ทำเนียบรัฐบาล--8 ก.พ.--บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบรายงานความคืบหน้าเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ดังนี้
1. การจัดประชุมชี้แจงผู้ว่าราชการจังหวัดเกี่ยวกับแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จังหวัด
ตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4/2542 วันที่ 25 มกราคม 2542 เห็นเป็นการสมควรให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดมาประชุม เพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จังหวัด เพื่อให้มีการปฏิบัติที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย และกำหนดวันประชุมในวันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2542 โดยจะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะทำงานฯ จังหวัดละประมาณ 5 ท่าน มาร่วมประชุม
2. การเพิ่มชื่อลูกหนี้เป้าหมายของลูกหนี้กลุ่มโรงสีข้าว
ด้วยมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4/2542 วันที่ 25 มกราคม 2542 เห็นเป็นการสมควรให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเร่งรัดการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ลูกหนี้โรงสีข้าวเพื่อสนับสนุนภาคเกษตร คณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างนี้จึงได้แจ้งให้สมาคมเจ้าหนี้สถาบันการเงิน 3 สมาคม และสมาคมลูกหนี้ 2 สมาคม ไปดำเนินการคัดเลือกและเสนอชื่อลูกหนี้ดังกล่าวเพื่อให้คณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ วางเป้าหมายที่จะเพิ่มเติมลูกหนี้เป้าหมายในภาคเศรษฐกิจสำคัญประมาณ 100 กลุ่ม รวมกับที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 200 กลุ่ม เป็นจำนวนลูกหนี้เป้าหมายรวมทั้งสิ้นประมาณ 300 กลุ่ม
3. ความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จังหวัด
ตามที่คณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ได้มีมติให้กระทรวงมหาดไทยจัดตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จังหวัด ปรากฏว่าได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จังหวัดแล้วรวม 75 จังหวัด โดยมีการจัดประชุมคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จังหวัดครั้งแรกไปแล้วรวม 26 จังหวัด
4. มาตรการเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพิ่มเติม
ธนาคารได้อนุมัติมาตรการการตัดจำหน่ายหนี้สูญออกจากบัญชีตามหลักปฏิบัติสากล โดยออกหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงิน เพื่อซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการตัดจำหน่ายหนี้สูญออกจากบัญชีเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2542 ให้สถาบันการเงินสามารถตัดจำหน่ายลูกหนี้จัดชั้นสูญ ลูกหนี้จัดชั้นสงสัยจะสูญที่ได้กันสำรองครบร้อยละ 100 ตามหลักเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยออกจากบัญชีได้ ซึ่งจะมีผลให้จำนวน NPL ทั้งระบบลดลง
5. ความคืบหน้าการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของกลุ่มเป้าหมาย 200 กลุ่ม หรือ 351 ราย
ในปัจจุบัน ลูกหนี้เป้าหมายส่วนใหญ่จะอยู่ในขั้นตอนของการจัดประชุมระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผน และแก้ไขแผนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ทั้งนี้ ได้มีการปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จแล้ว 10 ราย รวมมูลหนี้ 47,270 ล้านบาท หรือร้อยละ 7 ของมูลหนี้ทั้งสิ้น ลูกหนี้ที่ยังเป็นหนี้ปกติและยังไม่ต้องปรับโครงสร้างหนี้ในขณะนี้มีจำนวน 31 ราย มีการฟ้องเพื่อรักษาสิทธิและศาลได้พิพากษาแล้ว 6 ราย และอีก 3 ราย ได้มีการฟ้องล้มละลายแล้ว ดังนั้น คณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จึงถือว่าจำนวน 50 รายข้างต้นมูลหนี้ 116,468 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 17 ของมูลหนี้ทั้งสิ้น เป็นรายที่ผ่านกระบวนการของคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว โดยร้อยละ 50 อยู่ในธุรกิจภาคการผลิต อุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังคาดว่าอีกประมาณ 55 ราย หรือคิดเป็นมูลหนี้ 150,000 ล้านบาท กำลังเจรจาใกล้จะยุติในระยะเวลาอันใกล้นี้
สำหรับความคืบหน้าในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ จากรายงานที่สถาบันการเงินส่งให้ธนาคาร ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2541ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมจากสถาบันการเงิน เนื่องจากธนาคารมีการปรับปรุงแบบรายงาน และกำหนดให้สถาบันการเงินจัดส่งรายงานภายในวันที่ 21 มกราคม 2542 แต่ยังมีสถาบันการเงินบางแห่งยังปรับปรุงฐานข้อมูลไม่เสร็จสิ้น จึงยังไม่สามารถส่งรายงานตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดได้ ซึ่งจะได้เร่งรัดการจัดส่งข้อมูลดังกล่าวต่อไปโดยเร็ว สำหรับข้อมูลเบื้องต้นนั้น มีหนี้ที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำเร็จแล้วณ สิ้นเดือนธันวาคม 2541 จำนวนเงิน 155,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2541 ซึ่งมีจำนวน 82,124 ล้านบาท ร้อยละ 89.4ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะได้นำเสนอรายละเอียดการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ยอด ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2541 ที่ได้รับข้อมูลครบถ้วนแล้วอีกครั้งหนึ่ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2542--
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบรายงานความคืบหน้าเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ดังนี้
1. การจัดประชุมชี้แจงผู้ว่าราชการจังหวัดเกี่ยวกับแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จังหวัด
ตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4/2542 วันที่ 25 มกราคม 2542 เห็นเป็นการสมควรให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดมาประชุม เพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จังหวัด เพื่อให้มีการปฏิบัติที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย และกำหนดวันประชุมในวันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2542 โดยจะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะทำงานฯ จังหวัดละประมาณ 5 ท่าน มาร่วมประชุม
2. การเพิ่มชื่อลูกหนี้เป้าหมายของลูกหนี้กลุ่มโรงสีข้าว
ด้วยมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4/2542 วันที่ 25 มกราคม 2542 เห็นเป็นการสมควรให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเร่งรัดการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ลูกหนี้โรงสีข้าวเพื่อสนับสนุนภาคเกษตร คณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างนี้จึงได้แจ้งให้สมาคมเจ้าหนี้สถาบันการเงิน 3 สมาคม และสมาคมลูกหนี้ 2 สมาคม ไปดำเนินการคัดเลือกและเสนอชื่อลูกหนี้ดังกล่าวเพื่อให้คณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ วางเป้าหมายที่จะเพิ่มเติมลูกหนี้เป้าหมายในภาคเศรษฐกิจสำคัญประมาณ 100 กลุ่ม รวมกับที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 200 กลุ่ม เป็นจำนวนลูกหนี้เป้าหมายรวมทั้งสิ้นประมาณ 300 กลุ่ม
3. ความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จังหวัด
ตามที่คณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ได้มีมติให้กระทรวงมหาดไทยจัดตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จังหวัด ปรากฏว่าได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จังหวัดแล้วรวม 75 จังหวัด โดยมีการจัดประชุมคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จังหวัดครั้งแรกไปแล้วรวม 26 จังหวัด
4. มาตรการเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพิ่มเติม
ธนาคารได้อนุมัติมาตรการการตัดจำหน่ายหนี้สูญออกจากบัญชีตามหลักปฏิบัติสากล โดยออกหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงิน เพื่อซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการตัดจำหน่ายหนี้สูญออกจากบัญชีเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2542 ให้สถาบันการเงินสามารถตัดจำหน่ายลูกหนี้จัดชั้นสูญ ลูกหนี้จัดชั้นสงสัยจะสูญที่ได้กันสำรองครบร้อยละ 100 ตามหลักเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยออกจากบัญชีได้ ซึ่งจะมีผลให้จำนวน NPL ทั้งระบบลดลง
5. ความคืบหน้าการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของกลุ่มเป้าหมาย 200 กลุ่ม หรือ 351 ราย
ในปัจจุบัน ลูกหนี้เป้าหมายส่วนใหญ่จะอยู่ในขั้นตอนของการจัดประชุมระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผน และแก้ไขแผนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ทั้งนี้ ได้มีการปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จแล้ว 10 ราย รวมมูลหนี้ 47,270 ล้านบาท หรือร้อยละ 7 ของมูลหนี้ทั้งสิ้น ลูกหนี้ที่ยังเป็นหนี้ปกติและยังไม่ต้องปรับโครงสร้างหนี้ในขณะนี้มีจำนวน 31 ราย มีการฟ้องเพื่อรักษาสิทธิและศาลได้พิพากษาแล้ว 6 ราย และอีก 3 ราย ได้มีการฟ้องล้มละลายแล้ว ดังนั้น คณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จึงถือว่าจำนวน 50 รายข้างต้นมูลหนี้ 116,468 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 17 ของมูลหนี้ทั้งสิ้น เป็นรายที่ผ่านกระบวนการของคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว โดยร้อยละ 50 อยู่ในธุรกิจภาคการผลิต อุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังคาดว่าอีกประมาณ 55 ราย หรือคิดเป็นมูลหนี้ 150,000 ล้านบาท กำลังเจรจาใกล้จะยุติในระยะเวลาอันใกล้นี้
สำหรับความคืบหน้าในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ จากรายงานที่สถาบันการเงินส่งให้ธนาคาร ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2541ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมจากสถาบันการเงิน เนื่องจากธนาคารมีการปรับปรุงแบบรายงาน และกำหนดให้สถาบันการเงินจัดส่งรายงานภายในวันที่ 21 มกราคม 2542 แต่ยังมีสถาบันการเงินบางแห่งยังปรับปรุงฐานข้อมูลไม่เสร็จสิ้น จึงยังไม่สามารถส่งรายงานตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดได้ ซึ่งจะได้เร่งรัดการจัดส่งข้อมูลดังกล่าวต่อไปโดยเร็ว สำหรับข้อมูลเบื้องต้นนั้น มีหนี้ที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำเร็จแล้วณ สิ้นเดือนธันวาคม 2541 จำนวนเงิน 155,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2541 ซึ่งมีจำนวน 82,124 ล้านบาท ร้อยละ 89.4ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะได้นำเสนอรายละเอียดการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ยอด ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2541 ที่ได้รับข้อมูลครบถ้วนแล้วอีกครั้งหนึ่ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2542--