ทำเนียบรัฐบาล--27 ก.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบประกาศกระทรวงการคลัง ลงวันที่ 14 กันยายน 2538 เรื่อง หลัก เกณฑ์การปรับกิจการวิเทศธนกิจเป็นสาขาเต็มรูปแบบ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อกำหนดคุณสม บัติของกิจการวิเทศธนกิจที่จะยกฐานะเป็นสาขาเต็มรูปแบบ และกำหนดหลักเกณฑ์การปรับกิจการวิ เทศธนกิจเป็นสาขาเต็มรูปแบบเนื่องจากประเทศไทยได้ยื่นข้อเสนอผูกพันไว้กับองค์การการค้าโลก (WTO) ในการเจรจาการค้าบริการด้านการเงิน ตามข้อตกลงทั่วไปว่าด้วยการค้าบริการ (General Agreement on Trade in Services - GATS) ซึ่งรวมถึงการผูกพันที่จะปรับกิจการ วิเทศธนกิจเป็นสาขาเต็มรูปแบบ 5 - 7 สาขา ภายในปี พ.ศ. 2540 มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดคุณสมบัติของกิจการวิเทศธนกิจที่จะยกฐานะเป็นสาขาเต็มรูปแบบ จำนวนทุน ของสาขาธนาคารพาณิชย์ที่จะได้รับการยกฐานะ
2. คุณสมบัติของธนาคารที่มีสิทธิ์ยื่นคำขอยกฐานะ
2.1 ต้องเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย เฉพาะกิจการวิเทศธนกิจ
2.2 เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ มีชื่อเสียง ฐานะมั่นคง และมีผลการดำเนินงานดี
2.3 เป็นธนาคารต่างประเทศที่ยังไม่มีสาขาเต็มรูปแบบในประเทศไทย
2.4 เป็นธนาคารที่มีผลการดำเนินงานไปในแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของ ประเทศไทย และได้แสดงความพยายามที่จะพัฒนาธุรกิจการเงินระหว่างประเทศ
2.5 เป็นธนาคารที่ให้ความร่วมมือกับทางการเป็นอย่างดี
2.6 เป็นธนาคารที่จดทะเบียนในประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับประเทศไทยทั้งด้าน การเงิน การค้า และการลงทุน หรือมีแนวโน้มที่จะมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับประเทศไทยเป็นจำนวน มากในอนาคต
2.7 เป็นธนาคารที่จดทะเบียนในประเทศที่มีมาตรฐานการกำกับควบคุมสถาบันการเงินเป็น อย่างดี และน่าเชื่อถือ
2.8 เป็นธนาคารที่มีบทบาทในการพัฒนาความรู้ในระบบการเงินของไทย
2.9 เป็นธนาคารของประเทศที่มีนโยบายเปิดเสรีทางการเงิน
2.10 เป็นธนาคารที่มีความรู้ความชำนาญในการดำเนินธุรกิจการเงินระหว่างประเทศเป็น อย่างดี
3. สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศที่ได้รับการยกฐานะจะต้องมีเงินกองทุนไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท โดยในวันเปิดดำเนินการต้องมีเงินกองทุนไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท และภายใน เวลา 1 ปี ให้เพิ่มเงินทุนเป็นไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
4. กิจการวิเทศธนกิจที่ประสงค์จะขอยกฐานะเป็นสาขาเต็มรูปแบบจะต้องยื่นคำขอจัดตั้ง ตามแบบที่ทางการกำหนด โดยจะต้องมีหนังสือยินยอมให้ยื่นคำขอประกอบการธนาคารพาณิชย์ โดยจัดตั้ง เป็นสาขาในประเทศไทยจากทางการของประเทศที่จดทะเบียนจัดตั้งธนาคาร ข้อมูลแสดงวงเงินและ ยอดคงค้างของการให้กู้ยืมหรือร่วมลงทุนกับภาครัฐบาล ภาคสถาบันการเงินและภาคเอกชนอื่น ๆ ในประ เทศไทย และข้อมูลเกี่ยวกับอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนโดยให้ยื่นคำขอที่ฝ่ายกำกับและพัฒนา สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2538 ถึง 31 มกราคม 2539
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 26 กันยายน 2538--
คณะรัฐมนตรีรับทราบประกาศกระทรวงการคลัง ลงวันที่ 14 กันยายน 2538 เรื่อง หลัก เกณฑ์การปรับกิจการวิเทศธนกิจเป็นสาขาเต็มรูปแบบ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อกำหนดคุณสม บัติของกิจการวิเทศธนกิจที่จะยกฐานะเป็นสาขาเต็มรูปแบบ และกำหนดหลักเกณฑ์การปรับกิจการวิ เทศธนกิจเป็นสาขาเต็มรูปแบบเนื่องจากประเทศไทยได้ยื่นข้อเสนอผูกพันไว้กับองค์การการค้าโลก (WTO) ในการเจรจาการค้าบริการด้านการเงิน ตามข้อตกลงทั่วไปว่าด้วยการค้าบริการ (General Agreement on Trade in Services - GATS) ซึ่งรวมถึงการผูกพันที่จะปรับกิจการ วิเทศธนกิจเป็นสาขาเต็มรูปแบบ 5 - 7 สาขา ภายในปี พ.ศ. 2540 มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดคุณสมบัติของกิจการวิเทศธนกิจที่จะยกฐานะเป็นสาขาเต็มรูปแบบ จำนวนทุน ของสาขาธนาคารพาณิชย์ที่จะได้รับการยกฐานะ
2. คุณสมบัติของธนาคารที่มีสิทธิ์ยื่นคำขอยกฐานะ
2.1 ต้องเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย เฉพาะกิจการวิเทศธนกิจ
2.2 เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ มีชื่อเสียง ฐานะมั่นคง และมีผลการดำเนินงานดี
2.3 เป็นธนาคารต่างประเทศที่ยังไม่มีสาขาเต็มรูปแบบในประเทศไทย
2.4 เป็นธนาคารที่มีผลการดำเนินงานไปในแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของ ประเทศไทย และได้แสดงความพยายามที่จะพัฒนาธุรกิจการเงินระหว่างประเทศ
2.5 เป็นธนาคารที่ให้ความร่วมมือกับทางการเป็นอย่างดี
2.6 เป็นธนาคารที่จดทะเบียนในประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับประเทศไทยทั้งด้าน การเงิน การค้า และการลงทุน หรือมีแนวโน้มที่จะมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับประเทศไทยเป็นจำนวน มากในอนาคต
2.7 เป็นธนาคารที่จดทะเบียนในประเทศที่มีมาตรฐานการกำกับควบคุมสถาบันการเงินเป็น อย่างดี และน่าเชื่อถือ
2.8 เป็นธนาคารที่มีบทบาทในการพัฒนาความรู้ในระบบการเงินของไทย
2.9 เป็นธนาคารของประเทศที่มีนโยบายเปิดเสรีทางการเงิน
2.10 เป็นธนาคารที่มีความรู้ความชำนาญในการดำเนินธุรกิจการเงินระหว่างประเทศเป็น อย่างดี
3. สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศที่ได้รับการยกฐานะจะต้องมีเงินกองทุนไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท โดยในวันเปิดดำเนินการต้องมีเงินกองทุนไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท และภายใน เวลา 1 ปี ให้เพิ่มเงินทุนเป็นไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
4. กิจการวิเทศธนกิจที่ประสงค์จะขอยกฐานะเป็นสาขาเต็มรูปแบบจะต้องยื่นคำขอจัดตั้ง ตามแบบที่ทางการกำหนด โดยจะต้องมีหนังสือยินยอมให้ยื่นคำขอประกอบการธนาคารพาณิชย์ โดยจัดตั้ง เป็นสาขาในประเทศไทยจากทางการของประเทศที่จดทะเบียนจัดตั้งธนาคาร ข้อมูลแสดงวงเงินและ ยอดคงค้างของการให้กู้ยืมหรือร่วมลงทุนกับภาครัฐบาล ภาคสถาบันการเงินและภาคเอกชนอื่น ๆ ในประ เทศไทย และข้อมูลเกี่ยวกับอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนโดยให้ยื่นคำขอที่ฝ่ายกำกับและพัฒนา สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2538 ถึง 31 มกราคม 2539
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 26 กันยายน 2538--