เลือกตั้ง'57: "สมชัย"นัดรัฐบาล 17 ก.พ.ถกโจทย์ใหญ่แนวปฎิบัติจัดเลือกตั้ง

ข่าวการเมือง Monday February 10, 2014 10:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ฝ่ายบริหารการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 17 ก.พ.นี้ จะเชิญตัวแทนจากฝ่ายรัฐบาล ตลอดจนผู้ที่มีความเห็นสอดคล้องกับรัฐบาลมาหารือร่วมกันเพื่อสอบถามความเห็นโดยมีโจทย์ที่สำคัญคือ จะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเสร็จสมบูรณ์ตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ
"จะเชิญในปีกที่พูดแล้วสอดคล้องกับสิ่งที่รัฐบาลพูด หรือเป็นแนวทางเดียวกับรัฐบาล โจทย์คือ จะช่วยทำอย่างไรให้การเลือกตั้งนั้นเสร็จตามเงื่อนไขที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ ตัวแรกคือ 30 วันให้ได้ ส.ส. 95% ทำได้อย่างไร หรือ 180 วัน ให้ได้ ส.ส.ครบทั้งสภาทำอย่างไร นี่พูดในทางปฏิบัติว่าจะทำได้อย่างไร ไม่ได้พูดในทางกฎหมาย ท่านเหล่านี้น่าจะมีประสบการณ์ และมุมมองที่เป็นประโยชน์" นายสมชัย กล่าว

สำหรับบุคคลที่จะเชิญมาให้ความเห็น ได้แก่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี, นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน, นายโภคิน พลกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และนางสดศรี สัตยธรรม อดีตกกต. เป็นต้น

นอกจากนี้ จะขอความเห็นจากกรณีของ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ที่ยังประกาศชื่อไม่ได้ เพราะยังไม่สามารถนับคะแนนได้ครบจากทุกหน่วยเลือกตั้งจะทำอย่างไร เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ รวมทั้งกรณีที่หน่วยเลือกตั้งใดที่ถูกขัดขวาง หรือคัดค้านจากประชาชนนั้น เราจะมีวิธีการอย่างไร

ขณะเดียวกันยังมีโจทย์อีกข้อจากนางสดศรี สัตยธรรม อดีตกกต.ที่แสดงความเห็นว่า กกต.จะต้องประกาศผลนับคะแนนเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ภายใน 30 วัน ไม่เช่นนั้นจะผิดกฎหมาย ซึ่งในจุดนี้ก็เป็นโจทย์ว่า คะแนนจากการเลือกตั้งล่วงหน้ายังไม่ได้นำมานับรวม ดังนั้นจึงยังประกาศผลไม่ได้ จุดนี้จะทำอย่างไร เพราะคะแนนจากการเลือกตั้งล่วงหน้านี้ หาก กกต.จัดเลือกตั้งแล้วมีการขัดขวางเกิดขึ้นอีก และทำให้ไม่สามารถได้คะแนนครบจากทุกหน่วยจะทำอย่างไร ซึ่งทุกประเด็นนี้คงต้องมาช่วยกันหาคำตอบ

"ผมอยากได้ความเห็นจากทุกฝ่าย การเปิดกฎหมาย ใครก็เปิดได้ แต่เราอยากได้วิธีการปฏิบัติ...เราจะทำจดหมายเชิญอย่างเป็นทางการ ผมจะนั่งฟังตั้งแต่เริ่มรายการจนถึงท้ายรายการ และจะสรุปเป็นความเห็นว่า ที่ประชุมให้ทำอย่างไร และจะนำความเห็นที่ได้ทั้งหมดเสนอต่อกรรมการการเลือกตั้งทั้ง 5 คนอีกครั้ง" นายสมชัย กล่าว พร้อมระบุว่า สำหรับกลุ่มที่เห็นตรงข้ามกับรัฐบาล ที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดการเลือกตั้งนั้น คงจะไม่เชิญมาร่วมหารือ เนื่องจากได้รับฟังความเห็นและมีข้อมูลในส่วนนี้มามากพอแล้ว

กกต.ฝ่ายบริหารการเลือกตั้ง กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ต้องการนำเสนอในการหารือวันที่ 17 ก.พ.นี้ ที่สำคัญคือ คำตอบของทุกเรื่องอยู่ที่การเจรจาของฝ่ายการเมืองที่เป็นคู่ขัดแย้งกัน เมื่อใดก็ตามที่ทั้งสองฝ่ายเจรจากันได้ หาทางออกให้แก่บ้านเมืองได้ การเลือกตั้งก็เป็นเรื่องง่ายแบบพลิกฝ่ามือ แต่หากการเจรจาระหว่างฝ่ายการเมืองยังไม่เกิดขึ้น มุ่งหน้าเอาชนะกันด้วยการเดินหน้าออกหมายจับ ตัดท่อน้ำเลี้ยง เนรเทศออกนอกประเทศ อีกฝ่ายหนึ่งก็จะเดินขบวนให้ถึงที่สุด นัดชุมนุมไปบุกยึดสถานที่ราชการต่างๆ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ต่อให้ใครมาจัดการเลือกตั้งก็ทำได้ลำบาก และเสียงบประมาณการจัดการเลือกตั้งไปแบบเปล่าประโยชน์ สุดท้ายประเทศชาติก็เสียหาย

นายสมชัย กล่าวว่า ในส่วนของ 28 เขตที่ยังไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ อันเนื่องจากไม่มีผู้มาลงสมัครรับเลือกตั้งได้นั้น กกต.จะทำความเห็นเป็นหนังสือไปถึงรัฐบาลเพื่อให้ออกเป็นพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ โดยขณะนี้ฝ่ายเลขาฯ ร่างหนังสือเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะนำเสนอต่อที่ประชุม กกต.ในวันพรุ่งนี้(11 ก.พ.) ก่อนที่จะส่งไปให้รัฐบาลได้พิจารณา

อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลปฏิเสธการออก พ.ร.ฏ.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ก็อาจจะต้องเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยว่าควรมีแนวทางในการปฏิบัติอย่างไร ซึ่งในจุดนี้การให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยถือว่าเป็นสิ่งดี เพราะจะทำให้การตัดสินใจดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดของแต่ละฝ่ายเกิดความมั่นใจว่าเมื่อทำไปแล้วจะไม่ขัดต่อกฎหมาย และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

"เป็นสิ่งที่ดีกับทั้งสองฝ่าย เพราะถ้าศาลบอกว่าทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ก็จะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั้นทำได้ด้วยความสบายใจ ไม่ต้องกลัวผิดกฎหมาย เช่น ถ้าบอกว่า กกต.ทำได้ เราก็จะได้ทำด้วยความสบายใจ ไม่ใช่จะมาโดนข้อหาว่าใช้ความพยายามทำเกินกฎหมายเพื่อประโยชน์ของฝ่ายการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือถ้าศาลบอกว่าให้รัฐบาลทำได้ รัฐบาลก็จะได้สบายใจว่าการออก พ.ร.ฎ.ไม่ซ้อน พ.ร.ฏ. ไม่ผิดกฎหมาย ไม่มีใครมาร้องให้ยุบพรรคเพื่อไทย เป็นต้น" นายสมชัย กล่าว

ส่วนกรณีที่มีผู้มองไปถึงว่า กกต.ตั้งใจจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลวินิจฉัยว่าสามารถออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้ ซึ่งผลของการออกพระราชกฤษฎีกาใหม่จะทำให้มีวันเลือกตั้งทั่วไปมากกว่า 1 วัน ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ ดังนั้นต้องออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งทั่วประเทศใหม่ โดยให้การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะ และเริ่มขั้นตอนการรับสมัคร ส.ส.ใหม่นั้น นายสมชัย กล่าวว่า ตนคงไม่กล้าจะมองข้ามชอตไปไกลขนาดนั้น และที่สำคัญตนยังไม่ได้เห็นหนังสือที่กกต.จะนำเสนอรัฐบาลว่าจะมีการขอความเห็นในเรื่องใดบ้างสำหรับการหารือร่วมกันวันที่ 17 ก.พ.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ