ทำเนียบรัฐบาล--6 ต.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะพิเศษ) เกี่ยวกับการวางแบบกฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรา 29 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ครั้งที่ 2) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ แล้วให้แจ้งกระทรวง ทบวง กรม ทราบและถือปฏิบัติต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งว่า
1. โดยที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับต่างๆ ที่มีบทบัญญัติอันเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบของรัฐสภาแล้วนั้น ได้มีการกำหนดรูปแบบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรา 29 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยขึ้นใหม่ โดยให้ระบุบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจในการตรากฎหมายไว้ในวรรคสองของคำปรารภของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงเป็นการสมควรให้มีการพิจารณาการวางแบบร่างกฎหรือข้อบังคับ (กฎหมายลำดับรอง) เสียใหม่ให้สอดคล้องกับการกำหนดรูปแบบของร่างพระราชบัญญัติซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาดังกล่าว เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาจึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 11 แห่งระเบียบคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าด้วยการประชุมของกรรมการร่างกฎหมาย พ.ศ.2522 ขอให้ประธานกรรมการร่างกฎหมายทั้ง 10 คณะ เป็นกรรมการร่างกฎหมายคณะพิเศษ เพื่อประชุมปรึกษาหารือกำหนดแบบกฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรา 29 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อีกครั้งหนึ่ง
2. คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะพิเศษ) ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า สำหรับร่างกฎหรือข้อบังคับ (กฎหมายลำดับรอง) ที่มีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้อันจะต้องปฏิบัติตามมาตรา 29 วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนั้น สมควรกำหนดแบบโดยให้ระบุบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องทุกมาตราที่ให้อำนาจในการตรากฎหมายแม่บทไว้ในบทอาศัยอำนาจในการออกกฎหรือข้อบังคับ โดยไม่ต้องพิเคราะห์เนื้อหาของกฎหรือข้อบังคับฉบับนั้นว่าจะเกี่ยวข้องกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่อ้างทุกมาตราหรือไม่ ซึ่งแบบร่างกฎหรือข้อบังคับที่กำหนดไว้ดังกล่าวจะสอดคล้องกับการอ้างกฎหมายแม่บทที่ถือปฏิบัติอยู่แล้วในขณะนี้ โดยความที่อ้างบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญจะมีสภาพเป็นส่วนขยายการอ้างกฎหมายแม่บทแต่ละฉบับในตัว
3. ในการจัดทำหรือตรวจพิจารณาร่างกฎหรือข้อบังคับ (กฎหมายลำดับรอง) ต่อไป สำนักงานฯ จะได้ใช้แบบตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะพิเศษ) กำหนดไว้ตามข้อ 2. สำหรับร่างกฎหรือข้อบังคับที่ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจพิจาณาของสำนักงานฯ ไปแล้ว สำนักงานฯ จะได้ประสานงานกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 5 ตุลาคม 2542--
คณะรัฐมนตรีรับทราบความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะพิเศษ) เกี่ยวกับการวางแบบกฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรา 29 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ครั้งที่ 2) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ แล้วให้แจ้งกระทรวง ทบวง กรม ทราบและถือปฏิบัติต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งว่า
1. โดยที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับต่างๆ ที่มีบทบัญญัติอันเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบของรัฐสภาแล้วนั้น ได้มีการกำหนดรูปแบบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรา 29 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยขึ้นใหม่ โดยให้ระบุบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจในการตรากฎหมายไว้ในวรรคสองของคำปรารภของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงเป็นการสมควรให้มีการพิจารณาการวางแบบร่างกฎหรือข้อบังคับ (กฎหมายลำดับรอง) เสียใหม่ให้สอดคล้องกับการกำหนดรูปแบบของร่างพระราชบัญญัติซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาดังกล่าว เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาจึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 11 แห่งระเบียบคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าด้วยการประชุมของกรรมการร่างกฎหมาย พ.ศ.2522 ขอให้ประธานกรรมการร่างกฎหมายทั้ง 10 คณะ เป็นกรรมการร่างกฎหมายคณะพิเศษ เพื่อประชุมปรึกษาหารือกำหนดแบบกฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรา 29 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อีกครั้งหนึ่ง
2. คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะพิเศษ) ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า สำหรับร่างกฎหรือข้อบังคับ (กฎหมายลำดับรอง) ที่มีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้อันจะต้องปฏิบัติตามมาตรา 29 วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนั้น สมควรกำหนดแบบโดยให้ระบุบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องทุกมาตราที่ให้อำนาจในการตรากฎหมายแม่บทไว้ในบทอาศัยอำนาจในการออกกฎหรือข้อบังคับ โดยไม่ต้องพิเคราะห์เนื้อหาของกฎหรือข้อบังคับฉบับนั้นว่าจะเกี่ยวข้องกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่อ้างทุกมาตราหรือไม่ ซึ่งแบบร่างกฎหรือข้อบังคับที่กำหนดไว้ดังกล่าวจะสอดคล้องกับการอ้างกฎหมายแม่บทที่ถือปฏิบัติอยู่แล้วในขณะนี้ โดยความที่อ้างบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญจะมีสภาพเป็นส่วนขยายการอ้างกฎหมายแม่บทแต่ละฉบับในตัว
3. ในการจัดทำหรือตรวจพิจารณาร่างกฎหรือข้อบังคับ (กฎหมายลำดับรอง) ต่อไป สำนักงานฯ จะได้ใช้แบบตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะพิเศษ) กำหนดไว้ตามข้อ 2. สำหรับร่างกฎหรือข้อบังคับที่ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจพิจาณาของสำนักงานฯ ไปแล้ว สำนักงานฯ จะได้ประสานงานกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 5 ตุลาคม 2542--