เอแบคโพลล์เผยต่างชาติเชื่อระบบประชาธิปไตยของไทยจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น

ข่าวการเมือง Saturday August 29, 2009 17:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจเสียงสะท้อนชาวต่างชาติต่อประเทศไทย ภายหลังประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคง จำนวน468 ตัวอย่าง ระหว่าง 26-28 สิงหาคม 2552 พบว่า ชาวต่างชาติส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.2 รู้และเข้าใจสถานการณ์การเมืองของไทยเพียงเล็กน้อย ร้อยละ 30.9 รู้บ้าง มีเพียงร้อยละ 3.1 และร้อยละ 0.8 เท่านั้นรู้ค่อนข้างละเอียดถึงรู้อย่างละเอียด

ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 91.2 เห็นว่ารัฐบาลไทยควรจะประชาสัมพันธ์สื่อสารเกี่ยวกับ พ.ร.บ.มั่นคงฯ มากกว่านี้ ร้อยละ 70.2 ระบุกังวลว่าจะมีความยากลำบากในการเดินทางในขณะที่มีการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ชาวต่างชาติส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.8 มองว่าเป็นการดีที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ เพื่อป้องกันความวุ่นวาย และร้อยละ 44.7 เห็นว่าสถานการณ์ในประเทศไทยจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีการชุมนุม ที่น่าสนใจคือชาวต่างชาติส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.5 เชื่อว่าประชาธิปไตยของไทยจะทำให้ระบบเศรษฐกิจดีขึ้น และร้อยละ 96.3 ไม่เห็นด้วยถ้าประเทศไทยถูกปกครองโดยรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย และที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งคือ ชาวต่างชาติร้อยละ 97.7 บอกว่า “ฉันรักประเทศไทย"

นอกจากนี้ ร้อยละ 57.4 ค่อนข้างเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้า และร้อยละ 15.3 เชื่อมั่น ขณะที่ร้อยละ 20.7 ไม่ค่อยเชื่อมั่นและร้อยละ 6.6 ไม่เชื่อมั่น เมื่อถามถึงเรื่องที่อยากจะพูดถึงเกี่ยวกับประเทศไทยให้ชาวต่างชาติคนอื่นๆ ฟัง ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.3 อยากพูดว่า ผู้คนในประเทศไทยมีอัธยาศัยดี มีไมตรีจิตต่อกัน ร้อยละ 54.8 อยากพูดว่า สถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม มีแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และร้อยละ 2.6 อยากพูดถึงวิกฤตขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทย

สำหรับทางออกที่ดีที่สุดสำหรับวิกฤตการณ์ต่างๆ ของประเทศไทย ชาวต่างชาติส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71 มองว่าทางออกที่ดีที่สุดคือ ความเป็นประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิออกเสียงเสนอความคิดเห็นได้อย่างเท่าเทียม ร้อยละ 19.3 ให้ทุกฝ่ายมีการประนีประนอมกัน และร้อยละ 9.7 ให้มีการเลือกตั้งใหม่ ตามลำดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ