ฟิลิปปินส์จะลงนามในข้อตกลงทางการค้า (MOA) กับกัมพูชา
นาย Dante Delima ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ให้สัมภาษณ์ว่า ฟิลิปปินส์กำลังจะลงนามในข้อตกลงทางการค้า (MOA) กับกัมพูชา ๒ ฉบับ โดยฉบับแรกจะเป็นเรื่องการนำเข้าข้าว ซึ่งคาดว่าจะลงนามได้ภายใน ๑ เดือน ส่วนอีกฉบับหนึ่งจะเป็นเรื่องความร่วมมือทางการค้าสินค้าเกษตรอื่นๆ ข้อตกลงทางการค้าดังกล่าวนี้ได้มีการเจรจากันช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมานี้ ภายใต้ข้อตกลงการค้าข้าวดังกล่าว กัมพูชาตกลงจะจัดส่งข้าวจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ ตันขายให้ฟิลิปปินส์เมื่อฟิลิปปินส์ต้องการ ทำให้กัมพูชาเป็นประเทศที่สามที่ฟิลิปปินส์จะสั่งซื้อข้าวในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาลได้ จากเดิมที่มีเพียงเวียดนามและไทยเท่านั้น ทั้งนี้ฟิลิปปินส์จะซื้อข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลจำนวนทั้งหมด ๑๒๐,๐๐๐ ตันจากจำนวนการนำเข้าทั้งหมด ๕๐๐,๐๐๐ ตันในปีนี้ อย่างไรก็ตามการลงนามในข้อตกลงนี้ไม่ได้หมายความว่าฟิลิปปินส์จะซื้อข้าวทั้งหมดจากกัมพูชา ยังต้องขึ้นกับราคาข้าวว่าถูกกว่าคู่แข่งด้วยหรือไม่
นาย Angelito Banayo ผู้อำนวยการสำนักงานอาหารแห่งชาติ (National Food Authority / NFA) กล่าวเสริมว่าจากที่ฟิลิปปินส์มีข้อตกลงการจัดส่งข้าว (Rice Supply Agreement) กับเวียดนาม ไทยและกัมพูชานั้น ฟิลิปปินส์อาจซื้อจากทั้งหมด ๓ ประเทศ หรือประเทศเดียวหรือ ๒ ประเทศก็ได้ ขึ้นกับราคาและความสามารถในการจัดส่งข้าวมาขายได้ สำหรับปีนี้ปริมาณที่จะนำเข้าข้าวทั้งหมด ๕๐๐,๐๐๐ ตัน โดยข้าวที่นำเข้าควรจะมาถึงฟิลิปปินส์ภายในสิ้นเดือน มิ.ย. หรือก่อนช่วงเดือนขาดแคลน (lean months) ทั้งนี้ NFA ได้จัดประมูลเพื่อการนำเข้าข้าวไปแล้ว ๒ ครั้ง สำหรับข้าวจำนวน ๓๘๐,๐๐๐ ตัน โดยการประมูลเมื่อ ๑๙ มี.ค. NFA ได้คัดเลือกผู้ค้าข้าวที่ผ่านคุณสมบัติขั้นต้นจำนวน ๑๐๒ ราย สำหรับการนำเข้าข้าว ๑๙๐,๐๐๐ ตัน และคัดเลือกกลุ่มเกษตรกรที่ผ่านคุณสมบัติขั้นต้น ๒๖๒ กลุ่มสำหรับการนำเข้าข้าวอีก ๑๙๐,๐๐๐ ตันที่เหลือ
สำหรับอีกข้อตกลงหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือทางการค้าสินค้าเกษตรอื่นๆนั้น ทางผู้ช่วยรัฐมนตรีเกษตรแจ้งว่าทางกัมพูชาสนใจที่จะสั่งซื้อสินค้าจากฟิลิปปินส์ได้แก่ ปลาBangus กาแฟคุณภาพสูง น้ำตาล เนื้อไก่และสุกร โดยคาดว่าจะลงนามกันได้ในเดือน มิ.ย.นี้
สคต.มะนิลามีความเห็นว่า การส่งออกข้าวให้กับฟิลิปปินส์ปีนี้จะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการขายข้าวในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล นอกจากจะต้องกำหนดราคาให้สามารถแข่งขันกับเวียดนามและกัมพูชาให้ได้แล้ว ยังต้องมีข้าวอยู่ในสต๊อกเพื่อให้พร้อมส่งให้ฟิลิปปินส์ได้เร็วที่สุดอีกด้วย หากฟิลิปปินส์นำเข้าข้าวจากกัมพูชา ๑๐๐,๐๐๐ ตันในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาลจะเหลือโควตาที่ไทยกับเวียดนามต้องแข่งขันกันอีกแค่ ๒๐,๐๐๐ ตัน ส่วนที่เหลืออีก ๓๘๐,๐๐๐ ตันที่ฟิลิปปินส์คัดเลือกผู้ผ่านคุณสมบัติขั้นต้นไว้แล้วนั้น ควรที่จะประชาสัมพันธ์ให้ผู้ค้าข้าวไทยติดต่อเจรจาขายโดยตรงต่อไป
----------------------------------------
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา
๑๗ เมษายน ๒๕๕๕