ทำเนียบรัฐบาล--12 ก.พ.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. ให้ความเห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (17 มิถุนายน 2540) เกี่ยวกับการขยายการให้สวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร แก่บุตรของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแทนสำนักงบประมาณ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบหมายไว้แต่เดิม และแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
ทั้งนี้ เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติ (17 มิถุนายน 2540) อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายสังคมที่ให้มีการขยายการให้สวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจนั้น จะต้องกระทำโดยการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร พ.ศ. 2523 ซึ่งโดยหลักการกระทรวงการคลังเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาดำเนินการ ดังนั้น การที่คณะรัฐมนตรีมีมติมอบให้สำนักงบประมาณเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงการคลัง และสำนักงาน ก.พ. พิจารณาแก้ไขเรื่องดังกล่าวน่าจะไม่ถูกต้อง กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว จึงนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอให้ทบทวนมติดังกล่าว โดยมอบให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. รับข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายสังคมไปพิจารณา แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
2. ให้ความเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นชอบในหลักการที่จะมีการขยายการให้สวัสดิการการศึกษาแก่บุตรของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจจนถึงระดับปริญญาตรี โดยเห็นควรมอบให้กระทรวงการคลังรับไปศึกษาในขั้นรายละเอียด แต่ในขณะนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการคลัง เห็นควรให้ระงับการขยายการให้สวัสดิการดังกล่าวไว้ก่อนจนกว่าสถานการณ์ทางการคลังของรัฐบาลจะเอื้ออำนวย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2541--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. ให้ความเห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (17 มิถุนายน 2540) เกี่ยวกับการขยายการให้สวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร แก่บุตรของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแทนสำนักงบประมาณ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบหมายไว้แต่เดิม และแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
ทั้งนี้ เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติ (17 มิถุนายน 2540) อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายสังคมที่ให้มีการขยายการให้สวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจนั้น จะต้องกระทำโดยการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร พ.ศ. 2523 ซึ่งโดยหลักการกระทรวงการคลังเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาดำเนินการ ดังนั้น การที่คณะรัฐมนตรีมีมติมอบให้สำนักงบประมาณเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงการคลัง และสำนักงาน ก.พ. พิจารณาแก้ไขเรื่องดังกล่าวน่าจะไม่ถูกต้อง กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว จึงนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอให้ทบทวนมติดังกล่าว โดยมอบให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. รับข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายสังคมไปพิจารณา แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
2. ให้ความเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นชอบในหลักการที่จะมีการขยายการให้สวัสดิการการศึกษาแก่บุตรของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจจนถึงระดับปริญญาตรี โดยเห็นควรมอบให้กระทรวงการคลังรับไปศึกษาในขั้นรายละเอียด แต่ในขณะนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการคลัง เห็นควรให้ระงับการขยายการให้สวัสดิการดังกล่าวไว้ก่อนจนกว่าสถานการณ์ทางการคลังของรัฐบาลจะเอื้ออำนวย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2541--