In Focusทำความรู้จัก “เผิง ลี่หยวน” ขวัญใจมหาชนผู้ก้าวสู่บทบาทสตรีหมายเลขหนึ่ง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday March 27, 2013 17:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เดือนมีนาคมถือเป็นเดือนที่มีความสำคัญต่อสตรี เนื่องจากในวันที่ 8 มีนาคมของทุกปีเป็นวัน “สตรีสากล” ซึ่งได้รับการสถาปนาขึ้นเพื่อรำลึกถึงการต่อสู้ของสตรีในประวัติศาสตร์โลก In Focus ประจำสัปดาห์นี้จึงของปิดท้ายเดือนมีนาคมด้วยเรื่องราวของสตรีผู้หนึ่งซึ่งกำลังเป็นที่จับตาในระดับโลกอยู่ในขณะนี้

ในช่วงระยะเวลาหลายปีมานี้ เราเริ่มเห็นการยอมรับสตรีในขอบเขตที่ใหญ่ขึ้น บางประเทศเริ่มมีสตรีนั่งในตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของประเทศเป็นครั้งแรก อย่างเช่นล่าสุดในเกาหลีใต้ แต่ประเด็นที่เราพูดถึงในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องสตรีผู้บริหารประเทศ แต่เป็นสตรีผู้อยู่เคียงบ่าเคียงไหลผู้นำประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนที่ระยะหลังไม่ค่อยปรากฏบทบาทของสตรีกลุ่มนี้ผ่านสื่อมากนัก

แต่ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในการเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกของประธานาธิบดีคนใหม่ของจีน “สี จิ้นผิง” ผู้ที่สร้างความตกตะลึงให้แก่สื่อมวลชนที่เฝ้ารอทำข่าวและประชาชนทั่วโลก กลับไม่ใช่ตัวประธานาธิบดี แต่เป็นผู้ปรากฏกายอยู่ข้างกัน นั่นคือ “เผิง ลี่หยวน” สตรีหมายเลขหนึ่งของจีน ภริยาของประธานาธิบดีสี เธอปรากฏกายเคียงข้างสามีที่สนามบินใกล้กรุงมอสโก ด้วยภาพลักษณ์ที่สวยสง่า แต่งกายด้วยเสื้อโค้ทสีดำทรงนิยมของประเทศ บนใบหน้าแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มอันแสนอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง ภาพลักษณ์ของคุณนายเผิงที่ไม่ค่อยปรากฏในสตรีหมายเลขหนึ่งคนก่อนๆ ได้สร้างความโดดเด่นให้แก่เธอ และทำให้เธอเป็นที่จดจำทั้งในประเทศจีนและขยายวงไปสู่ระดับโลก

“เผิง ลี่หยวน” ขวัญใจมหาชนทั้งประเทศ

หากพูดถึงชื่อนี้ เชื่อว่าชาวจีนหลายคนไม่ได้นึกถึงบทบาทการเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของเธอ เพราะก่อนหน้านั้นเธอเป็นที่รู้จักในประเทศอย่างกว้างขวางในฐานะนักร้องผู้ร้องเพลงปลุกใจให้แก่กองทัพ และผู้แสดงในรายการดังของช่องซีซีทีวีในคืนก่อนเปิดศักราชใหม่ของจีนติดต่อกันมาหลายปี

เผิง ลี่หยวน เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2505 ที่อำเภอยุ่นเฉิง มณฑลซานตง บิดาของเธอเป็นผู้อำนวยการหอวัฒธรรมประจำอำเภอ มารดาเป็นนักแสดงหลักของคณะนาฏศิลป์ประจำอำเภอ จากภูมิหลังครอบครัวของเธอ จึงทำให้เผิงมีโอกาสติดตามครอบครัวไปชมการแสดงต่างๆ ส่วนตัวเธอเองนั้นมีพรสววรค์ในการร้องเพลงแต่กำเนิด ทำให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะซานตงได้ตั้งแต่อายุ 14 ปี และต่อมาได้เข้าร่วมกองทัพปลดแอกประชาชนจีนในปี 2523 ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 18 ปี และด้วยความสามารถทางการร้องเพลงของเธอ จึงทำให้เธอก้าวขึ้นมาทำหน้านี้ร้องเพลงเพื่อปลุกขวัญกำลังใจในกองทัพ

ปี 2525 เผิง ลี่หยวน ได้มีโอกาสเข้าร่วมแสดงในรายการฉลองตรุษจีนในคืนส่งท้ายปีเก่าทางช่องโทรทัศน์ซีซีทีวี โดยเธอได้ขับร้อง 2 เพลงได้แก่ “บนท้องทุ่งแห่งความหวัง” และ “ฉันรักเธอ หิมะชายแดน” ซึ่งชนะใจผู้ฟังชาวจีนทั่วประเทศอย่างท่วมท้น การเข้าร่วมการแสดงในครั้งนั้น ถือเป็นใบเบิกทางสู่การเป็น "คนของประชาชน" ในระดับประเทศ และจากนั้นเธอก็ได้กลายเป็นดาราประจำของรายการนี้ในคืนส่งท้ายปีเก่าของซีซีทีวีมาเกือบตลอดทุกปี แนวเพลงของเผิงจะเป็นเพลงพื้นบ้านที่ให้แนวคิดเกี่ยวกับชาติพันธุ์ และชีวิตในชนบทของจีน ในปี 2528 เธอเข้าเรียนในสถาบันดนตรีแห่งประเทศจีนที่กรุงปักกิ่ง และจบการศึกษาระดับปริญญาโทในปี 2533

การแต่งงาน: เส้นทางสู่ความพลิกผัน

การบรรจบกันระหว่างสี จิ้นผิง และเผิง ลี่หยวนเกิดขึ้นในปี 2529 เมื่อเพื่อนของทั้งคู่แนะนำให้รู้จักกัน ในขณะนั้น สี จิ้นผิง เป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองเซียเหมิน มลฑลฟูเจี้ยน และมีอายุมากกว่าเผิง 9 ปี หลังคบหาดูใจแล้ว ทั้งคู่ได้แต่งงานกันวันที่ 1 กันยายน 2530 อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ค่อนข้างแยกกันอยู่หลังสมรส โดยเผิงใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในกรุงปังกิ่ง ส่วนสีอยู่ในมณฑลฟูเจี้ยน และต่อมาย้ายไปอยู่ในมณฑลเจ้อเจียง ทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน ชื่อสี หมิงเจ๋อ เกิดในปี 2535 ปัจจุบันกำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด

บทบาทการเป็นนักร้องของเผิง หลี่หยวนยังดำเนินไปทั้งในและต่างประเทศ เธอเคยเดินทางไปแสดงในต่างแดนกว่า 50 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐและแคนาดา ซึ่งเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมจีนด้านละครเพลงและการขับร้องออกสู่สายตาชาวโลก ในขณะเดียวกันเธอยังเข้าร่วมการแสดงในรายการคือส่งท้ายปีเก่าของซีซีทีวีมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม การเป็นนักร้องของเธอเริ่มเพลาลงในปี 2551 เมื่อสี จิ้งผินได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองประธานาธิบดีจีน และกลายเป็นธรรมเนียมของประเทศนี้ที่ภริยาของผู้บริหารระดับประเทศจะต้องเก็บตัว ไม่ออกมามีบทบาทใดๆทางการเมือง แต่ระยะหลังเธอเริ่มบทบาทด้านสังคม โดยได้ร่วมเป็นอาสาสมัครครั้งเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในปี 2551 ที่มณฑลเสฉวน และปี 2554 เผิงได้เป็นทูตสันถวไมตรี เพื่อต่อต้านวัณโรค เชื้อไวรัสเอชไอวีและโรคเอดส์ขององค์การอนามัยโลก

กลับสู่แสงสปอตไลท์ ในฐานะสตรีหมายเลขหนึ่ง

การปรากฏตัวของเธอในการเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสี ถือเป็นบทบาทของสตรีหมายเลขหนึ่งของจีนที่ไม่ค่อยปรากฏสู่สาธารณะเท่าใดนัก ที่ผ่านมาสตรีหมายเลขหนึ่งในอดีตจะไม่ค่อยเปิดเผยตัวต่อสังคม หรือออกงานพร้อมสามี รวมทั้งการเดินทางเยือนต่างประเทศร่วมกัน จึงทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าการออกมาปรากฏตัวของเผิงเคียงข้างประธานาธิบดีสีในครั้งนี้มีนัยสำคัญหรือไม่

ในแง่การแสดงอำนาจ หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า การปรากฏตัวของเผิงอาจเป็นการแสดงอำนาจแบบอ่อน (Soft power) หรือเป็นสัญลักษณ์ทางการทูต เพราะด้วยความคุ้นเคยกับบทบาทการเป็นนักร้อง จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอในการเลือกวางตัวที่ทำให้สาธารณชนประทับใจ ประกอบกับระยะหลังจีนเร่งผลักดันกระบวนสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ซึ่งรวมไปถึงการจัดตั้งสมาคมการทูตสาธารณะโดยรัฐบาลกลางจีน จึงเป็นไปได้ว่าการปรากฏตัวของเธออาจเกี่ยวข้องกับประเด็นนี้

แต่ก็มีบางกระแสคาดการณ์ว่า ด้วยระยะหลังความนิยมในคณะผู้บริหารประเทศเริ่มเสื่อมถอยลงจากปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น การที่เผิงออกงานร่วมกับประธานาธิบดีอาจช่วยโกยความนิยมให้ท่านผู้นำ จากความโด่งดังของเธอที่กระจายไปทั่วทั้งประเทศ

จะหนีเงาอดีตหรือจมอยู่ต่อไป?

ถึงแม้ว่าการปรากฏตัวของเผิงจะเป็นการสร้างความฮือฮาและเรียกความสนใจจากคนทั่วโลก แต่ไม่มีอะไรการันตีว่าเราจะได้เห็นการปรากฏตัวในที่สาธารณะของเธอจนเป็นภาพชินตา เพราะประชาชนจีนยุคปัจจุบันยังคงติดตากับวีรกรรมของนางเจียง ชิง ภริยาประธานเหมา เจ๋อตุง ในสมัยปฏิวัติวัฒนธรรมในปี 2509-2519 เพื่อล้มล้างแนวคิดทุนนิยมซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่าแสนคน จากนั้นเป็นต้นมาจึงเกิดธรรมเนียมว่าภริยาผู้นำจีนจะต้องเก็บตัวและไม่มีบทบาททางการเมือง เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยในอดีต


แท็ก In Focus:  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ