สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่องชีวิตที่พอเพียงกับความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชนและประเด็นสำคัญอื่นๆของประเทศในขณะนี้ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนใน 17 จังหวัดของประเทศ จำนวน 1,228 ครัวเรือน พบว่าประชาชนร้อยละ 73.9 เห็นด้วยว่าการใช้ชีวิตพอเพียงช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และประชาชนส่วนใหญ่พยายามรักษาสิ่งของเครื่องใช้ให้คงสภาพใช้งานได้ยาวนาน และมุ่งทำงานให้พออยู่พอกินและมีเงินเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น
ทั้งนี้ ในการสำรวจความเห็นกรณีการทุจริตคอร์รัปชั่นมีประชาชนถึงร้อยละ 84.5 มองว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดาในการทำธุรกิจ และส่วนใหญ่ร้อยละ 51.2 ยังยอมรับได้ที่รัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น โดยคิดว่าทุกรัฐบาลมีการทุจริตคอร์รัปชั่นถ้าทุจริตแล้วทำให้ประเทศรุ่งเรือง ประชาชนกินดีอยู่ดีก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้
ส่วนกรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศกรณีเขาพระวิหาร ประชาชนร้อยละ 84.6 เห็นว่าอยากให้เจรจากันด้วยสันติวิธีและร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ มีเพียงร้อยละ 4.8 ที่อยากให้ใช้กองกำลังในการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ ความเห็นเกี่ยวกับสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง พบว่า ร้อยละ 52.9 สนับสนุนโดยมีเงื่อนไขให้ชุมนุมอย่างสงบ ร้อยละ 16.3 สนับสนุนโดยไม่มีเงื่อนไข และ ร้อยละ 21.1 ไม่สนับสนุนเลย