นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เชื่อว่าสถานการณ์ปาล์มน้ำมันจะคลี่คลายลงตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.นี้เป็นต้นไป หลังจากที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ 30,000 ตันแล้ว และสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ โดยมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการบริโภคและราคา เริ่มลดลงได้ตั้งแต่เดือนมี.ค.นี้เป็นต้นไป เพราะผลผลิตปาล์มสดในประเทศเริ่มออกสู่ท้องตลาดแล้ว
จากการตรวจสอบสต็อกของผู้ผลิต ผู้นำเข้า โรงงานสกัด และโรงกลั่นน้ำมันปาล์มในแหล่งผลิตสำคัญ พบว่า เกิดปัญหาตึงตัวของน้ำมันปาล์มสำหรับบริโภคในตลาดในช่วงนี้ เพราะผลผลิตปาล์มสดยังไม่ออกสู่ตลาด
โดยน้ำมันปาล์มดิบในจังหวัดกระบี่ มีสต๊อกเหลือเดือนละประมาณ 4,000 ตัน จากปกติมีเดือนละ 24,000 ตัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเพียง 13,000 ตัน จากปกติมี 30,000 ตัน และจังหวัดชุมพร มีเพียง 6,800 ตัน จากปกติ 12,000 ตัน ซึ่งรวมกันแล้วมีเพียง 23,800 ตัน จากปกติ 66,000 ตัน จึงได้ประสานโรงกลั่นน้ำมันปาล์มนำน้ำมันปาล์มบรรจุขวดออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนั้น ได้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบปริมาณ สถานที่จัดเก็บ และกำกับดูแลการแก้ไขปัญหาน้ำมันพืช ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน และตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อติดตามและดำเนินคดีผู้กระทำผิด กรณีปฏิเสธการจำหน่าย กักตุน หรือขายเกินราคา โดยให้ติดตามสถานการณ์ และกำกับดูแลการแก้ไขปัญหาน้ำมันพืชให้มีปริมาณเพียงพอ และราคาเป็นไปอย่างสอดคล้องกับต้นทุน ไม่ให้เกิดการกักตุน
สำหรับสถานการณ์น้ำมันถั่วเหลือง ขณะนี้ยังมีสต๊อกเก่าเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศได้อีก 2 เดือน แต่กรมได้ประสานงานกับโรงงานสกัดให้กระจาย และจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลืองในท้องตลาดให้เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคและไม่ให้ขายเกินราคาที่กำหนด
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลืองหรือไม่สามารถหาซื้อน้ำมันพืชได้ แจ้งที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานการค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศ