เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 เปิดทางให้การออกเสียงประชามติตรงกับวันเลือกตั้งได้ เพื่อลดภาระให้กับประชาชน
เหตุผลและความจำเป็นในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 ไม่ได้กำหนดให้วันออกเสียงสามารถกำหนดเป็นวันเดียวกับวันเลือกตั้ง สส.กรณีการเลือกตั้งทั่วไป หรือวันเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือวันเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นได้ ทำให้ต้องกำหนดวันออกเสียงประชามติเสียงแยกต่างหากจากวันเลือกตั้งทั้งที่อาจอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เป็นการเพิ่มภาระงานและงประมาณแผ่นดิน อีกทั้งเป็นภาระกับประชาชนที่ต้องมาใช้สิทธิออกเสียงหลายครั้ง
ดังนั้น การออก พ.ร.บ.ฉบับนี้จึงเปิดทางให้สามารถกำหนดให้วันออกเสียงประชามติเป็นวันเดียวกับวันเลือกตั้งได้ โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินการนั้นให้คณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หารือร่วมกัน
นอกจากนี้ วิธีการออกเสียงเดิมกำหนดให้ทำโดยบัตรออกเสียงเป็นหลัก ส่วนวิธีอื่นเป็นเพียงทางเลือกที่ กกต.อาจกำหนดให้มีได้ จึงควรกำหนดวิธีการออกเสียงให้ทำได้หลายวิธีตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กกต.กำหนดเพื่อความสะดวกของประชาชนผู้มาใช้สิทธิ
และยังแก้ไขในเรื่องผลการออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติ ให้ใช้เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียง ซึ่งจะต้องสูงกว่าคะแนนเสียงไม่แสดงความคิดเห็น รวมถึงการจัดทำและเผยแพรข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่จะออกเสียงต้องไม่มีลักษณะเป็นการชี้นำให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ หรือลงคะแนนออกเสียงทางโดทางหนึ่ง
เมื่อประกาศกำหนดวันออกเสียงประชามติแล้ว ให้ กกต.เผยแพร่กระบวนการและขั้นตอนการออกเสียงให้ผู้มีสิทธิได้รับทราบอย่างทั่วถึง และจัดให้มีการแสดงความคิดเห็นโดยอิสระและรอบด้านเท่าเทียมกัน ทั้งผู้ที่เห็นชอบ ไม่เห็นชอบ หรือมีความเห็นทางใดทางหนึ่ง รวมทั้งกำหนดให้เขตการออกเสียง หน่วยออกเสียง และที่ออกเสียงให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ กกต.กำหนด
ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ แก้ไขในรายละเอียดสำคัญ อาทิ ข้อกำหนดเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติที่มีกรอบระยะเวลาไม่เร็วกว่า 90 วัน แต่ไม่ช้ากว่า 120 วัน หากช่วงการทำประชามติใกล้เคียงกับมีการเลือกตั้งสส. เลือกตั้งท้องถิ่น สามารถผ่อนปรนให้จัดในวันเดียวกันได้ พร้อมกำหนดช่วงเวลาทำประชามติ อยู่ในกรอบไม่เร็วกว่า 60 วัน และไม่ช้ากว่า 150 วัน คำถึงในความจำเป็นเกี่ยวกับการใช้งบประมาณหรือเหตุจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้