รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะการค้าอิตาลี ระหว่างวันที่ ๑-๑๕ มกราคม ๒๕๕๔

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 15, 2011 16:53 —กรมส่งเสริมการส่งออก

๑. การขาดดุลต่อผลผลิตมวลรวมประชาชาติของอิตาลี ในช่วง ๙ เดือนแรกของปี ๒๕๕๓ อยู่ในอัตรา ๕.๑% หรือ ๕.๕% ซึ่งนับว่าต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปี ๒๕๕๒ อย่างไรก็ดี อิตาลีมีรายได้เพิ่มขึ้น ๑.๗% ในช่วงไตรมาสที่ ๓ ของปี ๒๕๕๓ ขณะที่อีก ๙ เดือนเพิ่มขึ้น ๐.๓%

๒. การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๓ สามารถฟื้นตัวขึ้นมา ๑.๑% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว และเมื่อเทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้น ๔.๑% ซึ่งในเดือนตุลาคม สามารถทำได้แค่ ๒.๙% ในช่วง ๑๑ เดือนแรกของปี ๒๕๕๓ การผลิตเพิ่มขึ้น ๕.๔% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี ๒๕๕๒

๓. สำนักงานสถิติแห่งอิตาลี (ISTAT) ได้รายงานว่าอัตราเงินเฟ้อของอิตาลีเพิ่มขึ้นจาก ๑.๗% ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๓ เป็น ๑.๙% ในเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๕๑ ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน — ธันวาคม ๒๕๕๓ ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ๐.๔% และราคาน้ำมันสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ๙.๙% และสูงกว่าเดือนก่อนหน้า ๒.๕%

๔. ISTAT ได้รายงานว่า การส่งออก ของอิตาลีในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๓ เพิ่มขึ้น ๒๐% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น ๐.๙% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

การนำเข้า ของอิตาลีในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๓ เพิ่มขึ้น ๒๘.๓% เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันปีก่อนและเพิ่มขึ้น ๑.๕% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

๕. ISTAT ได้รายงานว่าอำนาจการซื้อของครัวเรือนในอิตาลีในไตรมาส ๓ ของปี ๒๕๕๓ ลดลง ๐.๕% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และในระหว่างไตรมาสที่ ๒ และ ๓ ก็ลดลง ๐.๕ % เนื่องจากรายได้ในระหว่าง ๒ ไตรมาส ยังคงเท่าเดิม แม้ว่าในเฉพาะไตรมาสที่ ๓ ของปี ๒๕๕๒ รายได้จะเพิ่มสูงขึ้น ๑.๔% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่ง ISTAT คาดว่าอิตาลีจะสามารถพ้นตัวจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในปี ๒๕๕๕

๖. สมาคมผู้ค้าปลีกอิตาลีเห็นว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคอิตาลียังไม่ฟื้นตัวอย่างแท้จริง และคาดว่าจะกลับไปอยู่ในระดับ Pre-crisis ได้ในปี ๒๕๕๕ ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี ๒๕๕๑-๒๕๕๒ ยอดการจับจ่ายลดลงอยู่ในระดับเดียวกันกับช่วงก่อนปี ๒๕๔๒ โดยลดลงประมาณ ๒.๑% ต่อปี

๗. สหภาพผู้ใช้แรงงานอิตาลีคาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานของคนอิตาลีมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้นได้ถึง ๒๐% หรืออาจจะมากกกว่านั้นในปี ๒๕๕๔ เนื่องจากผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีอยู่

เลขาธิการสหภาพผู้ใช้แรงงานอิตาลี นายGiorgio Santini คาดว่าขณะนี้จะมีชาวอิตาลีตกงานอีกประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ คน เพิ่มจากจำนวนผู้ตกงานที่มีอยู่เดิม ๒,๐๐๐,๐๐๐ คน ผู้ตกงานส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจก่อสร้าง ซึ่งเป็นกำลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญเดิมของอิตาลีแต่มีท่าทีฟื้นตัวยาก สหภาพผู้ใช้แรงงานอิตาลียังแจ้งอีกว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี ๒๕๕๑ ถึงไตรมาส ๓ ของปี ๒๕๕๓ อิตาลีสูญงานไปถึง ๕๔๐,๐๐๐ งาน

๘. สำนักงานสถิติแห่งอิตาลี (ISTAT) รายงานว่าอัตราการว่างงานของคนหนุ่มสาวอิตาลีในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๓ ขึ้นสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่เริ่มมีการจัดอันดับในเดือนมกราคม ๒๕๔๗ โดยคนที่มีอายุระหว่าง ๑๕-๒๔ ปี มีอัตราการว่างงานถึง ๒๘.๙% ส่วนสภาพการว่างงานในภาพรวมยังคงที่คือ ๘.๗% ซึ่งสูงสุดนับแต่มกราคม ๒๕๔๗

๙. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน นาย Giulio Tremonti ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจของฝรั่งเศสว่า อิตาลีจะยังคงนโยบายเข้มงวดด้านงบประมาณรายจ่ายในปี ๒๕๕๔ ต่อไป นอกจากนี้การออกพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นจุดแข็งในการระดมทุนเข้าคลังได้เป็นอย่างดี เนื่องจากคนอิตาลียังนิยมซื้ออยู่

อย่างไรก็ดี สหภาพยุโรปไม่ขอให้รัฐบาลอิตาลีเข้มงวดการบริหารงานคลังในปี ๒๕๕๔ เนื่องจากอิตาลีสามารถคงเสถียรภาพการคลังภาครัฐไว้ได้แล้ว

๑๐. ความต้องการกู้ยืมเงินของภาครัฐอิตาลีในปี ๒๕๕๓ มีมูลค่า ๖๗.๕ พันล้านยูโร ต่ากว่าปี ๒๕๕๒ ประมาณ ๑๙.๓ พันล้านยูโร และต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ล่าสุดประมาณ ๑๖.๓ พันล้านยูโร ทั้งนี้ในเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ ความต้องการกู้ยืมมีมูลค่า ๙.๑ พันล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าความต้องการกู้ยืมในเดือนธันวาคม ๒๕๕๒ ถึง ๗.๓ พันล้านยูโร

๑๑. สะพานข้ามช่องแคบ Messina ซึ่งจะเชื่อมระหว่างอิตาลีและเกาะซิซิลีมีกำหนดจะสร้างในปีนี้ และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี ๒๕๖๐ สะพานมีความยาว ๓,๖๙๐ เมตร สามารถรองรับรถได้ ๔,๕๐๐ คัน/ชั่วโมง และรถไฟ ๒๐๐ ขบวน/วัน โดยจะมีการสร้างเป็นศูนย์การค้าแบบคอมเพล็กซ์ ประกอบด้วยโรงแรม ศูนย์การค้า ศูนย์การประชุม และพื้นที่จัดงานแสดงสินค้า ขึ้นในพื้นที่ฝั่ง Calabrian โดยผู้ออกแบบ คือ Daniel Libeskind ซึ่งเป็นสถาปนิกชั้นแนวหน้าของสหรัฐอเมริกา

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ