นายแอนโทนี เลค ผู้อำนวยการบริหารยูนิเซฟ ให้คำมั่นว่า จะช่วยเหลือเด็กๆที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่น ขณะเดียวกันก็แสดงความหวังว่าญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือผู้ยากไร้ทั่วโลกต่อไป
นายเลคซึ่งเดินทางไปร่วมการประชุมนานาชาติว่าด้วยการลดความยากจนที่กรุงโตเกียว รวมถึงตรวจสอบพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเกียวโดว่า ยูนิเซฟตัดสินใจว่าจะให้ความช่วยเหลือญี่ปุ่นแม้จะเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่เจริญแล้ว ส่วนหนึ่งก็เพื่อตอกย้ำ "ความสัมพันธ์แบบสองทาง"
อดีตทูตสหรัฐวัย 72 ปี กล่าวถึงความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างญี่ปุ่นและยูนิเซฟว่า ยูนิเซฟเคยให้นมผงแก่เด็กญี่ปุ่นเป็นเวลานาน 15 ปี นับตั้งแต่ปี 2492 ในช่วงที่ญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และญี่ปุ่นก็เริ่มให้ความช่วยเหลือเด็กในเกาหลีใต้และประเทศอื่นๆนับตั้งแต่ปี 2493
"เราช่วยเหลือกันมาตั้งแต่ปี 2492 และสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้เปิดโอกาสให้ยูนิเซฟได้ตอกย้ำความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน" นายเลคกล่าว "เรายินดีและภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ช่วยเหลือญี่ปุ่น"
เขากล่าวว่า คณะกรรมาธิการระหว่างประเทศของยูนิเซฟในญี่ปุ่นและในต่างประเทศ สามารถระดมทุนได้แล้ว 30 ล้านดอลลาร์ เพื่อบริจาคให้กับเด็กที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ และคณะกรรมาธิการญี่ปุ่นของยูนิเซฟได้นำน้ำดื่ม เสื้อผ้าเด็ก เครื่องเขียน หนังสือ และอุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ ไปมอบให้เด็กในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้ว
สำหรับการเยียวยาบาดแผลทางจิตใจของเด็กที่รอดชีวิตจากภัยพิบัตินั้น ทางคณะกรรมาธิการญี่ปุ่นของยูนิเซฟได้ส่งหนังสือภาพ 100,000 เล่มที่รับบริจาคมาจากทั่วญี่ปุ่นไปให้เด็กเหล่านั้น นอกจากนั้นยังพาเด็กก่อนวัยเรียนในฟูกุชิม่า มิยากิ และอิวาเตะ ประมาณ 2,500 คน นั่งรถบัสไปทัศนศึกษาใกล้ๆ เพื่อให้เด็กๆผ่อนคลายจากความหวาดกลัวสารกัมมันตรังสีและภัยพิบัติ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน