ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 1/2563

ข่าวการเมือง Tuesday May 12, 2020 17:46 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เสนอ และให้ สกพอ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณ (สงป.) ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมฯ ได้มีมติเห็นชอบแผนงานรื้อย้ายสาธารณูปโภค และก่อสร้างทดแทนในพื้นที่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ท่าอากาศยานดอนเมือง – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – ท่าอากาศยานอู่ตะเภา) และกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อดำเนินการดังกล่าว จำนวน 4,103.608 ล้านบาท เฉพาะส่วนที่หน่วยงานของรัฐเจ้าของสาธารณูปโภคต้องดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณ ประกอบด้วย หน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค) จำนวน 4,069.408 ล้านบาท หน่วยงานภายใต้กระทรวงกลาโหม (กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ) จำนวน 31.2 ล้านบาท และหน่วยงานภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ (ค่ายลูกเสือวชิราวุธ) จำนวน 3 ล้านบาท

ในส่วนแผนงานรื้อย้ายสาธารณูปโภคและก่อสร้างทดแทนสาธารณูปโภคที่กีดขวางการก่อสร้างโครงการฯ ของหน่วยงานภายใต้กระทรวงพลังงาน [บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย] และของเอกชนอื่น ๆ นั้น หน่วยงานเจ้าของสาธารณูปโภคและเอกชนเจ้าของสาธารณูปโภคจะดำเนินการรื้อย้ายและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเอง และเมื่อดำเนินการรื้อย้าย และ/หรือก่อสร้างทดแทนสาธารณูปโภคในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว การรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่จะทยอยส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนคู่สัญญา เพื่อเข้าดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ สศช. มีความเห็นเพิ่มเติมว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการบริหารความเสี่ยงในขั้นตอนการดำเนินงาน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการดำเนินโครงการ และควรกำกับและติดตามการดำเนินงาน และการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผน นอกจากนี้ ในระหว่างขั้นตอนการรื้อย้าย และก่อสร้างสาธารณูปโภคทดแทนกลับ จะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนทั้งในด้านความเป็นอยู่และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากการดำเนินงานในบริเวณพื้นที่ และ สงป. มีความเห็นว่า สำหรับค่าใช้จ่ายในการรื้อย้ายฯ ในกรอบวงเงิน 4,103.608 ล้านบาท สงป. ได้เสนอตั้งงบฯ 64 ของ กรุงเทพมหานคร การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นเงิน 997.42 ล้านบาท ทั้งนี้ หน่วยงานดังกล่าวควรเตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการรื้อย้ายฯ ให้เป็นไปตามแผนการส่งมอบพื้นที่ฯ ด้วย

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 พฤษภาคม 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ