บารัค โอบามา วุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์และผู้สมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ได้วิพากษ์วิจารณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัทคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองรายใหญ่สุดของสหรัฐว่า เป็นหนึ่งในตัวอย่างความผิดพลาดทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปัจจุบัน โอบามาซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างรณรงค์หาเสียงที่รัฐเพนซิลวาเนีย กล่าวว่า คันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ซับไพร์มในสหรัฐ พร้อมกับตำหนิผู้บริหารของคันทรีไวด์ที่ได้รับเงินโบนัสหลายล้านดอลลาร์ แต่กลับปล่อยให้พนักงานถูกตัดเงินบำเน็จบำนาญ และทำให้กลุ่มเจ้าของบ้านในสหรัฐถูกบีบให้ต้องขายบ้าน "เกิดอะไรขึ้นกับคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล คำตอบก็คือการขาดความรับผิดชอบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและทำให้จำนวนบ้านที่ถูกยึดพุ่งสูงขึ้น ประชาชนกว่า 2 ล้านคนอาจต้องสูญเสียบ้าน" โอบามากล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โอบามาและนางฮิลลารี ร็อดแฮม คลินตัน กำลังขับเคี่ยวกันชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครต โดยทั้งคู่เสนอแผนการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเจ้าของบ้านที่ประสบปัญหการยึดทรัพย์ที่จำนองไว้ พร้อมกับเรียกร้องให้มีการใช้กฎระเบียบการเงินที่มีขอบเขตกว้างขวางมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า หากฮิลลารีหรือโอบามาได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ก็จะต้องพบกับศึกหนัก หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงซบเซาอย่างต่อเนื่องตามที่นักเศรษฐศาสตร์บางกลุ่มคาดไว้ คันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ขาดทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 เนื่องจากวิกฤตการณ์ในตลาดปล่อยกู้จำนองที่ทำให้บริษัทต้องกันเม็ดเงินหลายล้านดอลลาร์ไว้เพื่อรองรับการขาดทุนและการตัดบัญชีหนี้สูญ นอกจากนี้ บริษัทยอมรับว่า ได้กู้ยืมเงินมูลค่า 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากธนาคารพาณิชย์ 40 แห่ง เพื่อนำมาพยุงสถานะด้านการปล่อยกู้จำนองของบริษัท นายแองเจโล โมซิโล ผู้บริหารของคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียลกล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทขาดทุนอย่างหนักมาจากภาวะชะงักงันที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้จำนองและเนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐชะลอตัวลงอย่างหนัก