Analysis: ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของจีนอาจจะผันผวนอย่างมากในระยะสั้น

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 30, 2010 10:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของจีนขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีสัญญาล่วงหน้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การเกษตรบางประเภทดีดตัวขึ้นเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2551 เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT และราคาน้ำมันดิบที่มีเสถียรภาพอยู่เหนือระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นักวิเคราะห์มองว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 2 เดือน ช่วยจำกัดผลกระทบของตลาดซื้อขายล่วงหน้าภายในประเทศ และคงจะไม่ทำให้แนวโน้มดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไป จนกว่าปัจจัยลบจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะสิ้นสุดลง ดังนั้น ในระยะสั้น ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ภายในประเทศจึงมีแนวโน้มที่จะผันผวน ท่ามกลางผลพวงต่างๆที่เกิดขึ้นจากการใช้นโยบายและจากปัจจัยพื้นฐาน

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของจีนโดยรวมนั้นปรับตัวขึ้น ยกเส้นสัญญาล่วงหน้ายาง โพลีเอธิลีน พีวีซี พีทีเอ และเชื้อเพลิง โดยสัญญาน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันปาล์มยังดีดตัวขึ้นทำนิวไฮนับตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2551 เลยทีเดียว

ช่วงขาขึ้นในตลาดส่วนใหญ่เป็นเพราะการลดปริมาณการผลิตลงเนื่องจากสภาพอากาศที่รุนแรง รวมทั้งการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า จะมีดีมานด์จากจีน

ขณะเดียวกัน ความต้องการในการลงทุนนั้นทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ด้านเงินทุน และยังช่วยกระตุ้นราคาสินค้าโภคภัณฑ์อีกด้วย ซึ่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารจะช่วยควบคุมภาวะฟองสบู่ เพื่อชะลอความร้อนแรงในตลาด

ทั้งนี้ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของจีนในปีนี้ ช่วยส่งสัญญาณที่เป็นบวกเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการสร้างเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งจะส่งผลกระทบด้านลบในตลาดในระยะยาว

หนี หยั่นหวู นักวิเคราะห์ของซินหัว ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า แม้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในปัจจุบันจะอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่จุดพลิกผันอาจจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ เมื่อพิจารณาจากความเสี่ยงด้านระบบ 2 ข้อ

ความเสี่ยงแรกมาจากระบบเศรษฐกิจที่แท้จริงซึ่งเกี่ยวข้องกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะสามารถขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพในปีหน้า ในขณะเดียวกัน ประเทศในกลุ่มยูโรโซน เช่น เยอรมนี และฝรั่งเศส กำลังขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากวิกฤตหนี้ยุโรป

รายงานเรื่องการลงทุนโดยเมอร์ริล ลินช์ บาร์เคลย์ และโกลด์แมน แซคส์ เมื่อเร็วๆนี้ ต่างยกระดับคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐในอนาคต ขณะที่ตลาดเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นดีกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่สดใสจะช่วยหนุนตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ส่วนความเสี่ยงอันดับที่ 2 เป็นความเสี่ยงจากตลาดการเงิน รวมทั้งตลาดหุ้นและเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเร็วๆนี้ และมีแนวโน้มว่าจะดีดตัวขึ้นอีก โดยเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีกว่าคาดนั้น คาดว่าจะช่วยให้ดัชนีต่างๆอยู่ในช่วงขาขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า ในทางตรงกันข้าม นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดคาดว่า เงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น ซึ่งหากการคาดการณ์ดังกล่วเป็นจริง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็คงจะร่วงลง

ส่วนความเสี่ยงสุดท้ายมาจากเรื่องนโยบายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยนโยบายการเงินที่รอบคอบของจีน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะลดสภาพคล่องส่วนเกินในตลาด แต่คงจะไม่สามารถคุมเข้มตลาดได้มาก หากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวดีมากในปีหน้า สหรัฐก็คงจะไม่ได้ใช้นโยบายเงินตราแบบผ่อนคลายอีกต่อไป และภาวะแวดล้อมด้านเงินทั่วโลกจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีและช่วยหนุนเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน


แท็ก น้ำมันดิบ   BOT  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ