นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยผลการประชุมติดตามความก้าวหน้าการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมวานนี้(3 ก.ค.)ว่า นายกรัฐมนตรีจะเข้าประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าแผนบริหารจัดการน้ำในวันพฤหัสบดีทุกสัปดาห์ รวมทั้งหากเกิดปัญหาจะได้ลงพื้นที่แก้ไขได้
นอกจากนี้ที่ประชุมยังสรุปผลการดำเนินการที่ผ่านมา พบว่า สิ่งที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วประกอบด้วย ฝายต้นน้ำ 2,000 แห่ง, พื้นที่รับน้ำ 2.1 ล้านไร่ รับน้ำได้ 5 พันล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีการประกาศให้ประชาชนรับทราบแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนเรื่องเงินเยียวยาชดเชย, การพร่องน้ำในเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ สามารถรับน้ำได้ 5 พันล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะดำเนินการพร่องน้ำจนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีพายุเข้าแล้วจึงจะกักเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับช่วงหน้าแล้ง, ประตูระบายน้ำหลักที่เสียหายได้ทำการซ่อมแซมเสร็จแล้ว, แนวคันดินริมแม่น้ำ ลำคลอง ทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา, การเสริมความสูงถนนเป็นแนวปิดล้อมพื้นที่สำคัญระยะทาง 500 กิโลเมตร และเสริมความยาวคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริ โดยทั้งสองส่วนนี้ผู้รับเหมาจำนวน 120 รายจะเข้าดำเนินการในวันที่ 7 ก.ค. ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ
สำหรับสิ่งที่อยู่ระหว่างกำลังดำเนินการ ประกอบด้วย คลังข้อมูล, กล้องวงจรปิดและโทรมาตร, การขยายแนวคลองลัดของแม่น้ำท่าจีน 2 จุด และจัดระเบียบการบริหารจัดการอัตราการไหลของน้ำให้เป็นรายวัน
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ยังมีสิ่งที่ต้องติดตามในแผนบริหารจัดการน้ำ คือ การเชื่อมต่อระบบเตือนภัยระหว่างหน่วยงานต่างๆ, การแก้ปัญหาจุดบอดการระบายน้ำ เช่น ระบบ siphon ผ่านคลอง ทางรถไฟ จุดลำน้ำผ่านเมือง, การติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ และการบริหารจัดการแบบ Single Command Center
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ล่าช้า คือการปลูกหญ้าแฝกกันดินพัง, การขุดคลองขนาดเล็กในกรุงเทพมหานคร, การแก้ปัญหาบุกรุกลำคลองสาธารณะ และการขุดลอกแหล่งน้ำสาธารณในพื้นที่ต้นน้ำ ซึ่งตามแผนเดิมกำหนดแล้วเสร็จในเดือนมิ.ย. แต่ตอนนี้เลื่อนเป็นก.คง แต่ทั้งนี้ที่ประชุมมีการกำชับว่าโครงการที่ล่าช้าทั้งหมดจะต้องดำเนินการให้เสร็จทันก่อนน้ำมา