นายกรัฐมนตรีพบปะชุมชนไทยในกรุงปักกิ่ง

ข่าวทั่วไป Sunday November 9, 2014 11:18 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีพบปะชุมชนไทยในกรุงปักกิ่ง ขอให้คนไทยน้อมนำหลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จักกิน รู้จักใช้ และการแบ่งปัน เช่นเดียวกับการขับเคลื่อนการบริหารประเทศด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา

วันนี้ ( 9 พฤศจิกายน 2557) เวลา 17.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพบปะชุมชนไทยในกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 22 พร้อมบุคคลระดับสูง ประกอบด้วยพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ณ ห้อง Versailles 3 โรงแรม Legendale สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้พบกับชุมชนไทยในจีน ทั้งที่เป็นนักธุรกิจที่เดินทางมาประกอบธุรกิจในกรุงปักกิ่ง และพื้นที่อื่น ๆ รวมถึงครอบครัว หรือคนไทยที่มาทำงานกับบริษัทของไทย ที่มีสำนักงานที่นี่ นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนนักเรียนไทยที่เดินทางมาศึกษาที่กรุงปักกิ่ง และพื้นที่ใกล้เคียงด้วย

สำหรับความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการเข้ามาเพื่อทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง มีเป้าหมายเพื่อสร้างความสุขให้แก่พี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ช่วงแรกเน้นการทำงานในการดูแลทุกข์สุขของประชาชนใน 3 ประการสำคัญ คือ สร้างความสงบเรียบร้อย การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการจัดระเบียบสังคม บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็ง

โดยการขับเคลื่อนการบริหารประเทศในระยะแรก มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ขณะนี้เป็นระยะที่สองตามแผนปฏิบัติการ มีการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามหลักสากล พร้อมขับเคลื่อนประเทศในทุกมิติทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และส่งเสริมค่านิยมวัฒนธรรมที่ดีของไทย รัฐบาลยึดมั่นหลักธรรมาภิบาลและสร้างประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ปัจจุบันหลายประเทศเข้าใจพัฒนาการสถานการณ์ภายในไทยดีขึ้น และยินดีที่เห็นประเทศไทยมีเสถียรภาพ จากการพบปะนักธุรกิจนักลงทุนต่างประเทศ ต่างยืนยันที่จะเดินหน้าลงทุนในประเทศไทย

อย่างไรก็ตามรัฐบาลมีหน้าที่ที่จะต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อทำให้ไทยสามารถหลุดพ้นกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ขจัดความเหลื่อมล้ำ ประเทศไทยต้องปรับตัว จากการที่ประเทศมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงขึ้นและจะถูกตัดสิทธิพิเศษทางการค้า รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจรอบด้าน ทั้งการจัดระเบียบแรงงาน การปรับกฎระเบียบที่ทันสมัย เปิดโอกาสให้ทุกคนในสังคมมีส่วนร่วมในการเติบโตของประเทศที่เป็นธรรมและยั่งยืน

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงการพบปะหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีจีนและประธานาธิบดีจีน ในโอกาสเดินทางเยือนจีน เพื่อเข้าร่วมการประชุมเอเปค 2014 ว่า ได้ชื่นชมความสัมพันธ์และอยากจะเดินทางมาประเทศไทย สำหรับความร่วมมือในด้านต่างๆ นั้น จีนพร้อมช่วยนำเข้าสินค้าเกษตรของไทย ขณะที่ไทยในฐานะเป็นประเทศเกษตรกรรม ต้องส่งเสริมสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ส่งเสริมการบริโภคสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวไทย ที่มีคุณภาพและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ขณะเดียวกันต้องลดต้นทุนการผลิต ค่าเช่านา ค่าปุ๋ย อย่างไรก็ตามไทยไม่สามารถเดินหน้าพัฒนาประเทศได้ตามลำพัง จะต้องสร้างไทยเข้มแข็ง เพื่ออาเซียนเข้มแข็งและส่งเสริมความร่วมมืออาเซียน-จีน รวมทั้งการสร้างความเชื่อมโยง ไทยจะต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการรวมตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียนในปีหน้า

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการศึกษา เน้นการพัฒนาศักยภาพของประชากร ให้นักเรียนนักศึกษาไทยเมื่อจบการศึกษาแล้ว สามารถประกอบอาชีพ โดยพัฒนาหลักสูตร เพิ่มทักษะให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน พัฒนาความสามารถด้านภาษา โดยเริ่มการพัฒนาตั้งแต่ระดับต้นจนถึงอุดมศึกษา รวมทั้งการพัฒนาสายอาชีพ อาชีวะ

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีขอให้คนไทยน้อมนำหลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จักกิน รู้จักใช้ และการแบ่งปัน เช่นเดียวกับการขับเคลื่อนการบริหารประเทศด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา

กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ