"นิพิฏฐ์" จี้พรรคภูมิใจไทยเสียสละ แก้ปัญหาปมเสียบบัตรแทน หลังเปิดหลักฐานมัด"นาที"

ข่าวการเมือง Wednesday January 22, 2020 14:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงยืนยันว่าจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่ามีการกดบัตรแทนกันอย่างแน่นอนอย่างน้อย 2 คนคือนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และนายฉลอง เทิดวีระพงศ์ ส.ส. พัทลุง พรรคภูมิใจไทย และจะส่งผลให้ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

นายนิพิฏฐ์ ได้เปิดหลักฐานเป็นตั๋วสายการบิน และภาพของนางนาที เดินทางไปประเทศจีน ที่เมืองเจิ้นโจว เมื่อวันที่ 11 มกราคม ผ่านจุดตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 15.28 น. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่นางนาทีลงมติเห็นชอบมาตรา 49 ของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 โดยเชื่อว่านางนาที จะเดินทางออกจากรัฐสภาก่อนหน้านั้น ไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง และเมื่อตรวจสอบย้อนหลังยังพบการลงมติของนางนาที ตั้งแต่มาตรา 45 - 48 ด้วย

"ยืนยันว่ามีข้อมูลแค่นี้ เพราะคนที่เดินทางไปกับคุณนาที และหน่วยงานที่คุณฉลองไปร่วมกิจกรรมโพสต์ภาพบนเฟซบุ๊ก หากผมมีข้อมูลมากกว่านี้จะตรวจสอบมากกว่านี้ ส่วนเรื่องที่ผมแถลงนั้นต้องการจะบอกกับประชาชน ฐานะที่ผู้แทนไม่ได้ทำหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่ได้ยื่นต่อประธานสภาฯ ให้ตรวจสอบการกดบัตรแทนกัน"นายนิพิฏฐ์ กล่าว

อย่างไรก็ตามส่วนตัวเห็นว่ามีวิธีการที่จะทำให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ไม่เป็นโมฆะโดยพรรคภูมิใจไทยต้องยอมเสียสละอวัยวะเพื่อรักษาร่างกาย เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้

"ทั้งนายฉลองและนางนาที ต้องมารับสารภาพว่าไม่ได้กดบัตรลงมติเองในมาตราไหนบ้าง เพื่อที่ศาลรัฐธรรมนูญจะได้แยกออกมาว่า ร่างพ.ร.บ.นี้มีปัญหาเฉพาะมาตราไหนบ้าง แต่ไม่กระทบกับเสียงส่วนใหญ่ซึ่งเห็นชอบในร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ แต่ถ้าทั้งสองคนไม่ยอมรับก็จะทำให้เข้าข่ายกับคดีที่ศาลเคยวินิจฉัยและศาลคงไม่มีทางออกอื่นนอกจาก ให้ร่างพ.ร.บ. งบประมาณฯ เป็นโมฆะ"

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ทางเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรสรุปรายงานการตรวจสอบกรณีเสียบบัตรแทนกัน ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 แล้วว่ามีการเสียบบัตรแทนกันจริง และไม่พบว่ามีการเสียบบัตรค้างไว้ข้ามคืน

โดยในเบื้องต้นมีความเห็นร่วมกันกับฝ่ายเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า ถ้าจะนำร่างกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯ ต้องไม่มีปัญหา ซึ่งขณะนี้มีเวลาอีก 3 วัน ที่สมาชิกไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของทั้งสองสภาจะสามารถเข้าชื่อเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ภายใน 3 วัน หลังจากวุฒิสภามีมติเห็นชอบ

ส่วน ส.ส. ควรจะเข้าชื่อเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่อยากชี้นำเรื่องนี้ เพราะเป็นสิทธิของ ส.ส. ที่จะเข้าชื่อ ส่วนกรณีเสียบบัตรแทนกันจะทำให้ร่างกฎหมายตกทั้งฉบับหรือไม่นั้น เคยเกิดขึ้นกรณีพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของ ประเทศ ปี 2557 ซึ่งนอกจากการเสียบบัตรแทนกันแล้วยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่เป็นเหตุให้ร่างกฎหมายไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งกรณีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 ต้องพิจารณาที่ข้อเท็จจริง พร้อมย้ำว่าควรทำเรื่องให้ชัดเจน ดีกว่าปล่อยให้เคลือบแคลงสงสัย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ