นายเกิง หยานเซิน โฆษกกระทรวงกลาโหมของจีนกล่าวว่า รัฐบาลจีนขอคัดค้านรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) ที่อ้างถึงแสนยานุภาพทางทหารของจีน โดยชี้ว่า รายงานดังกล่าว "ละเลยความจริงอย่างที่ควรจะเป็น" พร้อมกับเรียกร้องให้สหรัฐยุติการเผยแพร่รายงานดังกล่าว และเตือนว่ารายงานฉบับนี้อาจทำลายความพันธ์ทางทหารของทั้งสองประเทศ
รายงานประจำปีของเพนตากอนว่าด้วยเรื่องแสนยานุภาพทางทหารของจีนที่ยื่นต่อสภาคองเกรสเมื่อวันจันทร์ที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น เพนตากอนเตือนว่าการที่จีนเพิ่มขีดความสามารถทางการทหารอาจทำให้เกิดความไม่นอนในด้านต่างๆ อีกทั้งเตือนว่าจีนยังคงแผ่อิทธิพลทางการทหารเหนือไต้หวัน ขณะที่ความโปร่งใสของจีนก็อยู่ในวงที่จำกัด ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าการที่จีนเพิ่มขีดความสามารถของแสนยานุภาพทางทหารเช่นนี้ อาจถูกนำไปตีความในทางที่ผิดและทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
"รายงานฉบับนี้ละเลยความจริงอย่างที่ควรจะเป็น และเป็นการกล่าวโทษกิจการด้านกลาโหมและการทหารของจีน จีนพัฒนากองทัพอย่างสมเหตุสมผลและเหมาะสม และจีนใช้แสนยานุภาพทางทหารเพื่อป้องกันอธิปไตยของชาติเท่านั้น" นายเกิงกล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไชน่า นิวส์ เซอร์วิสในวันนี้
นายเกิงยังกล่าวด้วยว่า รายงานของเพตากอนไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านการพัฒนาและยกระดับความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างจีนและสหรัฐ พร้อมกับเรียกร้องให้สหรัฐมองเป้าหมายในการเสริมสร้างกองทัพของจีนตามความเป็นจริงและยุติธรรม
ทั้งนี้ รายงานของเพนตากอนระบุว่า จีนมีเป้าหมายในการขยายขีดความสามารถทางทหารในภูมิภาคตะวันออก ทะเลจีนใต้ และพื้นที่ใกล้เคียง
สำนักงานเกียวโดรายงานว่า รายงานของเพนตากอนมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนกำลังตึงเครียด เนื่องจากสหรัฐมีความกังวลต่อสถานะของจีนในทะเลจีนใต้ ที่ซึ่งจีนมีข้อพิพาทด้านดินแดนกับประเทศอื่นๆ และเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศระงับความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐชั่วคราว หลังจากสหรัฐทำข้อตกลงค้าอาวุธกับไต้หวันมูลค่า 6.4 พันล้านดอลลาร์