายในวงเงินงบประมาณทีได้รับ สำหรับกระทรวงกลาโหมแม้จะดำเนินการยืดระยะเวลาชำระหนี้ไปบางส่วนแล้ว ยังมีผลกระทบจากการปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราอยู่ ซึ่งในชั้นนี้ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2541 เพิ่มขึ้น 1,613.55 ล้านบาท และหากยังมีงบประมาณส่วนที่ขาดอยู่ขอให้พยายามเจียดจ่ายจากงบประมาณที่ได้รับก่อน เมื่อดำเนินการถึงที่สุดแล้วมีผลกระทบอยู่ให้จัดทำรายละเอียดเสนอสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณา
จากการใช้วัสดุและครุภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศหรือชะลอหรือยกเลิกรายการหรือลดจำนวนรายการครุภัณฑ์ลงทำให้วงเงินงบประมาณที่ต้องใช้จ่ายเพิ่มขึ้นลงจากเดิมที่เคยคาดว่าต้องใช้วงเงินเพิ่มขึ้นถึง 13,548.2 ล้านบาท ลดลง
2) การก่อสร้างและการจัดหาครุภัณฑ์ซึ่งมีส่วนประกอบที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เดิมคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ทำให้วงเงินที่ต้องใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 25,020.1 ล้านบาท แต่ยังไม่เป็นที่ยุติ เนื่องจากอยู่ในระหว่างดำเนินการของคณะกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างและผู้ประกอบอาชีพงานอื่นกับทางราชการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
3. จากผลการดำเนินการทั้งหมด ยกเว้นข้อ 2) มีวงเงินงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ที่ต้องใช้จ่ายเนื่องจากผลกระทบจากการปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเพิ่มขึ้น รวมทั้งสิ้น 2,451.76 ล้าบาท ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยคาดว่าต้องใช้วงเงินงบประมาณเพิ่มขึ้น รวมทั้งสิ้น 23,391.8 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 สิงหาคม 2541--