ทำเนียบรัฐบาล--27 ก.ค.--บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบรายงานความคืบหน้าการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2542 ในช่วง 9 เดือนแรก (ตุลาคม 2541 - มิถุนายน 2542 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. ตั้งแต่ปีงบประมาณจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2542) มีการเบิกจ่ายเงินจากคลังทั้งสิ้น 494,439 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 59.93 ของวงเงินงบประมาณ 825,000 ล้านบาท เทียบกับอัตราการเบิกจ่ายเงินเฉลี่ยช่วงระยะเวลาเดียวกันของ 5 ปีงบประมาณก่อน คือ ร้อยละ 53.93 สูงกว่าร้อยละ 6.00 แต่ต่ำกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายเงิน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2542 ตาม LOI 7 คือ 516,200 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 62.57 เท่ากับ 21,761 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.45
ผลการเบิกจ่ายเงินจำนวน 494,439 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 416,856 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 69.10 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ (602,229 ล้านบาท) เทียบกับอัตราการเบิกจ่ายเงินเฉลี่ยช่วงระยะเวลาเดียวกันของ 5 ปีงบประมาณก่อน คือ ร้อยละ 65.30 จะสูงกว่าร้อยละ 3.80 และรายจ่ายลงทุน 77,583 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34.98 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน (222,771 ล้านบาท) เทียบกับอัตราการเบิกจ่ายเงินเฉลี่ยช่วงระยะเวลาเดียวกันของ 5 ปีงบประมาณก่อน คือ ร้อยละ 33.71 สูงกว่าร้อยละ1.27
2. ปัญหาสำคัญประการหนึ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงิน โดยเฉพาะงบประมาณรายจ่ายลงทุนของหน่วยงานที่มีงบลงทุนสูง จำนวน 34 แห่ง ได้แก่ ปัญหาความล่าช้าในการดำเนินงานของหน่วยงานอันเนื่องมาจากระบบงานภายใน ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเบิกจ่ายเงิน เช่น ระบบการจัดสรรเงินงบประมาณให้กับโรงเรียนทั่วประเทศของสำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ ซึ่งใช้เวลาในการดำเนินงานนานกว่าโรงเรียนต่าง ๆ จะได้รับจัดสรรเงิน หรือ การดำเนินงานก่อสร้างโครงการเร่งรัดการขยายระบบประปาชนบทของกรมอนามัย ซึ่งในแต่ละปีงบประมาณที่ผ่านมาส่วนใหญ่ไม่สามารถดำเนินการและเบิกจ่ายเงินได้ทันภายในปีงบประมาณ ดังนั้น หากจะเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามเป้าหมาย จึงควรมุ่งเน้นให้ส่วนราชการเจ้าของงบประมาณจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาความล่าช้าดังกล่าวโดยด่วน
นอกจากนี้ คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอว่า ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้ดำเนินการติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินในลักษณะการขอความร่วมมือ ซึ่งอาจจะได้ผลในระดับหนึ่ง แต่หากจะให้การเร่งรัดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควรจะสร้างระบบให้ส่วนราชการต้องมีการรายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะของงานหรือโครงการที่สำคัญต่อคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ ดังนั้น จึงเห็นควรให้เชิญส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนสูง แต่มีการเบิกจ่ายต่ำ ทำหนังสือ และมาชี้แจงปัญหาอุปสรรคและแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจในการประชุมแต่ละครั้ง เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ได้ตระหนักและเร่งหาแนวทางในการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินมากขึ้น และเพื่อให้การชี้แจงของส่วนราชการเป็นไปอย่างมีระบบ กระทรวงการคลังได้จัดกลุ่มของส่วนราชการที่เห็นสมควรให้มาชี้แจงผลความคืบหน้าในการเบิกจ่ายเงิน พร้อมทั้งออกแบบรายงานผลการเบิกจ่ายเงินและผลความคืบหน้าในการดำเนินการแยกตามงาน/โครงการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 กรกฎาคม 2542--
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบรายงานความคืบหน้าการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2542 ในช่วง 9 เดือนแรก (ตุลาคม 2541 - มิถุนายน 2542 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. ตั้งแต่ปีงบประมาณจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2542) มีการเบิกจ่ายเงินจากคลังทั้งสิ้น 494,439 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 59.93 ของวงเงินงบประมาณ 825,000 ล้านบาท เทียบกับอัตราการเบิกจ่ายเงินเฉลี่ยช่วงระยะเวลาเดียวกันของ 5 ปีงบประมาณก่อน คือ ร้อยละ 53.93 สูงกว่าร้อยละ 6.00 แต่ต่ำกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายเงิน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2542 ตาม LOI 7 คือ 516,200 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 62.57 เท่ากับ 21,761 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.45
ผลการเบิกจ่ายเงินจำนวน 494,439 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 416,856 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 69.10 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ (602,229 ล้านบาท) เทียบกับอัตราการเบิกจ่ายเงินเฉลี่ยช่วงระยะเวลาเดียวกันของ 5 ปีงบประมาณก่อน คือ ร้อยละ 65.30 จะสูงกว่าร้อยละ 3.80 และรายจ่ายลงทุน 77,583 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34.98 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน (222,771 ล้านบาท) เทียบกับอัตราการเบิกจ่ายเงินเฉลี่ยช่วงระยะเวลาเดียวกันของ 5 ปีงบประมาณก่อน คือ ร้อยละ 33.71 สูงกว่าร้อยละ1.27
2. ปัญหาสำคัญประการหนึ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงิน โดยเฉพาะงบประมาณรายจ่ายลงทุนของหน่วยงานที่มีงบลงทุนสูง จำนวน 34 แห่ง ได้แก่ ปัญหาความล่าช้าในการดำเนินงานของหน่วยงานอันเนื่องมาจากระบบงานภายใน ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเบิกจ่ายเงิน เช่น ระบบการจัดสรรเงินงบประมาณให้กับโรงเรียนทั่วประเทศของสำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ ซึ่งใช้เวลาในการดำเนินงานนานกว่าโรงเรียนต่าง ๆ จะได้รับจัดสรรเงิน หรือ การดำเนินงานก่อสร้างโครงการเร่งรัดการขยายระบบประปาชนบทของกรมอนามัย ซึ่งในแต่ละปีงบประมาณที่ผ่านมาส่วนใหญ่ไม่สามารถดำเนินการและเบิกจ่ายเงินได้ทันภายในปีงบประมาณ ดังนั้น หากจะเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามเป้าหมาย จึงควรมุ่งเน้นให้ส่วนราชการเจ้าของงบประมาณจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาความล่าช้าดังกล่าวโดยด่วน
นอกจากนี้ คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอว่า ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้ดำเนินการติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินในลักษณะการขอความร่วมมือ ซึ่งอาจจะได้ผลในระดับหนึ่ง แต่หากจะให้การเร่งรัดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควรจะสร้างระบบให้ส่วนราชการต้องมีการรายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะของงานหรือโครงการที่สำคัญต่อคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ ดังนั้น จึงเห็นควรให้เชิญส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนสูง แต่มีการเบิกจ่ายต่ำ ทำหนังสือ และมาชี้แจงปัญหาอุปสรรคและแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจในการประชุมแต่ละครั้ง เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ได้ตระหนักและเร่งหาแนวทางในการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินมากขึ้น และเพื่อให้การชี้แจงของส่วนราชการเป็นไปอย่างมีระบบ กระทรวงการคลังได้จัดกลุ่มของส่วนราชการที่เห็นสมควรให้มาชี้แจงผลความคืบหน้าในการเบิกจ่ายเงิน พร้อมทั้งออกแบบรายงานผลการเบิกจ่ายเงินและผลความคืบหน้าในการดำเนินการแยกตามงาน/โครงการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 กรกฎาคม 2542--