ทำเนียบรัฐบาล--6 พ.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจเสนอ ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยไตรมาสแรกและการดำเนินการแก้ไขปัญหาการส่งออกของรัฐบาล ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. ภาวะการค้าในไตรมาสแรกของปี 2541 (มกราคม - มีนาคม)
1.1 มูลค่าการส่งออกในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 2.8 ในขณะที่มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 79.4
1.2 มูลค่าการนำเข้าในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 38.6 ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1
1.3 ดุลการค้าในไตรมาสแรกของปี 2541 เกินดุลเป็นเงินบาทมีมูลค่า 131,206 ล้านบาท ซึ่งเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่เจ็ด
2. ภาวะการส่งออกไปยังตลาดสำคัญ
ตลาดส่งออกหลักส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลงโดยเฉพาะประทศในแถบเอเชีย คือ ญี่ปุ่น อาเซียน และเกาหลีใต้ซึ่งประสบภาวะวิกฤตทางการเงิน รวมทั้งตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออก สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป แอฟริกาและออสเตรเลีย ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ฮ่องกง ไต้หวัน และจีนมีการส่งออกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
3. ภาวะการส่งออกสินค้าสำคัญ
3.1 การส่งออกในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าลดลงในทุกหมวดสินค้า ยกเว้นสินค้าเกษตรกรรมที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากราคาส่งออกถูก และอาศัยวัตถุดิบในประเทศ ประกอบกับมีการส่งออกเพิ่มมากขึ้น
3.2 สินค้าสำคัญที่ส่งออกลดลงได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพารา รองเท้าและชิ้นส่วนน้ำตาลทราย ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องวีดิโอและส่วนประกอบ และเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ซึ่งคณะกรรมการพัฒนาการส่งออกกำลังพิจารณาแก้ไขปัญหานี้แล้ว
4. ภาวะการนำเข้าสินค้าสำคัญ
ในระยะ 2 เดือนแรกของปี 2541 ลดลงอย่างต่อเนื่องในทุกหมวดสินค้า เนื่องจากปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ประกอบกับความผันผวนของค่าเงินบาท ที่สำคัญคือ สินค้าทุนและวัตถุดิบมีปริมาณการนำเข้าลดลงถึงร้อยละ -34.2 และ -42.1 ตามลำดับ ซึ่งหากการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง จะมีผลกระทบต่อการส่งออกในระยะต่อไป
5. การเร่งรัดการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2541
ปี 2541 กำหนดเป้าหมายการส่งออกให้ขยายตัวร้อยละ 7.1 มูลค่า 62.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่จากตัวเลขการส่งออกในไตรมาสแรกลดลงร้อยละ 2.8 ทำให้การส่งออกไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ทั้งนี้ เนื่องจากปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ปัญหาความผันผวนของค่าเงินบาท และปัญหาอัตราดอกเบี้ยสูง แต่โดยที่การส่งออกเป็นมาตรการสำคัญในการนำเข้าเงินตราต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจได้ทางหนึ่ง จึงควรเร่งรัดการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2541 โดยการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ยให้ได้ในระยะ 2 - 3 เดือนข้างหน้า รวมทั้งจะต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการส่งออกอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ตลอดจนจะต้องดำเนินการมาตรการด้านการตลาดในเชิงรุกให้ได้ผล ซึ่งหากได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอุปสรรคการส่งออกดังกล่าวและมีการขยายตลาดการส่งออกอย่างจริงจังแล้ว คาดว่าสถานการณ์การส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี 2541 จะกระเตื้องขึ้นได้พอสมควร
6. ขอแก้ไขเอกสารประกอบเรื่อง ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยไตรมาสแรกของปี 2541 ของกระทรวงพาณิชย์โดยการตัดข้อความหน้า 8 ซึ่งเกี่ยวกับมาตรการของ IMF ในเรื่องการรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท และการควบคุมภาวะเงินเฟ้อออกทั้งหมด
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิจารณามีความเห็นและข้อสังเกต ดังนี้
1) โดยที่สินค้าสำคัญรวม 8 รายการ มีปริมาณการส่งออกลดลง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการนำเข้าเงินตราต่างประเทศเป็นอย่างมาก จึงเห็นควรมอบให้คณะกรรมการพัฒนาการส่งออกรับไปเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหานี้โดยด่วน แล้วรายงานให้คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจทราบด้วย
2) สินค้าเกษตรของไทยหลายชนิดขาดการพัฒนาทั้งในด้านคุณภาพ มาตรฐาน และประสิทธิภาพในการผลิต ทำให้ประสบปัญหาการแข่งขันและสูญเสียในโอกาสในการขยายตลาด เช่น ยางพารา ปาล์ม และน้ำตาลทราย เป็นต้น จึงเห็นควรมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และสถาบันวิจัยเกี่ยวกับพืชเกษตรต่าง ๆ ไปพิจารณาพัฒนาสินค้าเกษตรของไทยให้มีศักยภาพที่จะแข่งขันในตลาดต่างประเทศ ทั้งในด้านพันธุ์มาตรฐาน ประสิทธิภาพการผลิต และรูปแบบสินค้า ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ และจะเป็นการเพิ่มปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยด้วย
ทั้งนี้ เห็นควรมอบให้คณะกรรมการพัฒนาการส่งออกรับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจในการเร่งรัดการส่งออกทั้งในด้านรายการสินค้า และตลาดต่างประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการ และรายงานให้คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจทราบ และพิจารณาเป็นระยะ ๆ และเห็นควรมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจในข้อ 2) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 6 พฤษภาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจเสนอ ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยไตรมาสแรกและการดำเนินการแก้ไขปัญหาการส่งออกของรัฐบาล ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. ภาวะการค้าในไตรมาสแรกของปี 2541 (มกราคม - มีนาคม)
1.1 มูลค่าการส่งออกในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 2.8 ในขณะที่มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 79.4
1.2 มูลค่าการนำเข้าในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 38.6 ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1
1.3 ดุลการค้าในไตรมาสแรกของปี 2541 เกินดุลเป็นเงินบาทมีมูลค่า 131,206 ล้านบาท ซึ่งเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่เจ็ด
2. ภาวะการส่งออกไปยังตลาดสำคัญ
ตลาดส่งออกหลักส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลงโดยเฉพาะประทศในแถบเอเชีย คือ ญี่ปุ่น อาเซียน และเกาหลีใต้ซึ่งประสบภาวะวิกฤตทางการเงิน รวมทั้งตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออก สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป แอฟริกาและออสเตรเลีย ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ฮ่องกง ไต้หวัน และจีนมีการส่งออกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
3. ภาวะการส่งออกสินค้าสำคัญ
3.1 การส่งออกในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าลดลงในทุกหมวดสินค้า ยกเว้นสินค้าเกษตรกรรมที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากราคาส่งออกถูก และอาศัยวัตถุดิบในประเทศ ประกอบกับมีการส่งออกเพิ่มมากขึ้น
3.2 สินค้าสำคัญที่ส่งออกลดลงได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพารา รองเท้าและชิ้นส่วนน้ำตาลทราย ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องวีดิโอและส่วนประกอบ และเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ซึ่งคณะกรรมการพัฒนาการส่งออกกำลังพิจารณาแก้ไขปัญหานี้แล้ว
4. ภาวะการนำเข้าสินค้าสำคัญ
ในระยะ 2 เดือนแรกของปี 2541 ลดลงอย่างต่อเนื่องในทุกหมวดสินค้า เนื่องจากปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ประกอบกับความผันผวนของค่าเงินบาท ที่สำคัญคือ สินค้าทุนและวัตถุดิบมีปริมาณการนำเข้าลดลงถึงร้อยละ -34.2 และ -42.1 ตามลำดับ ซึ่งหากการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง จะมีผลกระทบต่อการส่งออกในระยะต่อไป
5. การเร่งรัดการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2541
ปี 2541 กำหนดเป้าหมายการส่งออกให้ขยายตัวร้อยละ 7.1 มูลค่า 62.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่จากตัวเลขการส่งออกในไตรมาสแรกลดลงร้อยละ 2.8 ทำให้การส่งออกไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ทั้งนี้ เนื่องจากปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ปัญหาความผันผวนของค่าเงินบาท และปัญหาอัตราดอกเบี้ยสูง แต่โดยที่การส่งออกเป็นมาตรการสำคัญในการนำเข้าเงินตราต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจได้ทางหนึ่ง จึงควรเร่งรัดการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2541 โดยการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ยให้ได้ในระยะ 2 - 3 เดือนข้างหน้า รวมทั้งจะต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการส่งออกอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ตลอดจนจะต้องดำเนินการมาตรการด้านการตลาดในเชิงรุกให้ได้ผล ซึ่งหากได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอุปสรรคการส่งออกดังกล่าวและมีการขยายตลาดการส่งออกอย่างจริงจังแล้ว คาดว่าสถานการณ์การส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี 2541 จะกระเตื้องขึ้นได้พอสมควร
6. ขอแก้ไขเอกสารประกอบเรื่อง ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยไตรมาสแรกของปี 2541 ของกระทรวงพาณิชย์โดยการตัดข้อความหน้า 8 ซึ่งเกี่ยวกับมาตรการของ IMF ในเรื่องการรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท และการควบคุมภาวะเงินเฟ้อออกทั้งหมด
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิจารณามีความเห็นและข้อสังเกต ดังนี้
1) โดยที่สินค้าสำคัญรวม 8 รายการ มีปริมาณการส่งออกลดลง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการนำเข้าเงินตราต่างประเทศเป็นอย่างมาก จึงเห็นควรมอบให้คณะกรรมการพัฒนาการส่งออกรับไปเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหานี้โดยด่วน แล้วรายงานให้คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจทราบด้วย
2) สินค้าเกษตรของไทยหลายชนิดขาดการพัฒนาทั้งในด้านคุณภาพ มาตรฐาน และประสิทธิภาพในการผลิต ทำให้ประสบปัญหาการแข่งขันและสูญเสียในโอกาสในการขยายตลาด เช่น ยางพารา ปาล์ม และน้ำตาลทราย เป็นต้น จึงเห็นควรมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และสถาบันวิจัยเกี่ยวกับพืชเกษตรต่าง ๆ ไปพิจารณาพัฒนาสินค้าเกษตรของไทยให้มีศักยภาพที่จะแข่งขันในตลาดต่างประเทศ ทั้งในด้านพันธุ์มาตรฐาน ประสิทธิภาพการผลิต และรูปแบบสินค้า ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ และจะเป็นการเพิ่มปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยด้วย
ทั้งนี้ เห็นควรมอบให้คณะกรรมการพัฒนาการส่งออกรับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจในการเร่งรัดการส่งออกทั้งในด้านรายการสินค้า และตลาดต่างประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการ และรายงานให้คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจทราบ และพิจารณาเป็นระยะ ๆ และเห็นควรมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจในข้อ 2) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 6 พฤษภาคม 2541--