เลือกตั้ง'54: พธม.ยื่นกกต.ยุบ"พท.-ปชป.-ภท.-ชทพ.-ชพผ."ผิดกม.เลือกตั้ง

ข่าวการเมือง Friday July 1, 2011 18:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประพันธ์ คูณมี แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือต่อนายทะบียนพรรคการเมืองและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน

เนื่องจากทั้งพรรคการเมืองทั้ง 5 มีนโยบายหาเสียงและโฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนเลือกเป็นส.ส.ซึ่งพรรคการเมืองดังกล่าวได้ดำเนินการที่กระทำผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 53 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่นหรือพรรคการเมืองใด หรืองดเว้นการลงคะแนนแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดด้วยวิธีการ คือ จัดทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นตัวเงินได้ และให้เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม แก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถาบันการศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด

นายประพันธ์ กล่าวว่า ทุกพรรคมีคำมั่นสัญญาเป็นตัวเงินชัดเจนไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทยที่มีนโยบายหาเสียงลดภาษีนิติบุคคล พักหนี้ กองทุนหมู่บ้านเพิ่มทุกตำบลๆ ละ 1 แสนบาท ปรับเงินเดือนข้าราชการและรัฐวิสาหกิจฯ ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายหาเสียงด้วยการตรึงน้ำมันดีเซล ตรึงก๊าซหุงต้ม รักษาฟรี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เรียนฟรี พรรคภูมิใจไทย มีนโยบายหาเสียง ล้างหนี้กองทุนหมู่บ้าน ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม ฯ พรรคชาติไทยพัฒนา มีนโยบายหาเสียง เพิ่มรายได้คนไทย 2 เท่าใน 5 ปี ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ฯ และพรรคชาตีพัฒนา มีนโยบายหาเสียง เพิ่มจัดสรรรายได้องค์กรปกครองท้องถิ่น ค่าแรงขั้นต่ำ

“เห็นได้ชัดเจนว่า เป็นนโยบายที่เสนอให้เป็นตัวเงินชัดเจน เป็นการเฉพาะหน้าในช่วงเลือกตั้ง ที่มุ่งเสนอผลประโยชน์ให้กับประชาชนเพื่อจูงใจให้เลือก ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย และยังกระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 68,237 และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 53 (1),(2),137,159,160 นอกจากนี้ยังเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 4,94((1),(2),(3)หัวหน้าพรรคและกรรมการพรรคจึงต้องรับโทษตามมาตรา 116 ทั้งนี้ก็ขึ้น กกต.ว่าวินิจฉัยอย่างไร เพื่อจะได้เป็นบรรทัดฐานต่อไป ส่วนกรณที่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งเวทีหาเสียงที่บริเวณณลานพระบรมรูปทรงม้านั้นถือว่าผิดประกาศของกทม.ที่ห้าม เนื่องจากเป็นเขตพระราชทาน กกต.ต้องเข้าไปตรวจสอบด้วย"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ