ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 26, 2009 13:51 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 เป็นต้นไป

สาระสำคัญของเรื่อง

ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เป็นการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง พ.ศ. 2519 โดยกำหนดเพิ่มเติมให้ลูกจ้างประจำมีสิทธิได้รับบำนาญปกติและบำนาญพิเศษ แต่โดยที่การกำหนดให้เรียกชื่อเป็นบำนาญปกติและบำนาญพิเศษอาจเกิดความสับสนและซ้ำซ้อนกับข้าราชการ จึงกำหนดให้เรียกบำนาญปกติและบำนาญพิเศษเป็นบำเหน็จรายเดือนและบำเหน็จพิเศษรายเดือน โดยมีสาระสำคัญดังนี้

1. กำหนดให้ลูกจ้างประจำผู้มีสิทธิรับบำเหน็จปกติซึ่งมีเวลาทำงานตั้งแต่ยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ขึ้นไป หรือมีสิทธิได้รับบำเหน็จพิเศษสามารถขอรับเป็นบำเหน็จรายเดือน หรือบำเหน็จพิเศษรายเดือนแทนก็ได้ ทั้งนี้ เมื่อลูกจ้างประจำได้รับเงินดังกล่าวจากส่วนราชการผู้เบิกแล้ว จะขอเปลี่ยนแปลงความประสงค์ในการขอรับอีกไม่ได้

2. กำหนดให้สิทธิในบำเหน็จรายเดือนและบำเหน็จพิเศษรายเดือนเริ่มตั้งแต่ลูกจ้างประจำออกจากงานจนกระทั่งผู้นั้นถึงแก่ความตาย

3. กำหนดให้บำเหน็จรายเดือน คำนวณจากค่าจ้างเดือนสุดท้าย คูณด้วยจำนวนเดือนทำงานหารด้วยสิบสอง ผลลัพธ์เป็นเท่าใดให้หารด้วยห้าสิบ

4. กำหนดให้บำเหน็จพิเศษรายเดือน คำนวณโดยให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม หรือเทียบเท่าเป็น ผู้กำหนดตามจำนวนที่เห็นสมควรแก่เหตุการณ์ประกอบกับความพิการและทุพพลภาพของลูกจ้างประจำ ดังนี้

(1) กรณีปฏิบัติหน้าที่ในเวลาปกติ ให้คำนวณจากหกถึงยี่สิบสี่เท่าของค่าจ้างเดือนสุดท้ายผลลัพธ์เป็นเท่าใดให้หารด้วยห้าสิบ

(2) กรณีปฏิบัติหน้าที่ตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนดในระหว่างเวลาที่มีการรบ การสงครามการปราบปรามจลาจล หรือในระหว่างที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก หรือประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินให้คำนวณจากสามสิบหกถึงสี่สิบสองเท่าของค่าจ้างเดือนสุดท้าย ผลลัพธ์เป็นเท่าใดให้หารด้วยห้าสิบ

5. กำหนดให้ลูกจ้างประจำผู้มีสิทธิได้รับบำเหน็จปกติหรือบำเหน็จพิเศษที่มีสิทธิเปลี่ยนแปลงความประสงค์ขอรับเป็นบำเหน็จรายเดือนหรือบำเหน็จพิเศษรายเดือนได้ ที่ยังไม่ได้รับเงินบำเหน็จปกติหรือบำเหน็จพิเศษจากทางราชการในวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ สามารถแสดงความประสงค์ขอเปลี่ยนบำเหน็จปกติหรือบำเหน็จพิเศษเป็นบำเหน็จรายเดือนหรือบำเหน็จพิเศษรายเดือน แล้วแต่กรณีแทนได้

6. กำหนดบทเฉพาะกาล ให้ลูกจ้างประจำผู้มีสิทธิได้รับบำเหน็จปกติหรือบำเหน็จพิเศษที่มีสิทธิเปลี่ยนแปลงความประสงค์ขอรับเป็นบำเหน็จรายเดือนหรือบำเหน็จพิเศษรายเดือนได้ ซึ่งออกจากงานในปีงบประมาณ 2552 โดยได้แสดงความประสงค์ขอรับบำเหน็จปกติ หรือบำเหน็จพิเศษก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับและได้รับเงินบำเหน็จปกติหรือบำเหน็จพิเศษไปแล้ว สามารถเปลี่ยนแปลงความประสงค์เป็นขอรับบำเหน็จรายเดือนหรือบำเหน็จพิเศษรายเดือนแล้วแต่กรณีได้ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ โดยต้องนำเงินบำเหน็จปกติ หรือเงินบำเหน็จพิเศษที่ได้รับไปแล้วมาคืนต่อส่วนราชการเจ้าสังกัดทั้งจำนวน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 สิงหาคม 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ