ทำเนียบรัฐบาล--27 มิ.ย.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแนวทางการชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งค้างชำระก่อนปีงบประมาณ พ.ศ2543 และตั้งแต่ในปีงบประมาณ 2543 เป็นต้นไปตามที่สำนักงบประมาณเสนอดังนี้
1. การชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระก่อนปีงบประมาณ พ.ศ.2543
1.1 ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีเงินนอกงบประมาณ ชำระหนี้ค่าสาธาณูปโภคปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2534 อย่างเคร่งครัด และให้นำเงินนอกงบประมาณไปชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของค่าสาธารณูปโภคในปีนั้น เว้นแต่กรณีส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีเงินนอกงบประมาณไม่เพียงพอตามเกณฑ์ดังกล่าว
1.2 ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ไม่มีเงินนอกงบประมาณหรือมีเงินนอกงบประมาณ แต่เมื่อปฏิบัติตามเกณฑ์ คือ นำเงินนอกงบประมาณไปชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่ค้างชำระได้ เห็นควรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดังกล่าว ดำเนินการชำระหนี้จากเงินงบประมาณรายจ่ายโดยไม่ถือว่าเป็นการปฏิบัติไม่ชอบด้วยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2534 หรือไม่ ถือเป็นการก่อหนี้ผูกพันเกินเงินงบประมาณตามนัยมาตรา 23 และมีความผิดตามนัยมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้วแต่กรณี ดังนี้
1) กรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีเงินประจำงวดหมวดค่าสาธารณูปโภคของแผนงาน งานหรือโครงการเดียวกันคงเหลือเพียงพอ แต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในปีงบประมาณที่เกิดค่าใช้จ่าย ให้มาเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณของปีงบประมาณ พ.ศ2543ในลักษณะค่าใช้จ่ายค้างเบิกข้ามปี
2) กรณีส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีเงินประจำงวดหมวดค่าสาธารณูปโภคของแผนงาน งานหรือโครงการเดียวกันในปีที่เกิดค่าใช้จ่ายคงเหลือไม่เพียงพอให้ประสานงานกับสำนักงบประมาณเพื่อขอโอนเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากหมวดอื่นของงานหรือโครงการเดียวกัน หรืองาน หรือโครงการอื่นในแผนงานเดียวกันไปเป็นหมวดค่าสาธารณูปโภค และให้นำหนี้ค่าสาธารณูปโภคที่ค้างชำระนั้น มาเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณของปีงบประมาณ พ.ศ.2543 ในลักษณะค่าใช้จ่ายค้างเบิกข้ามปี
3) กรณีส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไม่มีเงินประจำงวดในแผนงานเดียวกันคงเหลือในปีที่เกิดค่าใช้จ่าย หรือมีแต่ไม่เพียงพอ ให้เบิกค่าสาธารณูโภคที่ค้างชำระ โดยเจียดจ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ.2543 ได้
2. การชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2543 เป็นต้นไป เห็นควรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นภายในปีงบประมาณนั้น ๆ โดยให้ปฏิบัติตามแนวทางและมาตรการที่กำหนดไว้ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2534 และให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีเงินนอกงบประมาณนำเงินนอกงบประมาณไปชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของค่าสาธารณูปโภคในปีนั้นอย่างเคร่งครัด เว้นแต่กรณีที่มีเงินนอกงบประมาณไม่เพียงพอตามเกณฑ์ดังกล่าว ทั้งนี้ ห้ามมิให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจนำเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากหมวดอื่นหรือโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายไปใช้เพื่อการอื่นจนกว่าจะชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคครบถ้วนแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 27 มิ.ย. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแนวทางการชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งค้างชำระก่อนปีงบประมาณ พ.ศ2543 และตั้งแต่ในปีงบประมาณ 2543 เป็นต้นไปตามที่สำนักงบประมาณเสนอดังนี้
1. การชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระก่อนปีงบประมาณ พ.ศ.2543
1.1 ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีเงินนอกงบประมาณ ชำระหนี้ค่าสาธาณูปโภคปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2534 อย่างเคร่งครัด และให้นำเงินนอกงบประมาณไปชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของค่าสาธารณูปโภคในปีนั้น เว้นแต่กรณีส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีเงินนอกงบประมาณไม่เพียงพอตามเกณฑ์ดังกล่าว
1.2 ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ไม่มีเงินนอกงบประมาณหรือมีเงินนอกงบประมาณ แต่เมื่อปฏิบัติตามเกณฑ์ คือ นำเงินนอกงบประมาณไปชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่ค้างชำระได้ เห็นควรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดังกล่าว ดำเนินการชำระหนี้จากเงินงบประมาณรายจ่ายโดยไม่ถือว่าเป็นการปฏิบัติไม่ชอบด้วยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2534 หรือไม่ ถือเป็นการก่อหนี้ผูกพันเกินเงินงบประมาณตามนัยมาตรา 23 และมีความผิดตามนัยมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้วแต่กรณี ดังนี้
1) กรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีเงินประจำงวดหมวดค่าสาธารณูปโภคของแผนงาน งานหรือโครงการเดียวกันคงเหลือเพียงพอ แต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในปีงบประมาณที่เกิดค่าใช้จ่าย ให้มาเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณของปีงบประมาณ พ.ศ2543ในลักษณะค่าใช้จ่ายค้างเบิกข้ามปี
2) กรณีส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีเงินประจำงวดหมวดค่าสาธารณูปโภคของแผนงาน งานหรือโครงการเดียวกันในปีที่เกิดค่าใช้จ่ายคงเหลือไม่เพียงพอให้ประสานงานกับสำนักงบประมาณเพื่อขอโอนเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากหมวดอื่นของงานหรือโครงการเดียวกัน หรืองาน หรือโครงการอื่นในแผนงานเดียวกันไปเป็นหมวดค่าสาธารณูปโภค และให้นำหนี้ค่าสาธารณูปโภคที่ค้างชำระนั้น มาเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณของปีงบประมาณ พ.ศ.2543 ในลักษณะค่าใช้จ่ายค้างเบิกข้ามปี
3) กรณีส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไม่มีเงินประจำงวดในแผนงานเดียวกันคงเหลือในปีที่เกิดค่าใช้จ่าย หรือมีแต่ไม่เพียงพอ ให้เบิกค่าสาธารณูโภคที่ค้างชำระ โดยเจียดจ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ.2543 ได้
2. การชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2543 เป็นต้นไป เห็นควรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นภายในปีงบประมาณนั้น ๆ โดยให้ปฏิบัติตามแนวทางและมาตรการที่กำหนดไว้ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2534 และให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีเงินนอกงบประมาณนำเงินนอกงบประมาณไปชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของค่าสาธารณูปโภคในปีนั้นอย่างเคร่งครัด เว้นแต่กรณีที่มีเงินนอกงบประมาณไม่เพียงพอตามเกณฑ์ดังกล่าว ทั้งนี้ ห้ามมิให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจนำเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากหมวดอื่นหรือโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายไปใช้เพื่อการอื่นจนกว่าจะชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคครบถ้วนแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 27 มิ.ย. 2543--
-สส-