คปภ. จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระและรับฟังการแสดงพระธรรมเทศนา เพื่อเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา 13 ปี

ข่าวทั่วไป Thursday September 10, 2020 14:14 —คปภ.

คปภ. จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระและรับฟังการแสดงพระธรรมเทศนา เพื่อเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา 13 ปี

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563 ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานในพิธีบวงสรวงศาลพระนารายณ์ และสักการะศาลเจ้าแม่ตะเคียน สิ่งศักดิ์สิทธิประจำสำนักงาน เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา 13 ปี สำนักงาน คปภ. โดยมีคณะผู้บริหาร คปภ. พนักงาน และลูกจ้าง สำนักงาน คปภ. เข้าร่วมงานโดยพร้อมเพรียงกัน ต่อจากนั้น ได้รับฟังการแสดงพระธรรมเทศนาจากท่านพระศรีธรรมภาณี วัดประยูรวงศาวาส และทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง

ในโอกาสนี้ ท่านพระศรีธรรมภาณี วัดประยูรวงศาวาส ได้ให้ข้อคิดคติธรรมในการทำงานและการอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ผ่านสำนวนสุภาษิตที่ว่า “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” และสำนวน “แม่น้ำที่ไร้เรือ เสือที่ไร้ดง” ที่เปรียบเปรยถึงการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน มีความเอื้อเฟื้อและมีน้ำใจช่วยเหลือต่อกัน ดังเช่นแม่น้ำกับเรือ หากไม่มีเรือวิ่งผ่าน ก็อาจจะไม่มีประโยชน์เพราะตื้นเขิน แต่หากมีเรือวิ่งผ่านสัญจรทางน้ำ แม่น้ำนั้นก็จะได้รับการดูแลไม่ตื้นเขิน และเปรียบเสมือนเสือกับป่า ซึ่งเสือก็ต้องมีป่าสำหรับอยู่อาศัย และป่าเมื่อมีเสือก็จะมีวัฐจักรของป่าเกิดขึ้น เกิดความสมดุลของระบบนิเวศ เช่นเดียวกับการทำงานให้ประสบความสำเร็จและการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ ทุกคนต้องให้การช่วยเหลือกัน พึ่งพาอาศัยกัน และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีน้ำใจต่อกัน เพราะการทำงานเพียงคนเดียวไม่สามารถทำให้ทุกอย่างประสบผลสำเร็จได้ รวมถึงสังคมไทยต้องมีวัฒนธรรมน้ำใจ โดยยึดหลัก 3 ว. คือ วัด วัง วัฒนธรรม ที่เชื่อมโยงถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาต่อสังคมในฐานะเป็นรากฐานของวัฒนธรรมไทย ที่ได้หล่อหลอมชีวิตจิตใจและลักษณะนิสัยของคนไทยให้เป็นผู้มีจิตใจดี ชอบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แสดงความเป็นมิตร เข้ากับใครๆ ได้ง่ายยินดีในการให้ การแบ่งปัน และให้ความช่วยเหลืออย่างที่เรียกว่าเป็นคนมีน้ำใจ อันเป็นเอกลักษณ์เด่นชัด ที่ชาวต่างชาติประทับใจ จนตั้งสมญานามเมืองไทยว่าเป็นดินแดนแห่งความยิ้มแย้มหรือสยามเมืองยิ้ม

นอกจากนี้ ท่านพระศรีธรรมภาณี วัดประยูรวงศาวาส ได้ให้หลักปฏิบัติตนในการทำความดีด้วยว่า คนเราทุกคนต้องยึดมั่นในความดี คือ ต้องมีความกตัญญูเลี้ยงดูบุพการีตลอดชีวิต อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล เจรจาอ่อนหวานมีความสามัคคี งดคำพูดที่ทำให้คนทะเลาะกัน ชื่นชมคนที่จิตใจดีไม่ใช่แค่หน้าตาดีหรือคนเด่นดัง เมื่อมีอารมณ์โกรธต้องรีบกำจัด รู้จักแบ่งปันเสียสละ และพูดแต่คำที่เป็นจริง จึงจะทำให้เราอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุขและมีความเจริญยิ่งขึ้นไป

“ข้อคิดคติธรรมและหลักปฏิบัติตนดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของสำนักงาน คปภ. ในสถานการณ์ปัจจุบันที่จำเป็นต้องอาศัยความรักความสามัคคีของบุคลากรของสำนักงานฯ ทุกคน ที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติงานอย่างเต็มที่เพื่อขับเคลื่อนภารกิจขององค์กรให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ