"เฉลิม"เรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องปัญหาทุจริตข้าว-ชี้แจงให้ปชช.เข้าใจ

ข่าวการเมือง Monday October 15, 2012 18:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้าว การเยียวยาฟื้นฟูและป้องกันสาธารณภัย และการใช้จ่ายเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความคืบหน้าในการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว

โดยได้เน้นย้ำการตรวจสอบการทุจริตในนโยบายจำนำข้าว โดยขอให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์ที่เกิดจากการเปิดประเด็นของพรรคฝ่ายค้านอย่างใกล้ชิดเพื่อชี้แจงให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ ทั้งนี้ พบว่ามีบริษัทส่งออกข้าวบางบริษัทที่เสียผลประโยชน์จากหนุนหลังพรรคการเมืองบางพรรคให้ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการนี้ หากกระทรวงพาณิชย์ชี้แจงความเป็นจริงได้จะช่วยให้รัฐบาลทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจในขั้นตอนการดำเนินงานในโครงการดังกล่าว

ด้านนางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกะทรวงพานิชย์ ชี้แจงว่า การทุจริตจำนำข้าวไม่สามารถทำได้โดยง่าย เพราะมีขั้นตอนในการตรวจสอบอย่างละเอียดตั้งแต่ก่อนการปลูกข้าว โดยมีตัวแทนเกษตรกร ตัวแทนสหกรณ์ประจำท้องที่ ธ.ก.ส. กำนันผู้ใหญ่บ้าน และอคส.เข้ามาตรวจสอบก่อนการออกใบรับรอง โดยข้าวจะถูกบันทึกบัญชีและแจ้งมายังศูนย์ข้อมูลของกระทรวง เพื่อให้ทราบข้อมูลที่มีการรับจำนำแต่ละวันเท่าใด

ส่วนตัวแทนของ ธกส. ยืนยันว่า มีเงินและขีดความสามารถเพียงพอที่จะดำเนินการตามสภาพคล่องของธนาคาร อย่างไรก็ดี ร.ต.อ.เฉลิม ได้สั่งการให้ อตก.และ อคส.เปิดคลังข้าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใส

ด้านนายเก่นเพชร ช่วงรังสี อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เสนอให้ใช้เครือข่ายระดับท้องถิ่น คือ ปลัดอำเภอ, ปลัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และกำนันผู้ใหญ่บ้านช่วยดูแลและนำเกษตรกรเข้ามาที่จุดรับจำนำข้าว ซึ่งเชื่อว่าจะทำงานได้ดีกว่าการติดเครื่องจีพีเอส

ด้าน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีต่อที่ประชุมว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการตรวจสอบพบการกระทำผิดอีก 2คดี ซึ่งในคดีนี้มีการตรวจสอบพบในโกดัง จ.สระแก้ว มีข้าวเกิน 5 ตัน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าข้าวที่พบเป็นลักลอบนำข้าวเข้ามาจากต่างประเทศหรือไม่ ส่วนอีก 1 คดี ที่ จ.บุรีรัมย์ มีการครอบครองข้าวสารเกิน 5 ตัน ซึ่งได้ดำเนินคดีไปแล้ว โดยขณะนี้มีคดีทั้งสิ้น 27 คดี ส่วนคดีอื่นๆ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนต่อไป

ส่วนปัญหาการลักลอบนำข้าวเปลือกเข้ามาในราชอาณาจักรนั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดที่มีพื้นที่ติดแนวชายแดน เช่น จ.อำนาจเจริญ จ.สระแก้ว ยืนยันว่า มีการตั้งด่านตรวจป้องกันอย่างเข้มงวดบริเวณชายแดน โดยขณะนี้ยังไม่พบการลักลอบนำข้าวเปลือก และข้าวสารเข้ามาในราชอาณาจักร

ทั้งนี้มีการรายงานข้อมูลจากตัวเลขที่ชาวนาขึ้นทะเบียนในโครงการประกันรายได้มี 4.2 ล้านครัวเรือน ส่วนโครงการรับจำนำข้าวมีชาวนามาขึ้นทะเบียนเพียงแค่ 1.2 ล้านครัวเรือน ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ได้สั่งให้มีการตรวจสอบว่ามีการสวมสิทธิ์เกิดขึ้นหรือไม่ พร้อมระบุว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ยังคงเดินหน้าตรวจสอบในเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีวันเข้าใจในนโยบายของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว

สำหรับหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุม ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์, กรมการข้าว, กรมการค้าภายใน, กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในพื้นที่ที่ติดกับชายแดนรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน, ตำรวจสอบสวนกลาง, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง, ตำรวจตระเวนชายแดน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.), องค์การคลังสินค้า (อคส.), องค์การตลาดเพื่อการเกษตร(อตก.) นางศิวาพร ชื่นจิตศิริ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ