ทำเนียบรัฐบาล--16 พ.ค.--บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจเห็นชอบข้อมูลเพิ่มเติมประกอบร่างพระราชบัญญัติตลาดซื้อ ขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... และสรุปผลการพิจารณาเกี่ยวกับแนวทางการดำ เนินงานที่เหมาะสมในการจัดตั้งตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
1. ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
1.1 ประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากร่างพระราชบัญญัติตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า แห่งประเทศไทย พ.ศ....
(1) ประโยชน์ทางตรง
1) การลดความเสี่ยง ตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าจะเป็นเครื่องมือให้เกษตรกร สามารถผลักภาระความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา โดยขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าในตลาดซื้อขาย สินค้าเกษตรล่วงหน้าในราคาที่ตนคาดหวังไว้
2) การวางแผนการผลิต เกษตรกรทราบแนวโน้มของราคาในอนาคต ทำให้สามารถวาง แผนการเพาะปลูกได้อย่างถูกต้องตามภาวะตลาด
3) ข้อมูลข่าวสาร ตลาดจะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์ และข้อ มูลเหล่านี้จะกระจายไปอย่างรวดเร็วทางสื่อทุกชนิด ซึ่งจะช่วยจะช่วยให้เกษตรกรทราบถึงสถานการณ์ ตลาดในปัจจุบันและอนาคตทัดเทียมกับผู้ส่งออก ผู้ค้า ทำให้ง่ายแก่การตัดสินใจอย่างถูกต้องในการ เสนอราคาขายและระยะเวลาที่ควรจะขาย
(2) ประโยชน์ทางอ้อม
1) การพัฒนาคุณภาพสินค้า ราคาสินค้าเกษตรที่ซื้อขายในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าซึ่ง เป็นราคาที่ซื้อขายตามเกรดหรือคุณภาพที่ตลาดกำหนด จะเป็นตัวจูงใจให้เกษตรกรพัฒนาคุณภาพสินค้า เกษตรให้ได้มาตรฐานตามที่ตลาดกำหนดเพื่อเกษตรกรจะสามารถเข้ามาขายในตลาดซื้อขายสินค้า เกษตรล่วงหน้าได้ตามราคาซื้อขายในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
2) การส่งเสริมสถาบันการเกษตร สถาบันเกษตรจะทำหน้าที่เป็นตัวประสาน หรือเป็นตัว แทนให้แก่เกษตรกรที่จะเข้ามาซื้อขายในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลข่าว สารด้านราคาและการตลาด ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากตลาด
3) การพัฒนาคลังสินค้า การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าเมื่อถึงกำหนดส่งมอบจะมีการรับ ส่งมอบสินค้า ณ คลังสินค้าสาธารณะที่ได้รับการรับรองจากตลาดซึ่งคลังสินค้าจะกระจัดกระจายไปยัง แหล่งผลิต และจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรในการเช่าเก็บสินค้าได้ด้วย
1.2 สมาชิกของตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
(1) การเป็นสมาชิก
1) เป็นนิติบุคคล ในสายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรที่ซื้อขายในตลาดซื้อขายสินค้า เกษตรล่วงหน้า เช่น พ่อค้า สถาบันเกษตรตกร ผู้ส่งออก ฯลฯ
2) มีทุนจดทะเบียนตามที่กำหนด
3) ได้รับใบอนุญาตให้ทำการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
4) ต้องดำรงไว้ซึ่งเงินทุนสำรองตามที่กำหนด
5) มีการดำเนินธุรกิจที่มั่นคงและเป็นที่เชื่อถือต่อสาธารณชน
6) ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการตลาดฯ ว่าเป็นผู้มีความรู้ ประสบการณ์หรือผ่านการฝึก อบรมในด้านการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าอย่างเพียงพอ
7) มีคุณสมบัติอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการตลาดเห็นสมควร
(2) สิทธิของสมาชิก
1) เป็นนายหน้าซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
2) ซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าเพื่อตนเอง
3) ได้รับค่าธรรมเนียมการซื้อขายจากลูกค้าของสมาชิก
(3) หน้าที่ของสมาชิก
1) ปกป้องตลาด โดยปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับของตลาดอย่างเคร่งครัด
2) ปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้า
1.3 รูปแบบองค์กรที่จะควบคุมและกำกับดูแล คณะกรรมการกำกับตลาดซื้อขายสินค้าเกษตร ล่วงหน้าประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการ ผู้ทรง คุณวุฒิไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินเจ็ดคนซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยคำแนะนำของรัฐมนตรีเป็นกรรมการ เลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้
(1) วางนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าและองค์กรที่เกี่ยว เนื่องกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
(2) กำกับดูแลและควบคุมการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
(3) สั่งห้ามการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า หรือสั่งให้คณะกรรมการตลาดซื้อขายสินค้า เกษตรล่วงหน้า หรือผู้จัดการตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้ากระทำการหรืองดเว้นกระทำการ
(4) สั่งให้ตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าชี้แจงข้อเท็จจริงทำรายงาน ตลอดจนมีอำนาจสั่ง สอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการของตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
(5) ปฏิบัติการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัตินี้
1.4 สินค้าที่จะนำเข้ามาทำการซื้อขายในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
(1) คุณลักษณะทั่วไปของสินค้าที่ประสบความสำเร็จในการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
1) ตลาดมีการแข่งขันสูง มีผู้ซื้อผู้ขายมากมาย
2) ปริมาณสินค้ามีจำนวนมาก
3) ราคามีความผันผวน
4) สามารถจัดชั้นคุณภาพได้
5) มาตรการแทรกแซงของรัฐต้องมีความชัดเจน
(2) สินค้าที่คาดว่าจะนำมาซื้อขายในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ใน ระยะเริ่มแรก ได้แก่ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณลักษณะตามข้อ (1) นอกจากนี้ อาจมีสินค้าเกษตรอื่น ๆ เช่น ถั่วเหลือง กุ้งกุลาดำแช่เข็ง เนื้อไก่สดแช่แข็ง เป็นต้น
2. สรุปผลการพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลังเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสม ในการจัดตั้งตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า มีสาระสำคัญ ดังนี้
2.1 ตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า มีวัตถุประสงค์หลักในการเป็นเครื่องมือลดความ เสี่ยงจากความผันผวนของราคา ความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าเกษตร ในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตร ล่วงหน้า และในตลาดปัจจุบัน (Cash Market) จะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน การซื้อขายในตลาดซื้อ ขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า มิใช่เป็นการซื้อขายกระดาษโดยไม่มีสินค้ามารองรับจนทำให้ราคาที่ซื้อขายล่วง หน้าเกิดขึ้นจากสภาวะการเก็งกำไรแต่อย่างเดียว
2.2 โดยหลักแล้วการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า จะต้องมีการส่งมอบสินค้าเมื่อถึงระยะ เวลาที่กำหนดตามสัญญา แต่เพื่อให้เกิดสภาพคล่องในตลาด จึงเปิดทางเลือกให้ผู้ซื้อผู้ขายเลือกที่จะรับ- ส่งมอบสินค้า หรือผลักภาระการรับ-ส่งมอบด้วยการขายหรือซื้อสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อหักล้างสัญญาที่ ได้กระทำไว้ในครั้งแรก
2.3 ในเรื่องเสถียรภาพของราคาที่เกรงว่าจะมีการปั่นราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปั่น ราคาให้ต่ำลงนั้นตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า จะมีเครื่องมือที่ป้องกันการกระทำดังกล่าวหลาย ประการเช่น การกำหนดปริมาณสัญญาที่ผู้ซื้อ-ผู้ขายแต่ละรายจะถือครองได้ การกำหนดราคาที่เปลี่ยน แปลงนั้นลงสูงสุดในแต่ละวัน การกำหนดเงินประกัน (Margin) เป็นต้น
2.4 ที่ประชุมได้เห็นชอบร่วมกันว่า เมื่อกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติดัง กล่าว ให้กระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ตั้ง ข้อสังเกตบางประการไว้ดังนี้
(1) การจัดตั้งตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าจะต้องให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ มิใช่ เป็นตลาดการเก็งกำไรสำหรับนักลงทุนแต่เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะเปิดโอกาสให้สถาบันเกษตรกร เข้ามามีส่วนร่วมในระบบตลาดด้วย
(2) ต้องป้องกันมิให้มีการเก็งกำไรกันมากเกินไปหรือมีการปั่นราคา โดยเฉพาะควรมี การกำหนดอัตราเงินประกัน (Margin) ที่เหมาะสม
(3) ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการส่งมอบสินค้า
(4) ควรจัดทำกฎระเบียบตลาดในการกำกับดูแลตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าให้ชัดเจน
--ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 15 พฤษภาคม 2538--
คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจเห็นชอบข้อมูลเพิ่มเติมประกอบร่างพระราชบัญญัติตลาดซื้อ ขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... และสรุปผลการพิจารณาเกี่ยวกับแนวทางการดำ เนินงานที่เหมาะสมในการจัดตั้งตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
1. ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
1.1 ประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากร่างพระราชบัญญัติตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า แห่งประเทศไทย พ.ศ....
(1) ประโยชน์ทางตรง
1) การลดความเสี่ยง ตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าจะเป็นเครื่องมือให้เกษตรกร สามารถผลักภาระความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา โดยขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าในตลาดซื้อขาย สินค้าเกษตรล่วงหน้าในราคาที่ตนคาดหวังไว้
2) การวางแผนการผลิต เกษตรกรทราบแนวโน้มของราคาในอนาคต ทำให้สามารถวาง แผนการเพาะปลูกได้อย่างถูกต้องตามภาวะตลาด
3) ข้อมูลข่าวสาร ตลาดจะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์ และข้อ มูลเหล่านี้จะกระจายไปอย่างรวดเร็วทางสื่อทุกชนิด ซึ่งจะช่วยจะช่วยให้เกษตรกรทราบถึงสถานการณ์ ตลาดในปัจจุบันและอนาคตทัดเทียมกับผู้ส่งออก ผู้ค้า ทำให้ง่ายแก่การตัดสินใจอย่างถูกต้องในการ เสนอราคาขายและระยะเวลาที่ควรจะขาย
(2) ประโยชน์ทางอ้อม
1) การพัฒนาคุณภาพสินค้า ราคาสินค้าเกษตรที่ซื้อขายในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าซึ่ง เป็นราคาที่ซื้อขายตามเกรดหรือคุณภาพที่ตลาดกำหนด จะเป็นตัวจูงใจให้เกษตรกรพัฒนาคุณภาพสินค้า เกษตรให้ได้มาตรฐานตามที่ตลาดกำหนดเพื่อเกษตรกรจะสามารถเข้ามาขายในตลาดซื้อขายสินค้า เกษตรล่วงหน้าได้ตามราคาซื้อขายในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
2) การส่งเสริมสถาบันการเกษตร สถาบันเกษตรจะทำหน้าที่เป็นตัวประสาน หรือเป็นตัว แทนให้แก่เกษตรกรที่จะเข้ามาซื้อขายในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลข่าว สารด้านราคาและการตลาด ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากตลาด
3) การพัฒนาคลังสินค้า การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าเมื่อถึงกำหนดส่งมอบจะมีการรับ ส่งมอบสินค้า ณ คลังสินค้าสาธารณะที่ได้รับการรับรองจากตลาดซึ่งคลังสินค้าจะกระจัดกระจายไปยัง แหล่งผลิต และจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรในการเช่าเก็บสินค้าได้ด้วย
1.2 สมาชิกของตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
(1) การเป็นสมาชิก
1) เป็นนิติบุคคล ในสายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรที่ซื้อขายในตลาดซื้อขายสินค้า เกษตรล่วงหน้า เช่น พ่อค้า สถาบันเกษตรตกร ผู้ส่งออก ฯลฯ
2) มีทุนจดทะเบียนตามที่กำหนด
3) ได้รับใบอนุญาตให้ทำการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
4) ต้องดำรงไว้ซึ่งเงินทุนสำรองตามที่กำหนด
5) มีการดำเนินธุรกิจที่มั่นคงและเป็นที่เชื่อถือต่อสาธารณชน
6) ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการตลาดฯ ว่าเป็นผู้มีความรู้ ประสบการณ์หรือผ่านการฝึก อบรมในด้านการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าอย่างเพียงพอ
7) มีคุณสมบัติอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการตลาดเห็นสมควร
(2) สิทธิของสมาชิก
1) เป็นนายหน้าซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
2) ซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าเพื่อตนเอง
3) ได้รับค่าธรรมเนียมการซื้อขายจากลูกค้าของสมาชิก
(3) หน้าที่ของสมาชิก
1) ปกป้องตลาด โดยปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับของตลาดอย่างเคร่งครัด
2) ปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้า
1.3 รูปแบบองค์กรที่จะควบคุมและกำกับดูแล คณะกรรมการกำกับตลาดซื้อขายสินค้าเกษตร ล่วงหน้าประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการ ผู้ทรง คุณวุฒิไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินเจ็ดคนซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยคำแนะนำของรัฐมนตรีเป็นกรรมการ เลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้
(1) วางนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าและองค์กรที่เกี่ยว เนื่องกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
(2) กำกับดูแลและควบคุมการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
(3) สั่งห้ามการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า หรือสั่งให้คณะกรรมการตลาดซื้อขายสินค้า เกษตรล่วงหน้า หรือผู้จัดการตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้ากระทำการหรืองดเว้นกระทำการ
(4) สั่งให้ตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าชี้แจงข้อเท็จจริงทำรายงาน ตลอดจนมีอำนาจสั่ง สอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการของตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
(5) ปฏิบัติการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัตินี้
1.4 สินค้าที่จะนำเข้ามาทำการซื้อขายในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
(1) คุณลักษณะทั่วไปของสินค้าที่ประสบความสำเร็จในการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
1) ตลาดมีการแข่งขันสูง มีผู้ซื้อผู้ขายมากมาย
2) ปริมาณสินค้ามีจำนวนมาก
3) ราคามีความผันผวน
4) สามารถจัดชั้นคุณภาพได้
5) มาตรการแทรกแซงของรัฐต้องมีความชัดเจน
(2) สินค้าที่คาดว่าจะนำมาซื้อขายในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ใน ระยะเริ่มแรก ได้แก่ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณลักษณะตามข้อ (1) นอกจากนี้ อาจมีสินค้าเกษตรอื่น ๆ เช่น ถั่วเหลือง กุ้งกุลาดำแช่เข็ง เนื้อไก่สดแช่แข็ง เป็นต้น
2. สรุปผลการพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลังเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสม ในการจัดตั้งตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า มีสาระสำคัญ ดังนี้
2.1 ตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า มีวัตถุประสงค์หลักในการเป็นเครื่องมือลดความ เสี่ยงจากความผันผวนของราคา ความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าเกษตร ในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตร ล่วงหน้า และในตลาดปัจจุบัน (Cash Market) จะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน การซื้อขายในตลาดซื้อ ขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า มิใช่เป็นการซื้อขายกระดาษโดยไม่มีสินค้ามารองรับจนทำให้ราคาที่ซื้อขายล่วง หน้าเกิดขึ้นจากสภาวะการเก็งกำไรแต่อย่างเดียว
2.2 โดยหลักแล้วการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า จะต้องมีการส่งมอบสินค้าเมื่อถึงระยะ เวลาที่กำหนดตามสัญญา แต่เพื่อให้เกิดสภาพคล่องในตลาด จึงเปิดทางเลือกให้ผู้ซื้อผู้ขายเลือกที่จะรับ- ส่งมอบสินค้า หรือผลักภาระการรับ-ส่งมอบด้วยการขายหรือซื้อสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อหักล้างสัญญาที่ ได้กระทำไว้ในครั้งแรก
2.3 ในเรื่องเสถียรภาพของราคาที่เกรงว่าจะมีการปั่นราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปั่น ราคาให้ต่ำลงนั้นตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า จะมีเครื่องมือที่ป้องกันการกระทำดังกล่าวหลาย ประการเช่น การกำหนดปริมาณสัญญาที่ผู้ซื้อ-ผู้ขายแต่ละรายจะถือครองได้ การกำหนดราคาที่เปลี่ยน แปลงนั้นลงสูงสุดในแต่ละวัน การกำหนดเงินประกัน (Margin) เป็นต้น
2.4 ที่ประชุมได้เห็นชอบร่วมกันว่า เมื่อกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติดัง กล่าว ให้กระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ตั้ง ข้อสังเกตบางประการไว้ดังนี้
(1) การจัดตั้งตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าจะต้องให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ มิใช่ เป็นตลาดการเก็งกำไรสำหรับนักลงทุนแต่เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะเปิดโอกาสให้สถาบันเกษตรกร เข้ามามีส่วนร่วมในระบบตลาดด้วย
(2) ต้องป้องกันมิให้มีการเก็งกำไรกันมากเกินไปหรือมีการปั่นราคา โดยเฉพาะควรมี การกำหนดอัตราเงินประกัน (Margin) ที่เหมาะสม
(3) ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการส่งมอบสินค้า
(4) ควรจัดทำกฎระเบียบตลาดในการกำกับดูแลตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าให้ชัดเจน
--ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 15 พฤษภาคม 2538--