อดีตประธานาธิบดีเฉิน สุ่ย เปียน ขึ้นศาลเพื่อรับฟังการพิจารณาคดีทุจริตในวันนี้ ซึ่งเป็นการพิจารณาข้อหาแรกในหลายข้อหาที่อาจทำให้เขาต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่อดีตประธานาธิบดีไต้หวันและกลุ่มผู้สนับสนุนมองว่า ข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริต การปลอมแปลงเอกสาร การฉ้อโกงเงิน และการฟอกเงินนั้นเป็นแผนที่ต้องการสร้างคะแนนนิยมของรัฐบาลจีน
นายเฉิน และนางอู๋ ชู เฉิน ภรรยา รวมทั้งลูกชายและลูกสะใภ้ถูกตั้งข้อหาดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมาในขณะที่นายเฉินยังดำรงตำแหน่งอยู่ โดยนางอู๋ได้รับสารภาพเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารและฟอกเงิน ทั้งนี้ เฉิน สุ่ยเปียน ถือเป็นผู้นำไต้หวันคนแรกที่ถูกดำเนินคดีหลังจากที่ก้าวลงจากตำแหน่ง
การพิจารณาคดีครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบของประธานาธิบดีหม่า อิง จิว จากพรรคก๊กมินตั๋งที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนมากกว่า หลิว ปี ร่ง ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยซูโจวในกรุงไทเป กล่าวว่า ประชาชนหมดความอดทนเนื่องจากคดีนี้ใช้เวลานาน และพรรคดีพีพีก็ออกมาแจงกับประชาชนว่าคดีดังกล่าวเป็นเรื่องของการเมือง และบางส่วนก็โทษคณะทำงานของประธานาธิบดีหม่าถึงเรื่องภาวะไร้ประสิทธิภาพในการจัดการกับคดี อีกทั้งยังเป็นการเสียเวลาและทรัพยากรในการตัดสินลงโทษอดีตประธานาธิบดี
นอกจากข้อหารับสินบนแล้ว นายเฉินยังถูกตั้งข้อหายักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด รวมถึงบังคับข่มขู่ หากตัดสินว่ามีความผิดทุกข้อกล่าวหาก็อาจทำให้เขาถูกจำคุกตลอดชีวิต