ปลาสวยงามในตลาดออสเตรีย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 20, 2012 15:08 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ปลาสวยงามในตลาดออสเตรีย

ในประเทศออสเตรียปลาสวยงามเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภค นอกจากสัตว์ที่ได้รับความนิยมอื่นๆ ได้แก่ สุนัข แมว นก หรือประเภทสัตว์เลื้อยคลาน โดยในปี 2554 ปลาสวยงามมีจำนวนทั้งสิ้น 1,866 ตัว อัตราการเติบโต ร้อยละ 2.4 มากกว่าสุนัขซึ่งเติบโตเพียงร้อยละ 0.3 และแมว ร้อยละ 0.7 ทั้งนี้ในออสเตรียมีผู้ขายส่ง 3 ราย และมีผู้ค้ารายย่อย 280 รายโดยร้านที่มีชื่อเสียงที่สุด ได้แก่ Fressnapf มีร้านในเครือ 104 สาขา มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 60 และบริษัทฯ ตั้งเป้าจะขยายสาขาครอบคลุมให้ได้ 120 สาขาทั่วประเทศในปี 2555

ขณะนี้การนำเข้าปลาสวยงามมายังออสเตรีย ได้มีการเปลี่ยนรูปแบบ จากเดิมผู้นำเข้ารายย่อยจะนำเข้าโดยตรงจากต่างประเทศ แต่เนื่องจากมีปัญหาข้อปลีกย่อยในเรื่องการจัดเตรียมเอกสารการนำเข้า หรือค่าใช้จ่ายต่างๆไม่คุ้มทุน ดังนั้นผู้นำเข้ารายย่อยจึงหันไปซื้อจากบริษัทใหญ่ๆที่มีหลายสาขาแทน

ผู้จำหน่ายปลีก

ผู้ค้าปลาสวยงามมีหลายรูปแบบ มีทั้งรายเล็กซึ่งอาจมีแค่ตู้ปลาเพียง 2-3 ตู้ จำหน่ายปลาตู้ตัวเล็กๆ สีสันหลากหลาย หรือปลาที่คนนิยมเลี้ยงทั่วไป ไปจนถึงผู้ค้ามืออาชีพที่ขายเฉพาะปลาทะเลที่หายาก และมักมีปลาน้ำลึก ไว้จำหน่ายด้วย นอกจากนั้นยังมีกลุ่มที่อยู่ในระหว่าง 2 กลุ่มนี้ โดยกลุ่มที่มีร้านในเครือจะเป็นที่นิยมกว่า นอกจากนั้นยังมีกลุ่มที่จำหน่ายปลาสวยงามในร้าน ร่วมกับการจำหน่ายสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เช่น ผู้ค้าสัตว์เลี้ยงทั่วไป บริษัทตกแต่งสวน จัดสระน้ำ บริษัทจัดบ้าน โดยกลุ่มเหล่านี้ไม่ได้จัดเข้าในประเภทผู้ค้าปลาสวยงาม อย่างไรก็ตามแนวโน้มธุรกิจการค้าปลาสวยงาม ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเชื่อมโยงลูกค้ากับผู้ผลิต หรือการจัดเก็บสินค้า

การนำเข้าสินค้าปลาสวยงาม

ประเทศสิงคโปร์ถือว่าเป็นศูนย์กลางการนำเข้าและส่งออกปลาสวยงามที่ใหญ่ที่สุดประเทศหนึ่ง โดยนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย อินโดนิเซีย ผ่านกรุงเทพฯ และเข้าไปในยุโรปที่มิวนิค สาธารณรัฐเยอรมัน โดยใช้ขนส่งจากประเทศไทยจนถึงมือผู้นำเข้าที่ปลายทาง ประมาณ 36 ชั่วโมงโดยปลาสวยงามที่ใช้ขนส่งจะต้องมีอุปกรณ์ที่จะทำให้ปลาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เช่น ถังน้ำเครื่องบรรจุอากาศ และอุปกรณ์ให้แสงสว่าง เป็นต้น นอกจากนี้มีการนำเข้าจากผู้เลี้ยงในประเทศ สโลวะเกีย หรือประเทศในยุโรปตะวันออก รวมถึงรัสเซีย สำหรับประเทศไทยมีผู้เลี้ยงประมาณ 50 ราย รวมทั้งมีการจับจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติด้วย

สถิติการนำเข้าปลาสวยงามของประเทศออสเตรีย ระหว่างปี 2552-2554 (ล้านเหรียญสหรัฐฯ) แยกตามรายประเทศ
                               Value in Mio USD    % Share    % Change
Rank     Country           2009     2010    2011      2011    - 11/10 -
1   Germany                1,90     1,91    2,44      59,1       28,0
2   Czech Republic         0,98     0,94    1,06      25,6       12,0
3   Thailand               0,21     0,20    0,15       3,8      -22,8
4   Indonesia              0,14     0,15    0,12       3,0      -15,0
5   Slovakia               0,01     0,02    0,06       1,5      195,6
6   Sri Lanka              0,10     0,12    0,04       1,1      -63,4
7   Singapore              0,01     0,09    0,04       1,0      -52,6
8   Taiwan                 0,01     0,00    0,03       0,7    2.479,2
9   Colombia               0,04     0,02    0,02       0,6        4,8
10 Philippines             0,02     0,02    0,02       0,5        2,6
17 Vietnam                 0,00     0,00    0,01       0,2        0,0
19 Malaysia                0,09     0,06    0,01       0,2      -89,8
Total                      4,18     4,50    4,13     100,0       -8,3
Source of Data: Eurostat

สถิติการส่งออกของปลาสวยงามของประเทศไทยไปทั่วโลก
                             Value in Mio USD   % Share     % Change
Rank     Country         2009    2010     2011     2011      -11/10-
1   Hong Kong            2,60    2,39   3,47       15,6        45,3
2   United States        2,47    2,71   3,00       13,5        10,5
3   Singapore            1,66    2,38   2,06        9,3       -13,4
4   Taiwan               1,63    1,47   2,02        9,1        37,7
5   China                0,61    1,22   1,54        6,9        25,7
6   Iran                 1,01    1,14   1,18        5,3         4,0
7   Japan                1,31    0,67   0,69        3,1         2,5
8   Russia               0,49    0,46   0,68        3,1        49,2
9   Turkey               0,20    0,40   0,67        3,0        69,3
10  Korea, South         0,36    0,41   0,59        2,7        46,3
35  Austria              0,06    0,04   0,08        0,3        92,4
Total                   18,13   18,73  22,22      100,0        18,7
Source of Data: Thai Customs Department

อัตราภาษีการนำเข้าปลาสวยงามในประเทศออสเตรีย
          อัตราภาษีนำเข้าปลาสวยงามเข้ามาในประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป อยู่ระหว่างร้อยละ 0-16 ทั้งนี้เมื่อผู้ส่งออกต้องการส่งสินค้าควรจะเข้าไปตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่ www.exporthelp.europa.eu สำหรับเอกสารที่จะต้องยื่นเมื่อต้องการส่งออกไปในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป ได้แก่ commercial invoice, Freight document, packing list, customs value declaration, freight insurance และ single administration document (SAD)*

กฎระเบียบการนำเข้า
          ในระยะที่ผ่านมาได้มีการออกกฎระเบียบเพิ่มเติมสำหรับสินค้าปลาสวยงาม เพื่อเป็นการคุ้มครองสายพันธุ์ และปลาที่นำมาเลี้ยง ตลอดจนเพื่อสุขภาพของสัตว์ ได้แก่ ระเบียบศุลกากร ระเบียบด้านความปลอดภัยของสัตว์ และระเบียบด้านสุขภาพของสัตว์  ทั้งนี้ระเบียบศุลกากรถือว่าเป็นกฎระเบียบระดับประเทศ เนื่องจากจะดำเนินการตรวจสอบทันทีที่สินค้าเดินทางถึงท่าเรือหรือท่าอากาศยานของประเทศแรกที่สินค้าจะเข้า ในกรณีที่มีการสำแดงเอกสารไม่ถูกต้อง ได้แก่ใบรับรองผิด บกพร่อง ไม่ได้ใช้ภาษาที่กำหนดไว้ หรือไม่มีใบรับรอง สินค้าจะถูกส่งกลับ
          สำหรับใบรับรองต่างๆที่สหภาพยุโรปต้องการ ได้แก่ ใบตรวจโรคและใบปลอดโรคของปลาสวยงามของประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิดของปลา และต้องเป็นประเทศที่ไม่ได้ถูกประกาศว่ามีการ ระบาดของไวรัสในปลา เช่น Spring viremia of carp (SVC), Koi herpesvirus (KHV) ซึ่งอาจมีการสุ่มตรวจสอบได้
          นอกจากนั้นยังข้อกำหนดสำหรับการส่งออกปลาสวยงามว่า ประเทศผู้ส่งออกจะต้องเป็นสมาชิก OIE ซึ่งได้แก่ องค์กรที่ให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพอนามัยสัตว์ และประเทศนั้นๆจะต้องมีเครื่องมือในการตรวจสอบโรคของปลา และในกรณีการส่งออกปลาน้ำลึก จะต้องเป็นประเทศที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่สหภาพยุโรปได้ขึ้นทะเบียนให้แล้ว ผู้สนใจเรื่องกฏระเบียบเพิ่มเติมสามารถหาข้อมูลได้ที่  http://www.ornamental-fish-int.org/uploads/Ic/jT/IcjTqiL33cuu8x_2oA_Mbw/Legislation.pdf

บรรจุภัณฑ์สำหรับปลาสวยงาม
          เพื่อเป็นการระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยในระหว่างการขนส่ง โดยทางอากาศ องค์กรการบินระหว่างประเทศ ได้กำหนดระเบียบว่าด้วยการขนส่งสัตว์มีชีวิต โดยได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุสินค้า การติดป้ายสินค้า การให้อาหารและน้ำระหว่างการขนส่ง โดยผู้ส่งออกต้องมีเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่ ทั้งนี้กฎระเบียบดังกล่าวจะปรับปรุงทุก 2 ปี โดยผู้ส่งออก สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ http://www.iata.org/ps/publications/Pages/live-animals.aspx)
          การขนส่งปลาสวยงามอยู่ภายใต้ข้อกำหนดสำหรับบรรจุภัณฑ์  ได้แก่ ปลาเงินปลาทอง หรือปลาจากเขตร้อน(tropical fish)คือContainer Requirements 51 และสำหรับปลาคราฟ ปลาขนาด 100 เซ็นติเมตร หรือฉลาม ขนาด 40-100 เซ็นติเมตร และปลาสเตอร์เจียน จะอยู่ภายใต้ Container Requirements 52

ข้อควรระวังในการบรรจุปลาสวยงามเพื่อการขนส่ง
          การบรรจุปลาเพื่อขนส่งจะต้องใส่ในถุงพลาสติก 2 ชั้น เพื่อกันการรั่ว แตก กรณีที่ปลามีครีบแหลมคม ควรมีกระดาษหลายๆชั้นห่อไว้ระหว่างถุงพลาสติก 2 ถุงด้วย ทั้งนี้ถุงพลาสติกจะต้องใส่ในกล่องโฟมกันความร้อน โดยให้ในถุง มีอัตราส่วนของน้ำ 1 ต่ออากาศออกซิเจน 2 ส่วน กรณีของปลาขนาดใหญ่ จะต้องให้มีปริมาณน้ำมากพอให้ท่วมตัวปลา บรรจุภัณฑ์จะต้องจัดทำด้วยความระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าปลาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดการเดินทาง 48 ชั่วโมง ทั้งนี้ภายนอกบรรจุภัณฑ์จะต้องระบุให้ชัดเจนว่าสินค้าภายในได้แก่ ปลามีชีวิต และด้านใดเป็นด้านตั้งขึ้น และอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับปลา เป็นต้น

การดำเนินธุรกิจในประเทศออสเตรีย
          ในประเทศออสเตรียไม่มีงานแสดงสินค้า โดยเฉพาะสำหรับสินค้าปลาสวยงาม ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการหรือผู้นำเข้าจะไปเข้าเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าในประเทศเยอรมัน ซึ่งงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดได้แก่ Interzoo ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในเดือนพฤษภาคม สำหรับในปีนี้จัดขึ้น ณ เมือง Nrnberg ในระหว่างวันที่ 17 - 20 พฤษภาคม 2555 ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.interzoo.com  ในปีนี้จะมีผู้ส่งออกของไทยเข้าร่วมงานได้แก่ บริษัท Siam Tropical Fish

สมาคมผู้ค้าปลาสวยงาม
          สมาคมที่สำคัญของผู้ค้าปลาสวยงามในออสเตรีย ได้แก่ sterreichischer Verband fr Vivaristik & kologie (VV) ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลด้านกิจกรรม และอื่นๆของสมาคมได้ที่  www.oevvoe.org อย่างไรก็ตามขณะนี้ข้อมูลดังกล่าวมีเฉพาะภาษาเยอรมันเท่านั้น


                                                                  สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา
                                                                                               พฤษภาคม 2555

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ