หวัง เฉียน นักเศรษฐศาสตร์ของเจพี มอร์แกน เชส ระบุว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะไม่สามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อและควบคุมราคาอาหารได้ในระยะสั้น โดยรัฐบาลอาจจะใช้วิธีให้เงินอุดหนุนแก่ครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ และนำสินค้าในสต็อกของรัฐบาลออกสู่ท้องตลาด เพื่อดึงราคาสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันให้ปรับตัวลดลง
นายหวังกล่าวว่า รัฐบาลจีนจะยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการทำให้นโยบายการเงินกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากกว่านี้ เพื่อลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ โดยจีนอาจจะขึ้นเพดานกันสำรองสภาพคล่องธนาคาร 2 ครั้ง และขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนก็น่าจะแข็งค่าขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม นายหวังคาดว่า หากข้อมูลเงินเฟ้อของจีนยังสูงขึ้นต่อไป จีนอาจจะใช้นโยบายเหล่านี้ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์จากเจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า จีนอาจจะขึ้นดอกเบี้ยในไตรมาสแรกของปี 2554 แต่ถ้าเงินเฟ้อเดือนพ.ย.ปีนี้ยังคงอยู่ที่ระดับสูง จีนก็อาจจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐนั้น จะค่อยๆแข็งค่าขึ้นอีก 5% ในปีหน้า
หวัง เต๋า นักเศรษฐศาสตร์ของยูบีเอส ซิเคียวริตีส์ คาดการณ์ว่า จีนอาจจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาอาหารที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม
ยูบีเอสคาดการณ์ว่า จีนจะขึ้นดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีหน้า และธนาคารกลางจีนจะเพิ่มการดำเนินการผ่านทาง open market operation เพื่อควบคุมสภาพคล่องที่สูงเกินไป และจะลดเป้าการขยายตัวของสินเชื่อในปีหน้า โดยธนาคารกลางจีนอาจจะควบคุมการปล่อยเงินกู้ใหม่ในปีหน้าให้อยู่ในช่วง 6.5-7 ล้านล้านหยวน