รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะการค้าประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีระหว่างวันที่ 1—15 มิถุนายน 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 23, 2009 12:31 —กรมส่งเสริมการส่งออก

1. หนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเยอรมันที่มีการตั้งงบเงินให้กู้รวมทั้งสิ้น 115,000 ล้านยูโร นั้นได้มีการยื่นคำร้องขอกู้แล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,400 ล้านยูโร โดยเป็นการขอกู้จากผู้ประกอบการแบบ SME 1,900 และกิจการขนาดใหญ่ 2,500 ล้านยูโร ในจำนวนนี้มี 20 คำร้องที่มีวงเงินเกิน 6,000 ล้านยูโร เหล่านี้ช่วยให้ผู้ประกอบการจำนวนมากสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้จนกว่าจะผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้ ทำให้ในช่วง 3 เดือนแรกปี 2552 นี้มีการปิดกิจการน้อยกว่าการก่อตั้งใหม่ กล่าวคือ มีการปิด/เลิกกิจการ 204,500 รายและก่อตั้งใหม่ 222,900 ราย อย่างไรก็ตาม กิจการอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะประเภท SME เห็นว่า การพิจารณาให้เงินกู้ยังไม่เป็นธรรมเท่าใดนัก เนื่องจากมีข้อแม้ความเคร่งครัดในการพิจารณาอนุมัติที่เข้มงวด รัดกุมมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้ที่จะต้องชำระสูงมาก ระหว่างร้อยละ 6 — 10 ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางอยู่ที่เพียงร้อยละ 1

2. หลายฝ่ายยังคงคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในปี 2552 นี้จะติดลบที่ประมาณร้อยละ 6 อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายยังคาดว่า ปัจจุบันการถดถอยของเศรษฐกิจน่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้วในอุตสาหกรรมหลายแขนง และเริ่มมีการผลิตเพิ่มมากขึ้นได้บ้างแล้ว โดยเฉพาะสินค้าอาหาร และเครื่องใช้ประจำวัน เพราะมีการจับจ่ายซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น สินค้าทุนหลายประเภทโดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาต่ำลง ส่งผลให้ดัชนีค่าครองชีพในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้านี้ เป็นอัตราที่ต่ำสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ยังคงไม่มีผลโดยตรงใดๆ กับเศรษฐกิจ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ใช้รถ ใช้ถนนต่างพยายามประหยัดการใช้น้ำมัน มีการใช้รถเท่าที่จำเป็นหรือใช้ร่วมกัน ตลอดจนถึงการใช้จักรยานแทน

3. ในด้านการค้าต่างประเทศ มูลค่าการส่งออกและนำเข้ายังคงมีอัตราลดน้อยลง โดยในเดือนเมษายน 2552 ที่ผ่านมา ส่งออกเป็นมูลค่า 63,800 และนำเข้ามูลค่า 54,400 ล้านยูโร เทียบกับปี 2551 เดือนเดียวกันมูลค่าลดลงร้อยละ 28.7 และ 22.9 ตามลำดับ หากเทียบกับเดือนมีนาคม 2552 มูลค่าลดลงร้อยละ 4.8 และ 5.8 ตามลำดับ สำหรับเดือนพฤษภาคม คาดว่าอัตราการลดลงไม่น่าจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในเดือนเมษายนปีก่อนหน้านี้มีการส่งออกและนำเข้าสินค้าเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ จึงทำให้ปีนี้ อัตราการลดลงสูงมาก ในด้านมูลค่าของการค้าสินค้าแปรรูป นั้น ในช่วง 4 เดือนแรกปี 2552 (ม.ค.-เม.ย.) มูลค่าลดลงร้อยละ 22.3 โดยการค้าในประเทศลดลงร้อยละ 17.9 และต่างประเทศลดลงร้อยละ 27.0

4. การลดชั่วโมงการทำงานยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน เพื่อป้องกันมิให้มีการแจ้งกิจการล้มละลาย ผู้ประกอบการที่มีปัญหาทางการเงินอันสืบเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจ และมีผลทำให้ขาดรายได้ หรือไม่ได้รับเงินค่าสินค้าจากลูกค้า เป็นต้น สามารถแจ้งขอลดชั่วโมงทำงานของคนงานในกิจการได้ โดยรัฐบาลเยอรมันจะเป็นผู้ชดเชยเงินค้าจ้างในส่วนที่ขาดหายไปสูงสุดร้อยละ 67 ของเงินค่าจ้างนาน 6 เดือนและได้มีการขยายเวลาการช่วยออกไปอีก 18 เดือนรวมเป็น 24 เดือน ตามมาตรการนี้นับจากเดือนตุลาคม 2551 — มีนาคม 2552 ได้มีผู้ประกอบการกว่า 20,000 รายแจ้งขอลดชั่วโมงทำงานของคนงานรวมทั้งสิ้น 2.15 ล้านคนแล้ว ทำให้รัฐบาลต้องเพิ่มรายจ่ายในส่วนนี้อีกไม่น้อยกว่า 2,500 ล้านยูโร ในทางหนึ่งมีส่วนดีทำให้กิจการจำนวนมากสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง แต่ในอีกทางหนึ่ง มีผู้ประกอบการจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ ไม่สมควรที่จะขอรับการช่วยเหลือนี้ เนื่องจากปัญหาของกิจการมิได้เกิดจากวิกฤตเศรษฐกิจ หรือมีการแจ้งเพื่อเป็นการประหยัดรายจ่ายของกิจการ และจะนำเงินไปใช้ในทางอื่นที่ไม่ตรงกับจุดประสงค์ของการนี้ แต่เนื่องจากจำนวนคำร้องที่มากทำให้เกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้นได้ และจะกลายเป็นหนี้สินของประเทศที่ไม่สมควรให้เกิดขึ้นได้ ทำให้ในที่สุดรัฐบาลเยอรมันจะต้องขึ้นภาษี ตลอดจนเพิ่มค่าธรรมเนียมต่างๆ เพื่อชดเชยเงินส่วนนี้ที่ขาดหายไป

5. ปี 2552 เป็นปีแห่งการเลือกตั้งของเยอรมนี เนื่องจากเยอรมนีเป็นประเทศที่ประกอบด้วยแคว้นต่างๆ รวม 16 แคว้น ซึ่งแต่ละแคว้นจะมีอิสระในการบริหารแคว้นของตนเอง ต่างมีสภาผู้แทนราษฎร กระทรวง หน่วยงานต่างๆ สามารถออกกฏหมาย ระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ เพื่อใช้ในการบริหารแคว้นได้เอง แต่ทั้งนี้ต้องไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญกลางของประเทศ ทำให้ในเยอรมนีจะมีการเลือกตั้งในระดับแคว้น ระดับท้องถิ่นกันบ่อยครั้งมาก ซึ่งในปี 2552 จะมีการเลือกตั้งกว่า 15 ครั้ง ได้แก่ การเลือกตั้งสภายุโรป สภาผู้แทนฯ ของแคว้นต่างๆ 4 แคว้น การเลือกตั้งของท้องถิ่น 8 แห่ง และที่สำคัญ คือ การเลือกตั้งสภาฯ ของประเทศที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 กันยายน นี้ การให้คำมั่นสัญญาต่างๆ ที่พรรคการเมืองต่างคิดว่าดี เหมาะสมและเป็นที่ต้องการของประชาชน นั้น ประชาชนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงส่วนใหญ่กลับเห็นว่า เป็นการหาเสียงเพื่อให้ได้รับเลือกเท่านั้น ท้ายที่สุดก็จะไม่รักษาคำมั่นสัญญาต่างๆ ที่ให้ไว้ เหล่านี้ จึงส่งผลให้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา จำนวนผู้ที่ไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งจึงลดน้อยลงมาโดยตลอด ล่าสุดในการเลือกตั้งสภายุโรปในเยอรมนี มีสัดส่วนผู้ไปออกเสียงเลือกตั้งเพียงร้อยละ 43 ของจำนวนผู้มีสิทธิ์ฯ ทั้งสิ้น (26.9 จากจำนวนทั้งสิ้น 62.2 ล้านคน) โดยมีพรรคการเมืองได้คะแนนเสียง ดังนี้

พรรคการเมือง                   จำนวนเสียง     สัดส่วน %     เพิ่มลด %
CDU  - EVP-ED                 8.069.983       30.7        -5.9
SPD — SPE                     5.471.703       20.8        -0.7
GRUNE - Grune-EFA             3.193.821       12.1         0.2
FDP - ALDE                    2.887.331       11.0         4.9
DIE LINKE - GUE-NGL           1.968.325        7.5         1.4
CSU - EVP-ED                  1.896.777        7.2        -0.8

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ