ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 28, 2010 15:53 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสโลวีเนีย

และรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างรัฐบาลแห่งสโลวีเนียและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกระทรวงการต่างประเทศ จะได้แจ้งฝ่ายสโลวีเนียว่าฝ่ายไทยได้ดำเนินการตามกระบวนการภายในประเทศแล้วตามนัยข้อ 8 ของความตกลง

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรายงานว่า

1.หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (17 สิงหาคม 2547) นายกันตธีร์ ศุภมงคล ผู้แทนการค้าไทยและผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรี และ Dr.Zoran Stancic,State Secretary for Science ประเทศสโลวีเนีย ได้ลงนามความตกลงฯ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2547 ในโอกาสที่ผู้แทนการค้าไทยฯ เยือนประเทศนอร์เวย์ ฮังการี และสโลวีเนีย

2. ฝ่ายสโลวีเนียประสานผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนาว่าฝ่ายสโลวีเนียได้ดำเนินการตามกระบวนการภายในประเทศ เพื่อให้ความตกลงมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งเป็นไปตามข้อ8 ที่ระบุว่า “ความตกลงจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ภาคีคู่สัญญาได้แจ้งกันและกันทราบว่าแต่ละฝ่ายได้ดำเนินการตามกระบวนการภายในประเทศแล้ว” ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายไทยยังไม่ได้มีหนังสือแจ้งฝ่ายสโลวีเนียทราบเกี่ยวกับการดำเนินการของฝ่าย

3.ความตกลงฯ มีวัตถุประสงค์จะส่งเสริมความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างทั้งสองประเทศ โดยการแลกเปลี่ยนนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย บุคลากรทางเทคนิคและผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและการร่วมจัดประชุมสัมมนา โดยจะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดำเนินงานภายใต้ความตกลง และตามข้อ 8 ของความตกลง ฯ ระบุว่า “ความตกลงจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ภาคีคู่สัญญาได้แจ้งกันและกันทราบว่าแต่ละฝ่ายได้ดำเนินการตามกระบวนการภายในประเทศแล้ว” ซึ่งฝ่ายสโลวีเนียได้ดำเนินการตามกระบวนการภายในประเทศ เพื่อให้ความตกลงฯ มีผลบังคับใช้แล้วและประเทศไทยควรจะได้ดำเนินการตามกระบวนการภายในประเทศตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ

4.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิจารณาแล้วเห็นว่าสามารถปฏิบัติตามความตกลงฯ ได้ โดยไม่ต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา ความตกลงฯ จะไม่เข้าข่ายประเภทหนังสือตามมาตรา 190 วรรคสองของรัฐธรรมนูญที่จะต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา นอกจากนี้ยังเห็นว่า การดำเนินกิจกรรมความร่วมมือภายใต้ความตกลงฯ ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบทางลบต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทย โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและหน่วยงานประเทศไทยที่เกี่ยวข้องสามารถใช้กรอบความตกลงฯ ริเริ่มการเจรจาจัดทำแผนงานกิจกรรม ซึ่งเป็นกิจกรรมพื้นฐานที่ฝ่ายไทยจะได้รับประโยชน์จากแหล่งองค์ความรู้และการเชื่อมโยงงานวิจัยในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศสโลวีเนีย โดย Ministry of Higher Education, Science and Technology ได้เข้าร่วมดำเนินงานภายใต้กรอบแผนงานด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของสหภาพยุโรปอย่างต่อเนื่องและรัฐบาลมีนโยบายสร้างเสริมความเข้มแข็งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งในด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ด้านมาตรวิทยา ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสังคม และด้านชีวการแพทย์

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 เมษายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ