ทำเนียบรัฐบาล--4 ต.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้กระทรวงการคลังเข้าถือหุ้นในสถาบัน เงินทุนเพื่อธูรกิจหลักทรัพย์ จำนวน 10 ล้านหุ้น คิดเป็นอัตราร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียน หรือเป็นจำ นวนเงิน 100 ล้านบาทเหตุผลที่ให้กระทรวงการคลังเข้าถือหุ้นก็ตือ กระทรวงการคลังมักจะเป็นแกนนำ ในการจัดตั้งสถาบันที่ยังไม่เคยจัดตั้งในรูปของการเข้าร่วมถือหุ้นในสถาบันนั้น เช่น การเข้าร่วมถือหุ้นใน สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ บริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวม จำกัด เพื่อจูงใจให้ผู้ร่วมลงทุนอื่น ๆ สนใจ ที่จะเข้าร่วมลงทุนยิ่งขึ้น สถาบันเงินทุนเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ควรจะเป็นสถาบันที่มีความมั่นคงน่าเชื่อถือมี ความเป็นกลางและไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง การที่กระทรวงการคลังเข้าร่วมถือหุ้นใน สถาบันฯ จะช่วยลดภาระต้นทุนในการระดมทุนของสถาบันฯ และรัฐบาลสามารถดำเนินนโยบายเพื่อ รักษาเสถียรภาพของตลาดทุนผ่านสถาบันเงินทุนเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ได้ โดยอาจไม่จำเป็นต้องจัดตั้ง กองทุนพยุงตลาดในช่วงวิกฤตการณ์ และยังสามารถใช้สถาบันฯ เป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบาย อื่น ๆ ได้ เช่น การพัฒนาการเติบโตของตลาดตราสารหนี้ในรูปของการส่งเสริมเงินกู้ยืมเพื่อนำไปใช้ใน การซื้อขายตราสารหนี้ เป็นต้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 3 ตุลาคม 2538--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้กระทรวงการคลังเข้าถือหุ้นในสถาบัน เงินทุนเพื่อธูรกิจหลักทรัพย์ จำนวน 10 ล้านหุ้น คิดเป็นอัตราร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียน หรือเป็นจำ นวนเงิน 100 ล้านบาทเหตุผลที่ให้กระทรวงการคลังเข้าถือหุ้นก็ตือ กระทรวงการคลังมักจะเป็นแกนนำ ในการจัดตั้งสถาบันที่ยังไม่เคยจัดตั้งในรูปของการเข้าร่วมถือหุ้นในสถาบันนั้น เช่น การเข้าร่วมถือหุ้นใน สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ บริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวม จำกัด เพื่อจูงใจให้ผู้ร่วมลงทุนอื่น ๆ สนใจ ที่จะเข้าร่วมลงทุนยิ่งขึ้น สถาบันเงินทุนเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ควรจะเป็นสถาบันที่มีความมั่นคงน่าเชื่อถือมี ความเป็นกลางและไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง การที่กระทรวงการคลังเข้าร่วมถือหุ้นใน สถาบันฯ จะช่วยลดภาระต้นทุนในการระดมทุนของสถาบันฯ และรัฐบาลสามารถดำเนินนโยบายเพื่อ รักษาเสถียรภาพของตลาดทุนผ่านสถาบันเงินทุนเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ได้ โดยอาจไม่จำเป็นต้องจัดตั้ง กองทุนพยุงตลาดในช่วงวิกฤตการณ์ และยังสามารถใช้สถาบันฯ เป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบาย อื่น ๆ ได้ เช่น การพัฒนาการเติบโตของตลาดตราสารหนี้ในรูปของการส่งเสริมเงินกู้ยืมเพื่อนำไปใช้ใน การซื้อขายตราสารหนี้ เป็นต้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 3 ตุลาคม 2538--